สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ปี 2543 (อายุ22ปี) เริ่มทำงาน เงินเดือน 25,000 บาท
เก็บ เดือนละ 20,000 เก็บ 7 ปี รวมโบนัส ได้ เกือบ 3 ล้าน
ปี 2550 (อายุ29ปี) เริ่มเล่นหุ้น เอาเงินทั้งหมดซื้อ cpall กับ hmpro ถือไว้ 5 ปี
ปี 2556 (อายุ35ปี) พอร์ตมูลค่า 40 ล้าน
หวังว่าเป็นแนวทางได้นะครับ ^^
ปล ปัจจุบันมีเงินเยอะขึ้น ใช้เพ้ิ่มเป็นเดือนละ 20,000 แล้วครับ ^^
เก็บ เดือนละ 20,000 เก็บ 7 ปี รวมโบนัส ได้ เกือบ 3 ล้าน
ปี 2550 (อายุ29ปี) เริ่มเล่นหุ้น เอาเงินทั้งหมดซื้อ cpall กับ hmpro ถือไว้ 5 ปี
ปี 2556 (อายุ35ปี) พอร์ตมูลค่า 40 ล้าน
หวังว่าเป็นแนวทางได้นะครับ ^^
ปล ปัจจุบันมีเงินเยอะขึ้น ใช้เพ้ิ่มเป็นเดือนละ 20,000 แล้วครับ ^^
ความคิดเห็นที่ 2
พึ่งเริ่มเก็บจริงๆแค่ 1-2 ปีที่ผ่านมาเอง โดยเริ่มจากเคยไปอ่านพวกกระทู้แนะนำการลงทุน
อันนี้เป็นตัวอย่างนะครับ ของจริงที่เคยอ่าน ไม่รู้มันไปอยู่ไหนแล้ว

http://www.thanachartfund.com/webboard/V4/question.asp?QID=2264
ตอนจบป.ตรี หมาดๆ โดยเก็บเดือนละ 15k (15000) เงินเดือนตอนเริ่มแรกที่ 24k (24000)<<<ยังไม่รวม OT
เลยทำให้ทุกๆเดือนตอนที่เรียนจบและทำงานใหม่ๆ ไม่ค่อยจะเดือดร้อน
แล้วก็ใช้วิธี "หักดิบ" ได้เงินมาเท่าไหร่ ฝากตามจำนวนที่ต้องการเท่านั้น ส่วนจะใช้เยอะหรือน้อย ไปหาเอาดาบหน้าจาก
เงินที่เหลือจากการเก็บนั่นแหละ ถ้าเดือนไหนอยากใช้เยอะ ก็ขยันทำ OT บ่อยๆ เดือนไหนน้อยๆก็ขี้เกียจๆไปบ้าง


พอผ่านมาถึงปัจจุบันอายุ25 ก็เปลี่ยนแปลงการเก็บเงิน เพราะฐานเงินเดือนเพิ่ม จากที่เคยเก็บ 15k
ก็เปลี่ยนไปเก็บเดือนละ 23k (23000) เพราะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง+สอบวัดผลหลายๆอย่าง+สอบภาษา+สอบใบเซอ+อบรม ISO+อื่นๆ
จนทุกวันนี้ก็ยังเก็บเงินแบบนี้อยู่ ยอมหักดิบตอนนี้ ดีกว่าไปหักดิบตอนแก่ตัวลงแล้ว

แต่ผมเสียนิสัยตรงที่เมื่อโบนัสผมออก (โบนัสผมปกติจะอยู่ราวๆ 10 เดือนขึ้นไป)
เงินโบนัสผมไม่เคยนำมาฝากเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะผมคิดว่าทำงานเก็บแต่เงินเดือนก็เยอะพอแล้ว
จึงเอาโบนัสที่ได้ไปซื้อของที่อยากได้-เที่ยวเล่นพักผ่อนตามใจชอบ ซึ่งบางทีก็หมดไปกับอะไรก็ไม่รู้ที่ไร้สาระมากๆ
บางทีก็คิดว่า น่าจะเอามาลงทุนเพิ่ม เพื่อเพิ่มหนทางในการที่จะได้ อิสระทางการเงิน ไวๆ<<<แต่เอาเข้าจริงๆ ทำไม่ได้ ยากมากๆ
อันนี้เป็นตัวอย่างนะครับ ของจริงที่เคยอ่าน ไม่รู้มันไปอยู่ไหนแล้ว

