คนที่แสดงความคิดเห็นแบบนี้เพราะอะไร
เปิดเสรี BIBF ให้เงินทุนไหลเข้าโดยไม่มีการควบคุม ทำให้เกิดการนำเงินเข้ามาเพื่อการเก็งกำไรในระดับที่สูง set ปรับตัวขึ้นในปี 2536-2537
จาก 1100 กว่าๆไป 1700 กว่า จนมีผลให้เกิดการเก็งกำไรค่าเงินจน เกิดวิกฤตการเงินต้มยำกุ้งในเวลาต่อมา แต่พูดกันสนุกปากไปว่า สาเหตุมาจากรัฐบาลชาติชายในปี 2530 ที่ทำให้เกิดฟองสบู่ในระบบเศรษฐกิจ ทั้งๆที่จริงๆ เศรษฐกิจที่ดีขึ้นในสมัยนั้น มาจากนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า set ในสมัยนายกชาติชายปรับขึ้นอย่างมีเสถียรภาพใช้เวลา 4 ปี จากปี 2531-2534 set ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องรวมกัน4ปี ยังไม่เท่่ากับที่เกิดขึ้นในปี 2536 เพียงปีเดียว
หลังจากเกิดวิกฤต ก็มีโอกาสพลิกขั้ว เข้ามาบริหารประเทศโดยการกู้ขนานใหญ่ งบช่วยเหลือโครงการมิยาซาว่า ถูกเอาไปใช้งานโครงการขุดลอกคูคลองทั่วประเทศ 50,000 ล้านบาท อ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อยากถามว่า ขุดลอกคูคลองใช้เครื่องจักรหนักไม่ใช่หรือ เงินไปอยู่กับใคร มีการจ้่างงานแรงงานซักกี่คน เงินได้หมุนเข้ามาในระบบบ้างมั้ย หรือ ไหลเข้าไปอยู่ในมือใครซักกี่คนกัน
ตามด้วยเปิดแขนอ้ารับเงินกู้ imf แบบยึดเยื้อยาวนานเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนานาชาติไม่มีใครเค้าทำกัน จะยอมรับความช่วยเหลือในช่วงสั้นเท่านั้น แต่ไทยในช่วงนั้นกลับรับความช่วยเหลือจาก imf อย่างต่อเนื่องยาวนาน ตามด้วยกฎเกณฑ์สากล กดขี่คนในชาติอย่างยาวนาน จนหมดสมัยครบวาระ สร้างความเสียในคดี ปรส. ที่จนทุกวันนี้ผ่านมา 16 ปีแล้ว รอวันหมดอายุความ ไม่มีใครกล้าพูดถึง รอวันลืมเลือน
ต่อมาถอยออกมารอโอกาส ให้ประเทศได้เดินหน้าต่อบ้าง ให้สุจริตชนได้เริ่มต้น ทำมาหากิน เก็บสะสมเงินทองได้อยู่ได้ซักระยะ ในปี 2544-2547 set ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด 200 กว่าจุด ไป หยุดอยู่ที่ 600-700 ก่อนจะสร้างกระแสมวลชน ออกมากดดันสถานการณ์บ้านเมืองปลุกกระแสมวลชนเพื่อหาช่องเข้่ากอบโกย เข้ามามีอำนาจโดยอ้างสถานการณ์จำเป็นเพราะเกิดความขัดแย้ง
ล่วงเลยมาจน สถานการณ์โลกเข้าสู่วิกฤตซับไพร์มในอเมริกา สบโอกาส เดินแผนเผด็จศึก พลิกขั้วเข้ามาบริหารประเทศอีกครั้ง ตามด้วยการกู้เงินมโหฬาร ด้วยเงื่อนไข วิกฤตเศรษฐกิจ ตามแบบเดิมๆ ที่เคยทำมาตลอด
กู้เงิน 2.2 ล้าน การกู้ลักษณะนี้ ในช่วงที่ประเทศไม่ได้เกิดวิกฤต ไม่เหมาะสม
เปิดเสรี BIBF ให้เงินทุนไหลเข้าโดยไม่มีการควบคุม ทำให้เกิดการนำเงินเข้ามาเพื่อการเก็งกำไรในระดับที่สูง set ปรับตัวขึ้นในปี 2536-2537
จาก 1100 กว่าๆไป 1700 กว่า จนมีผลให้เกิดการเก็งกำไรค่าเงินจน เกิดวิกฤตการเงินต้มยำกุ้งในเวลาต่อมา แต่พูดกันสนุกปากไปว่า สาเหตุมาจากรัฐบาลชาติชายในปี 2530 ที่ทำให้เกิดฟองสบู่ในระบบเศรษฐกิจ ทั้งๆที่จริงๆ เศรษฐกิจที่ดีขึ้นในสมัยนั้น มาจากนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า set ในสมัยนายกชาติชายปรับขึ้นอย่างมีเสถียรภาพใช้เวลา 4 ปี จากปี 2531-2534 set ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องรวมกัน4ปี ยังไม่เท่่ากับที่เกิดขึ้นในปี 2536 เพียงปีเดียว
หลังจากเกิดวิกฤต ก็มีโอกาสพลิกขั้ว เข้ามาบริหารประเทศโดยการกู้ขนานใหญ่ งบช่วยเหลือโครงการมิยาซาว่า ถูกเอาไปใช้งานโครงการขุดลอกคูคลองทั่วประเทศ 50,000 ล้านบาท อ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อยากถามว่า ขุดลอกคูคลองใช้เครื่องจักรหนักไม่ใช่หรือ เงินไปอยู่กับใคร มีการจ้่างงานแรงงานซักกี่คน เงินได้หมุนเข้ามาในระบบบ้างมั้ย หรือ ไหลเข้าไปอยู่ในมือใครซักกี่คนกัน
ตามด้วยเปิดแขนอ้ารับเงินกู้ imf แบบยึดเยื้อยาวนานเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนานาชาติไม่มีใครเค้าทำกัน จะยอมรับความช่วยเหลือในช่วงสั้นเท่านั้น แต่ไทยในช่วงนั้นกลับรับความช่วยเหลือจาก imf อย่างต่อเนื่องยาวนาน ตามด้วยกฎเกณฑ์สากล กดขี่คนในชาติอย่างยาวนาน จนหมดสมัยครบวาระ สร้างความเสียในคดี ปรส. ที่จนทุกวันนี้ผ่านมา 16 ปีแล้ว รอวันหมดอายุความ ไม่มีใครกล้าพูดถึง รอวันลืมเลือน
ต่อมาถอยออกมารอโอกาส ให้ประเทศได้เดินหน้าต่อบ้าง ให้สุจริตชนได้เริ่มต้น ทำมาหากิน เก็บสะสมเงินทองได้อยู่ได้ซักระยะ ในปี 2544-2547 set ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด 200 กว่าจุด ไป หยุดอยู่ที่ 600-700 ก่อนจะสร้างกระแสมวลชน ออกมากดดันสถานการณ์บ้านเมืองปลุกกระแสมวลชนเพื่อหาช่องเข้่ากอบโกย เข้ามามีอำนาจโดยอ้างสถานการณ์จำเป็นเพราะเกิดความขัดแย้ง
ล่วงเลยมาจน สถานการณ์โลกเข้าสู่วิกฤตซับไพร์มในอเมริกา สบโอกาส เดินแผนเผด็จศึก พลิกขั้วเข้ามาบริหารประเทศอีกครั้ง ตามด้วยการกู้เงินมโหฬาร ด้วยเงื่อนไข วิกฤตเศรษฐกิจ ตามแบบเดิมๆ ที่เคยทำมาตลอด