กว่าจะบอกรัก

กระทู้สนทนา
สามเดือนเต็มๆ เธอทำผมจนไม่เป็นอันทำอะไรเลยเธอทำผม ทำอะไร...? ก็ทำให้ผมอกหักน่ะสิ ไอ้เราน่ะริหลงจนหัวปักหัวปำจนแทบบ้า เพราะเฝ้ามองเธอมาตั้งปีกว่า เวลานานขนาดนั้นกับการเฝ้ามองหญิงสาวคนหนึ่งผมถือว่านานมากมากจริงๆ เพราะในอดีตนะ อย่างเก่งสองอาทิตย์ ลองถ้าได้มองใครแล้วสำเร็จทุกคนครับ ไมใช่สำเร็จแบบไปทำอะไรมิดีมิร้ายนะ ก็แค่ได้พบกับเธอคนใดคนหนึ่งแล้วได้เป็นแฟนกัน


                                             1


ปัง ปัง....เสียงปืนดังขึ้น ผมรีบวิ่งกลับไปที่อพาร์ทเม้นท์ ถามเพื่อนที่ร้านซักรีด ว่าเกิดอะไรขึ้น “มีคนยิงกันสิพี่ ถามได้ แก่ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีก”ต๊ะตอบ ผมเลยออกไปยืนที่หน้าร้านว่ามีอะไรที่เฉลียง มองออกไปเห็นคนยืนออกันเต็มไปหมด แสดงว่าต้องมีคนตายนอนอยู่ตรงนั้นแน่ๆ ระหว่างที่ยืนอยู่ตรงนั้น ที่ด้านล่างที่ที่จอดรถ มีหญิงสาวรูปร่างสูงสมส่วนผิวคล้ำเข้ม หน้าตาสวยแบบบ้านๆ เธอคนนั้นนั่นเองที่ผมแอบชอบมาปีกว่า

ตึก..ตึก เสียงอะไรก็ไม่รู้ดังขึ้นใกล้ตัวผม...
หันไปมองดู อ๋อเธอคนนั้นนั่นเอง มายืนอยู่ข้างผม สงสัยเธอแอบชอบผม คงตกใจจากเสียงปืนที่ดังก่อนหน้านั้นเลยกระโดดขึ้นมาหวังให้ผมเป็นเพื่อนกันความกลัวคนตายมาหลอก เพราะห้องนอนของเธออยู่ชั้นสองริมสุดของตึกถ้าเธอออกมายืนริมระเบียงเห็นจุดคนตายใกล้นิดเดียว หันไปมองเอ หน้าตารื้นไปด้วยน้ำทั่วหน้า
“ร้องไห้เหรอ”กานจ้องมองหน้าเธออย่างอยากรู้
“เล่า มันร้อน”แขนของเธอชี้ไปที่จุดคนตาย ไม่รู้ชี้ไปทำไม
แล้วเธอก็เล่นบีบีต่อไปสงสัยคงบีบีหาเพื่อนให้มานอนเป็นเพื่อนเพราะคนตายตายใกล้เธอมาก

เช้าวันต่อมา หลังจากผมกินข้าวแกงเฮียตี้เสร็จก็ไปนั่งคุยเล่นกับไอ้แมนลูกน้องเฮียที่ท้ายร้าน ผมนั่งอยู่จนจะขึ้นห้องแล้ว แต่สายตาเหลือบไปเห็นสาวคนหนึ่งคุ้นๆเดินออกมาจากหน้าอพาร์ทเม้นท์ เธอนั่นเอง เธอเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆวันนี้เธอใส่ชุดเดียวกับเมื่อคืนกางเกงยีนส์ขาสั้นเข้ากับสมัยเสื้อยืดสีดำตัวเดียวกับเมื่อคืนที่เกิดเหตุ จนเอเดินมาใกล้จนจะถึงตัวผมแค่ไม่กี่นิ้ว ผมหันไปมองเอแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้ ใจอยากจะออกปากทักก็เขินเพราะตัวเองแก่กว่าเธอมาก
พอเธอเดินผ่านไปถึงนึกขึ้นได้ว่าน่าจะใจกล้าทักเอว่าสวัสดีตอนเช้าครับ  ถ้ากล้าทำเรื่องอาจไม่ลงเอยแบบที่ผมเจ็บ postถึงตรงนี้



                                              2


นี่ก็สายแล้ว กานนึกถึงเธอขึ้นมา ทำไมถึงมาเดินอยู่ตรงนี้ได้ ปกติต้องไปทำงานแล้ว อ๋อ วันนี้วันมาฆบูชาวันหยุดนั่นเองเธอคงได้หยุดงาน เพราะคิดถึงเอเพราะอยากเห็นเธอ เลยไม่ยอมขึ้นห้อง หาเรื่องคุยกับไอ้แมน ไปจนสายมากขึ้นแดดร้อนก็ร้อนอีที่ริมเฉลียงอพาร์ทเม้นท์มีร่มไม้ใหญ่อยู่เลยย้ายไปนั่งตรงนั้น นั่งรอหวังให้เธอเดินกลับมาผ่านตรงหน้า

      ก็นานแล้วเธอเดินไปไหนนะ กานสงสัยคงออกไปหาอะไรกินไกลๆแน่ๆกินข้าวเฮียตี้ทุกวันคงเบื่อ