http://www.thanachartfund.com/webboard/V4/question.asp?QID=2264
ตอนจบป.ตรี หมาดๆ โดยเก็บเดือนละ 15k (15000) เงินเดือนตอนเริ่มแรกที่ 24k (24000)<<<ยังไม่รวม OT
เลยทำให้ทุกๆเดือนตอนที่เรียนจบและทำงานใหม่ๆ ไม่ค่อยจะเดือดร้อน
แล้วก็ใช้วิธี "หักดิบ" ได้เงินมาเท่าไหร่ ฝากตามจำนวนที่ต้องการเท่านั้น ส่วนจะใช้เยอะหรือน้อย ไปหาเอาดาบหน้าจาก
เงินที่เหลือจากการเก็บนั่นแหละ ถ้าเดือนไหนอยากใช้เยอะ ก็ขยันทำ OT บ่อยๆ เดือนไหนน้อยๆก็ขี้เกียจๆไปบ้าง


พอผ่านมาถึงปัจจุบันอายุ25 ก็เปลี่ยนแปลงการเก็บเงิน เพราะฐานเงินเดือนเพิ่ม จากที่เคยเก็บ 15k
ก็เปลี่ยนไปเก็บเดือนละ 23k (23000) เพราะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง+สอบวัดผลหลายๆอย่าง+สอบภาษา+สอบใบเซอ+อบรม ISO+อื่นๆ
จนทุกวันนี้ก็ยังเก็บเงินแบบนี้อยู่ ยอมหักดิบตอนนี้ ดีกว่าไปหักดิบตอนแก่ตัวลงแล้ว

แต่ผมเสียนิสัยตรงที่เมื่อโบนัสผมออก (โบนัสผมปกติจะอยู่ราวๆ 10 เดือนขึ้นไป)
เงินโบนัสผมไม่เคยนำมาฝากเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะผมคิดว่าทำงานเก็บแต่เงินเดือนก็เยอะพอแล้ว
จึงเอาโบนัสที่ได้ไปซื้อของที่อยากได้-เที่ยวเล่นพักผ่อนตามใจชอบ ซึ่งบางทีก็หมดไปกับอะไรก็ไม่รู้ที่ไร้สาระมากๆ
บางทีก็คิดว่า น่าจะเอามาลงทุนเพิ่ม เพื่อเพิ่มหนทางในการที่จะได้ อิสระทางการเงิน ไวๆ<<<แต่เอาเข้าจริงๆ ทำไม่ได้ ยากมากๆ

