ต่อจากกระทู้
[บันทึกนักเดินทาง] ตามล่าหาออโรร่าที่ Norway : March 2013 ตอนที่ 1 (รับกระแสโปร SAS)
http://pantip.com/topic/30281840
***
วันที่ 2 นี้ กำหนดการคร่าวๆของเราคือ
9.00 น. ทานอาหารเช้า
10.30 น. เช็คเอาท์ ฝากกระเป๋า จากนั้นเดินไปดูสถานที่ขึ้นเรือก่อน แล้วก็เดินชมเมือง
15.00 น. กินข้าวกลางวัน
17.00 น. กลับโรงแรม มาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ + ใบที่สายการบินมาส่ง แล้วเดินลากขึ้นเรือ
18.30 น. เรือออก
23.00 น. ดูออโรร่าบนเรือ
***
อย่างแรก เรามาออกเสียงการเรียกชื่อให้ถูกก่อนดีกว่า ตอนหาข้อมูล เราอ่านชื่อ Tromsø เราก็จะเรียกมันว่า "ทรอมโซ" แต่เราได้ยินคนนอร์เวย์เค้าอ่านว่า "ทรอมซ่ะ" เมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือของนอร์เวย์
สาเหตุที่เราเลือกบินตรงมาที่เมืองนี้ ก็เพราะว่าเราต้องการที่จะลงเรือ Hutigruten ที่เมืองนี้ และตารางเรือ ทำให้เราไม่มีเวลาแวะที่ออสโล แต่ต้องบินตรงมาเลย
ถ้าหากดูจากลิงค์ที่เราให้มา จะเห็นได้ว่าเค้าโปรโมตว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ดีที่สุดที่จะดูออโรร่า แต่... ความเป็นจริงก็คือมันเป็นเมืองที่ "สะดวก" ที่สุดมากกว่า เพราะมันเป็นเมืองใหญ่ กิจกรรมอื่นเยอะ และสะดวกสบาย แต่สิ่งสำคัญของการเห็นออโรร่าคือฟ้าที่ใส แต่เมืองนี้อยู่ริมทะเลในส่วนที่มักจะมีเมฆมาก ดังนั้น การดูออโรร่า จะต้องนั่งรถเข้าไปด้านในแผ่นดินมากๆ แต่จริงๆแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นเมฆหมอกอยู่ดี
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมจึงมีคนพูดกันว่า ถ้าจะดูออโรร่า ต้องให้เวลาสามวัน เพราะสภาพอากาศแถวนี้ จะวนเป็นวัฏจักร ฟ้าครึ้มบ้าง โล่งบ้าง
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราต้องมาเอง เพราะด้วยเงินที่เท่ากันๆ เรากับเพื่อนศึกษาโปรแกรมทัวร์หลายอันแล้ว (ใครจะไปอยากเหนื่อยจัดเที่ยวเอง ถ้าไม่จำเป็นใช่ไหมคะ) เค้ามีเวลาให้ดูแสงเหนือแค่สองวัน เราก็กลัวว่าจะไม่เห็น จะเสียเงินเปล่านั่นเอง
***
http://en.wikipedia.org/wiki/Troms%C3%B8
http://www.visittromso.no/en/
http://www.visitnorway.com/en/Where-to-go/North/Tromso/
http://wikitravel.org/en/Troms%C3%B8
***
วิวจากหน้าต่างห้องนอนค่ะ ตื่นเช้ามาก็เห็นภูเขาหิมะเลย ได้ข่าวว่าหิมะตกจนเคเบิ้ลขึ้นเขาไปลานสกีก็ต้องปิด
[บันทึกนักเดินทาง] ตามล่าหาออโรร่าที่ Norway : March 2013 ตอนที่ 2 Tromsø
[บันทึกนักเดินทาง] ตามล่าหาออโรร่าที่ Norway : March 2013 ตอนที่ 1 (รับกระแสโปร SAS)
http://pantip.com/topic/30281840
***
วันที่ 2 นี้ กำหนดการคร่าวๆของเราคือ
9.00 น. ทานอาหารเช้า
10.30 น. เช็คเอาท์ ฝากกระเป๋า จากนั้นเดินไปดูสถานที่ขึ้นเรือก่อน แล้วก็เดินชมเมือง
15.00 น. กินข้าวกลางวัน
17.00 น. กลับโรงแรม มาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ + ใบที่สายการบินมาส่ง แล้วเดินลากขึ้นเรือ
18.30 น. เรือออก
23.00 น. ดูออโรร่าบนเรือ
***
อย่างแรก เรามาออกเสียงการเรียกชื่อให้ถูกก่อนดีกว่า ตอนหาข้อมูล เราอ่านชื่อ Tromsø เราก็จะเรียกมันว่า "ทรอมโซ" แต่เราได้ยินคนนอร์เวย์เค้าอ่านว่า "ทรอมซ่ะ" เมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือของนอร์เวย์
สาเหตุที่เราเลือกบินตรงมาที่เมืองนี้ ก็เพราะว่าเราต้องการที่จะลงเรือ Hutigruten ที่เมืองนี้ และตารางเรือ ทำให้เราไม่มีเวลาแวะที่ออสโล แต่ต้องบินตรงมาเลย
ถ้าหากดูจากลิงค์ที่เราให้มา จะเห็นได้ว่าเค้าโปรโมตว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ดีที่สุดที่จะดูออโรร่า แต่... ความเป็นจริงก็คือมันเป็นเมืองที่ "สะดวก" ที่สุดมากกว่า เพราะมันเป็นเมืองใหญ่ กิจกรรมอื่นเยอะ และสะดวกสบาย แต่สิ่งสำคัญของการเห็นออโรร่าคือฟ้าที่ใส แต่เมืองนี้อยู่ริมทะเลในส่วนที่มักจะมีเมฆมาก ดังนั้น การดูออโรร่า จะต้องนั่งรถเข้าไปด้านในแผ่นดินมากๆ แต่จริงๆแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นเมฆหมอกอยู่ดี
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมจึงมีคนพูดกันว่า ถ้าจะดูออโรร่า ต้องให้เวลาสามวัน เพราะสภาพอากาศแถวนี้ จะวนเป็นวัฏจักร ฟ้าครึ้มบ้าง โล่งบ้าง
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราต้องมาเอง เพราะด้วยเงินที่เท่ากันๆ เรากับเพื่อนศึกษาโปรแกรมทัวร์หลายอันแล้ว (ใครจะไปอยากเหนื่อยจัดเที่ยวเอง ถ้าไม่จำเป็นใช่ไหมคะ) เค้ามีเวลาให้ดูแสงเหนือแค่สองวัน เราก็กลัวว่าจะไม่เห็น จะเสียเงินเปล่านั่นเอง
***
http://en.wikipedia.org/wiki/Troms%C3%B8
http://www.visittromso.no/en/
http://www.visitnorway.com/en/Where-to-go/North/Tromso/
http://wikitravel.org/en/Troms%C3%B8
***
วิวจากหน้าต่างห้องนอนค่ะ ตื่นเช้ามาก็เห็นภูเขาหิมะเลย ได้ข่าวว่าหิมะตกจนเคเบิ้ลขึ้นเขาไปลานสกีก็ต้องปิด