ถือว่าเป็นการทรมานชาวนาอย่างแท้จริง ในบางพื้นที่นั้นมีแหล่งน้ำตามธรรมชาติ อ่างเก็บน้ำ ลำน้ำที่ไหลผ่านก็พอจะหายใจหายคอได้ อย่างเขตอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด แหล่งน้ำ อ่างเก็บน้ำ ก็เถอะครับ ในเมื่อฝนไม่เคยตก น้ำจะมาจากไหนครับ มีแต่จะแห้งหายไปเท่านั้นเอง และชาวบ้านก็ต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เพราะในการลงทุนในการทำนานั้น เงินทั้งสิ้นนะครับ ตั้งแต่ 1.)ไถ ค่าน้ำมัน (อันแสนแพง) จ้างเขามาไถ ไร่ละ 250 – 350 บาท/ไร่ 2.)ค่าพันธ์ข้าว 30 กก 580 – 800 บาท 3.)ปุ๋ย ถ้าปุ๋ยมูลสัตว์ ก็ตามสภาพ เช่น ปุ๋ยมูลไก่ กระสอบ 50 กก 250-400 บาท ปุ๋ยเคมี ตามสูตร 50 กก 800-1200 บาท ฯลฯ (โดยประมาณ) ซึ่งแน่นอนว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่จะซื้อด้วยเงินเชื่อครับ (ไม่เกี่ยวกับบัตรเครดิตเกษตรฯนะครับ ชาวบ้านบ่นกัน ของน้อย ไม่มีให้เลือก เหมือนบังคับ “เอาอะไรมาขายให้ ก็ต้องเอา”) ซึ่งในที่ผ่านมาในทุก ๆ ปีนั้น ไม่เคยประสบปัญหามากถึงขั้นนี้ เพราะชาวนาไม่ได้ผลผลิต แล้วเขาจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายให้ “จริงไหมครับ” ด้วยเหตุนี้ “เงินช่วยเหลือภัยแล้ง” นั้นก็ถือว่าเป็นความหวังอันสูงสุดของชาวนา ก็ว่าได้ แต่เท่าที่เกษตรอำเภอได้เข้ามาทำการสำรวจนั้น โดยให้ความหวัง ให้ชาวนาใจชื่นขึ้นมาในระดับหนึ่ง “ก็คือ บอกว่า “เงินงบประมาณอนุมัติมาแล้วนะครับ/คะ” แต่จนถึง ณ ตอนนี้ ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
ชาวบ้านหลายเขาก็ตั้งข้อสงสัยกันหลายเรื่อง อย่าง “ทำไมเงินช่วยเหลือน้ำท่วม(นาข้าว)ให้ไร่ละหลักพัน” ซึ่งมันต่างจาก “เงินช่วยเหลือภัยแล้ง ที่นาข้าวตายแล้ง ไร่ละหลักร้อย” แล้ว ณ ปัจจุบันความช่วยเหลือยังไม่ได้มาถึงชาวบ้านอีก จนจะเข้าฤดูทำนาอีกรอบ “ถ้าได้ ก็น่าจะมีจุดหมายว่า เดือนนี้ วันที่เท่านี้”เพื่อที่การตั้งตารอคอยของชาวบ้าน นั้นจะได้มีความหวังบ้าง หรือ “ไม่ได้ ไม่มีงบประมาณ ก็น่าจะบอกกันตามตรง ไม่ใช่มาคอยเสริม “เงินงบประมาณได้มาแล้วนะครับ งบประมาณตกมาที่จังหวัดแล้ว (ส่วนมาก ส.ส.เพื่อไทยด้วยนะที่พูด เวลามาร่วมงานในชุมชน) เพราะถ้าไม่ได้ ชาวนาเขาก็คงจะได้หาทางดิ้นทางใหม่
ประเทศไทย เป็นประเทศทางการเกษตร ที่มีข้าวเป็นสิ้นค้าส่งออก สร้างรายได้ให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด “แต่ ณ อดีต จนถึงปัจจุบัน ชาวนาไทย เป็นอาชีพที่ยากจน” จนหลาย ๆ คน เริ่มเปลี่ยนผืนนาไปสู่ ยางพารา อ้อย ฯ กันแล้ว
**ในต้นเดือนที่ผ่านมานั้นก็มีข่าวลือว่าชาวนา อำเภอสุวรรณภูมิ ได้รับเงินช่วยเหลือภัยแล้งนะ จะจริงหรือข่าวลืออีก
เงินช่วยเหลือภัยแล้ง ปี 55 ที่ชาวบ้านตั้งตารอ
ชาวบ้านหลายเขาก็ตั้งข้อสงสัยกันหลายเรื่อง อย่าง “ทำไมเงินช่วยเหลือน้ำท่วม(นาข้าว)ให้ไร่ละหลักพัน” ซึ่งมันต่างจาก “เงินช่วยเหลือภัยแล้ง ที่นาข้าวตายแล้ง ไร่ละหลักร้อย” แล้ว ณ ปัจจุบันความช่วยเหลือยังไม่ได้มาถึงชาวบ้านอีก จนจะเข้าฤดูทำนาอีกรอบ “ถ้าได้ ก็น่าจะมีจุดหมายว่า เดือนนี้ วันที่เท่านี้”เพื่อที่การตั้งตารอคอยของชาวบ้าน นั้นจะได้มีความหวังบ้าง หรือ “ไม่ได้ ไม่มีงบประมาณ ก็น่าจะบอกกันตามตรง ไม่ใช่มาคอยเสริม “เงินงบประมาณได้มาแล้วนะครับ งบประมาณตกมาที่จังหวัดแล้ว (ส่วนมาก ส.ส.เพื่อไทยด้วยนะที่พูด เวลามาร่วมงานในชุมชน) เพราะถ้าไม่ได้ ชาวนาเขาก็คงจะได้หาทางดิ้นทางใหม่
ประเทศไทย เป็นประเทศทางการเกษตร ที่มีข้าวเป็นสิ้นค้าส่งออก สร้างรายได้ให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด “แต่ ณ อดีต จนถึงปัจจุบัน ชาวนาไทย เป็นอาชีพที่ยากจน” จนหลาย ๆ คน เริ่มเปลี่ยนผืนนาไปสู่ ยางพารา อ้อย ฯ กันแล้ว
**ในต้นเดือนที่ผ่านมานั้นก็มีข่าวลือว่าชาวนา อำเภอสุวรรณภูมิ ได้รับเงินช่วยเหลือภัยแล้งนะ จะจริงหรือข่าวลืออีก