จากมติชนออนไลน์ แท็กไปห้องบลูด้วยค่ะ เผื่อเตือนใครมีแผนไปเที่ยวแอฟริกากลาง หรือประเทศที่อยู่ในละแวกแอฟริกากลาง
บีบีซี รายงานว่า กบฏในแอฟริกากลางประกาศว่าได้ยึดทำเนียบประธานาธิบดีได้แล้ว หลังจากประธานาธิบดีฟรังซัวส์ โบซิเซ แห่งสาธารณรัฐแอฟริกากลาง หลบหนีออกนอกประเทศในวันนี้ (24 มี.ค.) หลังกลุ่มกบฏ ‘เซเลกา’ บุกเข้ายึดกรุงบังกี เมืองหลวงของประเทศได้สำเร็จ
แหล่งข่าวรายหนึ่งอ้างว่านายโบซิเซ ได้หนีเข้าไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ประเทศเพื่อนบ้าน หลังปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 2546
กลุ่มกบฏได้ก่อจลาจลขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยกล่าวหาว่าประธานาธิบดีโบซิเซ ละเมิดข้อตกลงสันติภาพ และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) กองกำลังของฝ่ายกบฏ ได้บุกเข้าพื้นที่แถบชานเมืองด้านเหนือของกรุงบังกี จากนั้นได้เปิดฉากโจมตีด้วยอาวุธ ตั้งแต่เช้าวันนี้ (24 มี.ค.) จนสามารถยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ต่างๆ ของเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด
รายงานกล่าวว่ากลุ่มกบฏกำลังวางแผนจะย้ายไปยังสถานีวิทยุแห่งชาติในกรุงบังกี โดยนายมิเชล โจโตเดีย ผู้นำกบฏจะแถลงผ่านวิทยุกระจายเสียง
ขณะที่นายกัสตง มักกูซังบา โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีแอฟริกากลาง ออกมาแถลงยอมรับว่า กรุงบังกี ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฏแล้ว และแสดงความหวังว่าจะไม่มีการตอบโต้ใดๆ ให้เสียเลือดเสียเนื้อ
ขณะเดียวกันสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่ปรึกษาประธานาธิบดีไม่ทราบชื่อบอกว่านายโบซิเซ ต้องหลบหนีโดยอาศัยเรือลำหนึ่งเดินทางข้ามแม่น้ำอูบังกี เข้าไปในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกตั้งแต่เช้าวันนี้ (24 มี.ค. )
ด้านฝรั่งเศสได้เรียกประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและส่งกำลังทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยที่สนามบิน โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสได้เตือนให้ประชาชนชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในแอฟริกากลางหลบอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย
ฝรั่งเศสมีประชากรประมาณ 4.5 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากการก่อกบฏนับตั้งแต่เป็นอิสระจากการปกครองของฝรั่งเศสในปี 2503 นับเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในแอฟริกา แม้จะมีทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าอยู่มาก เช่น แร่ธาตุ ทองคำและเพชร
′แอฟริกากลาง′ แตก ′กบฏ′ ยึดทำเนียบได้สำเร็จ ปธน.หนีตายไปคองโก
บีบีซี รายงานว่า กบฏในแอฟริกากลางประกาศว่าได้ยึดทำเนียบประธานาธิบดีได้แล้ว หลังจากประธานาธิบดีฟรังซัวส์ โบซิเซ แห่งสาธารณรัฐแอฟริกากลาง หลบหนีออกนอกประเทศในวันนี้ (24 มี.ค.) หลังกลุ่มกบฏ ‘เซเลกา’ บุกเข้ายึดกรุงบังกี เมืองหลวงของประเทศได้สำเร็จ
แหล่งข่าวรายหนึ่งอ้างว่านายโบซิเซ ได้หนีเข้าไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ประเทศเพื่อนบ้าน หลังปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 2546
กลุ่มกบฏได้ก่อจลาจลขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยกล่าวหาว่าประธานาธิบดีโบซิเซ ละเมิดข้อตกลงสันติภาพ และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) กองกำลังของฝ่ายกบฏ ได้บุกเข้าพื้นที่แถบชานเมืองด้านเหนือของกรุงบังกี จากนั้นได้เปิดฉากโจมตีด้วยอาวุธ ตั้งแต่เช้าวันนี้ (24 มี.ค.) จนสามารถยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ต่างๆ ของเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด
รายงานกล่าวว่ากลุ่มกบฏกำลังวางแผนจะย้ายไปยังสถานีวิทยุแห่งชาติในกรุงบังกี โดยนายมิเชล โจโตเดีย ผู้นำกบฏจะแถลงผ่านวิทยุกระจายเสียง
ขณะที่นายกัสตง มักกูซังบา โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีแอฟริกากลาง ออกมาแถลงยอมรับว่า กรุงบังกี ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฏแล้ว และแสดงความหวังว่าจะไม่มีการตอบโต้ใดๆ ให้เสียเลือดเสียเนื้อ
ขณะเดียวกันสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่ปรึกษาประธานาธิบดีไม่ทราบชื่อบอกว่านายโบซิเซ ต้องหลบหนีโดยอาศัยเรือลำหนึ่งเดินทางข้ามแม่น้ำอูบังกี เข้าไปในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกตั้งแต่เช้าวันนี้ (24 มี.ค. )
ด้านฝรั่งเศสได้เรียกประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและส่งกำลังทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยที่สนามบิน โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสได้เตือนให้ประชาชนชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในแอฟริกากลางหลบอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย
ฝรั่งเศสมีประชากรประมาณ 4.5 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากการก่อกบฏนับตั้งแต่เป็นอิสระจากการปกครองของฝรั่งเศสในปี 2503 นับเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในแอฟริกา แม้จะมีทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าอยู่มาก เช่น แร่ธาตุ ทองคำและเพชร