ความคิดเห็นที่ 27
ของผมจริงๆ คิดเริ่มจะเก็บมาตั้งแต่ตอนอายุจะ 20 ละครับ เพราะเรียนไม่จบด้วยปัญหาบางอย่าง
แต่พอดีดันมาเจอจุดพลิกผันยางอย่าง นั่นคือ ติดแฟน ครับ
ถึงขั้นยอมย้ายถิ่นฐานมาอยู่กับเขา (จากใต้ขึ้นมาเหนือเลย)
อันที่จริงก็ตามเขาไปทุกที่นะครับ (เพราะตอนนั้นเขาเรียน + ฝึกงาน) ผมเลยต้องย้ายงานไปเรื่อย
ตอนนั้นยังไม่ได้เก็บเงินจริงจัง ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
จนกระทั่งสองปีที่ผ่านมา ความรักมันเริ่มไปไม่ไหวละ (อันที่จริงไปไม่ไหวมาตั้งนานละ แต่ผมเพิ่งจะตาสว่างเมื่อไม่นานมานี้)
เพราะรู้สึกสังคมผมกับเขาไม่เท่ากัน ตอนแรกเขาไม่มีใคร เลยอยากให้ผมไปอยู่กับเขาด้วยในทุกๆ ที่ เลยตามไป
แต่ตอนนี้ เขามีสังคมที่คิดว่าเหมาะกับเขาแล้ว ผมเลยเหมือนกลายเป็นตัวเกะกะกลายๆ
เพียงแต่เขาไม่เอ่ยปากไล่ผม เพราะเขาเองก็รู้ตัวว่าเขาก็ผิดที่นำพาชีวิตผมเป๋ไปเป๋มาเหมือนกัน
ด้วยความเจ็บช้ำหลายๆ อย่างจากความรัก เลยทำให้ย้อนกลับมามองตัวเองมากขึ้น จึงได้เห็นว่าตัวเองยังไม่มีอะไรเลย
บ้านที่เคยอยู่ก็โดนพ่อทำให้โดนยึดไป (พ่อแม่เลิกรากัน บ้านตกเป็นชื่อพ่อ)
และคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถอยู่กับเขาคนนี้ได้ตลอดไปทั้งชีวิตหรอก เพราะผมกับเขาคงมีอนาคตต่างกัน
เลยเริ่มตั้งใจเก็บเงินจริงๆ จังๆ แต่ปีแรกที่เริ่มเก็บมันมีแต่ปัญหา เลยทำให้เก็บได้ไม่อยู่
มาปีที่แล้ว เงินเดือนปรับขึ้น เลยเก็บเป็น 2- 3,000 บ้าง พร้อมทั้งผ่อนมอไซต์ไปด้วย
ปีที่แล้วเก็บได้ 30,000 โดยประมาณ ตอนแรกก็ฝากแค่ ไม่ประจำของ TMB
มาปีนี้ได้ปรับขึ้นอีก เลยกะจะเก็บเป็น 4,000 แต่คิดว่ามันคงไม่เพียงพอแน่ ด้วยอัตราเงินเฟ้อ
ตอนนี้เลยกำลังศึกษาเรื่องกองทุนก่อน แล้วพอเริ่มไหว ก็จะศึกษาเรื่องหุ้นต่อ
เป้าหมายอนาคตคือ มีบ้านเป็นของตัวเอง
สรุปคือ เริ่มเก็บจริงจัง ตอนอายุ 27 ครับ (คือปีที่แล้ว)
แต่พอดีดันมาเจอจุดพลิกผันยางอย่าง นั่นคือ ติดแฟน ครับ
ถึงขั้นยอมย้ายถิ่นฐานมาอยู่กับเขา (จากใต้ขึ้นมาเหนือเลย)
อันที่จริงก็ตามเขาไปทุกที่นะครับ (เพราะตอนนั้นเขาเรียน + ฝึกงาน) ผมเลยต้องย้ายงานไปเรื่อย
ตอนนั้นยังไม่ได้เก็บเงินจริงจัง ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
จนกระทั่งสองปีที่ผ่านมา ความรักมันเริ่มไปไม่ไหวละ (อันที่จริงไปไม่ไหวมาตั้งนานละ แต่ผมเพิ่งจะตาสว่างเมื่อไม่นานมานี้)
เพราะรู้สึกสังคมผมกับเขาไม่เท่ากัน ตอนแรกเขาไม่มีใคร เลยอยากให้ผมไปอยู่กับเขาด้วยในทุกๆ ที่ เลยตามไป
แต่ตอนนี้ เขามีสังคมที่คิดว่าเหมาะกับเขาแล้ว ผมเลยเหมือนกลายเป็นตัวเกะกะกลายๆ
เพียงแต่เขาไม่เอ่ยปากไล่ผม เพราะเขาเองก็รู้ตัวว่าเขาก็ผิดที่นำพาชีวิตผมเป๋ไปเป๋มาเหมือนกัน
ด้วยความเจ็บช้ำหลายๆ อย่างจากความรัก เลยทำให้ย้อนกลับมามองตัวเองมากขึ้น จึงได้เห็นว่าตัวเองยังไม่มีอะไรเลย
บ้านที่เคยอยู่ก็โดนพ่อทำให้โดนยึดไป (พ่อแม่เลิกรากัน บ้านตกเป็นชื่อพ่อ)
และคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถอยู่กับเขาคนนี้ได้ตลอดไปทั้งชีวิตหรอก เพราะผมกับเขาคงมีอนาคตต่างกัน
เลยเริ่มตั้งใจเก็บเงินจริงๆ จังๆ แต่ปีแรกที่เริ่มเก็บมันมีแต่ปัญหา เลยทำให้เก็บได้ไม่อยู่
มาปีที่แล้ว เงินเดือนปรับขึ้น เลยเก็บเป็น 2- 3,000 บ้าง พร้อมทั้งผ่อนมอไซต์ไปด้วย
ปีที่แล้วเก็บได้ 30,000 โดยประมาณ ตอนแรกก็ฝากแค่ ไม่ประจำของ TMB
มาปีนี้ได้ปรับขึ้นอีก เลยกะจะเก็บเป็น 4,000 แต่คิดว่ามันคงไม่เพียงพอแน่ ด้วยอัตราเงินเฟ้อ
ตอนนี้เลยกำลังศึกษาเรื่องกองทุนก่อน แล้วพอเริ่มไหว ก็จะศึกษาเรื่องหุ้นต่อ
เป้าหมายอนาคตคือ มีบ้านเป็นของตัวเอง
สรุปคือ เริ่มเก็บจริงจัง ตอนอายุ 27 ครับ (คือปีที่แล้ว)
แสดงความคิดเห็น
เริ่มตั้งใจเก็บเงินอย่างต่อเนื่องและจริงจังตั้งแต่อายุเท่าไหร่คะ อะไรเป็นจุดเริ่มให้เก็บเงินและมีวิธีเก็บยังไงบ้าง