ที่ใต้ต้นไม้นั้น กานเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ เธอเดินกลับมาจริงๆ เธอมาแปลกๆกว่าเมื่อคืน ตรงหน้าผม
เธอยืนเท้าเอว “ทำไมต้องมายิงกันตายที่ตึกเราด้วย”ชี้มือไปที่เฉลียง ชี้อีกแล้ว แม่จอมชี้
“ผมจะไปรู้ได้ไง ไม่ใช่พระอรหันต์นี่”กานตอบแบบกวนๆ
“อ้าว เห็นอยู่ตึกทั้งวันทั้งคืนน่าจะรู้ แรกๆลุงมาอยู่นึกว่าเป็นยามด้วยซ้ำ”ว่าเข้านั่น
“ ...?”กานรีบปิดปากตัวเองเพราะไม่อยากบอกว่าตัวเองเป็นเพื่อนกับเจ้าของตึก
พูดกันแค่สองสามคำเธอก็เดินกลับขึ้นห้องไป
ในใจผม โธ่...น่าจะบ่นอะไรอีกซักหน่อย แม่คนสวยของลุงไม่น่ารีบขึ้นไปเลย

      นั่งไปนั่งมาชักเบื่อเข้าไปคุยกับนายต๊ะในร้านดีกว่า นั่งอยู่ร้านต๊ะจนบ่ายแก่กานกลับขึ้นห้องตัวเองเพราะอยากงีบ งีบได้ไม่นานก็ตื่นเพราะกลัวกลางคืนนอนไม่หลับ หลังจากตื่นนอนตอนกลางวัน ก็ออกไปยืนเล่นริมหน้าต่างใกล้บันไดทางลง กำลังชะโงกหน้าออกไปดูวิวข้างนอกเพลินๆ เห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินอย่างเร็วไปทางหน้าตึก จะใครได้มีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นเองไอ้อาการรีบร้อนแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีขาว คงกลัวคนจำได้ว่าใส่เสื้อซ้ำ
      เอาล่ะสิ งานเข้าหญิงสาวคนที่เฝ้ามองมาปีกว่า เริ่มได้คุยกัน ขยันออกมาให้เห็นแล้วเห็นอีกหรือเป็นพรมลิขิต ดูท่าชายวัย50อย่างกานที่ไร้คู่มานานจะมีคนรักวัยเด็กก็คราวนี้กระมัง แต่ก่อนแต่ไหนปีกว่าที่ผ่านมาทำไมไม่ออกให้เห็นบ่อยๆ รึว่าก็เห็นเธอมานานแต่ไม่สังเกต ...ความจริงแล้วก็แอบมองแอบชอบเธอมาตั้งแต่วันแรกๆที่เห็นแล้ว ผู้หุ่นก็ดี สูงสมส่วน ผิวออกสองสี หน้าบ้านๆชวนมองอย่างไม่อยากมองหญิงอื่นเลย เคยมีแฟนมีเมียทั้งหน้าตาทั้งรูปร่างยังไมได้อย่างเอเลย นึกแล้วน่าฟัดจริงๆ
       ความจริงมีนะ...บางครั้งเคยหาเรื่องคุยด้วยซ้ำแต่เหมือนเธอรู้ตัวว่าจะจีบเลยตอบพอเป็นพิธีแล้วรีบเดินหนี คงคิดว่าคนอะไรแฆก่คราวพ่อยังจะหาคนรักคราวลูกคราวหลาน
       รอไปรอรอมาไม่กลับเข้ามาซักทีท้องชักแสบตั้งแต่กินข้าวเช้าที่ร้านเฮียตี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แต่ความต้องการในใจที่อยากให้เธอมาปรากฏกาย แม้ห่างกันตั้งสี่ชั้นมีมากกว่าเลยทนแสบไส้อยู่อย่างนั้น
      เทพเจ้าเป็นใจให้กาน ที่ปากซอยมองออกไป เธอเดินหิ้วถุงพลาสติกหลายถุงพร้อมถุงขวดน้ำสองสามใบกลับเข้ามา มองเธอเดินเข้ามาที่ตัวตึกใจอยากจะวิ่งลงไปหาช่วยถือถุงเหล่านั้นเพราะถุงหลายใบคงหนักไม่น้อย จะได้ถือโอกาสสร้างความสัมพันธ์ซะเลย แต่ก็ได้แค่คิด เธอเดินหายเข้ามาในตึก เธอหายไปแล้ว ท้องที่แสบมันกลับมาอีกหรือว่ามันก็แสบตลอดเวลาที่รอเธอแต่เพราะเฝ้ามองเออยู่นานความหลงใหลมันเข้ามากลบความหิวความแสบไส้เลยลืมความหิว
......เธอก็หายไปแล้ว ป่านนี้คงกินข้าวคนเดียวในห้องไม่ก็อาจมีเพื่อนกินที่เธอบีบีไปเรียกมา ถึงเวลาแล้วที่ตัวเองจะลงไปหาอะไรใส่ท้องบ้างนี่แหละหนาอดข้าวไม่ชีวาวายแต่อดรักให้ตายก็ยอม
      
      ครืดๆๆ...จ๊อกๆๆ เสียงสุดท้ายสั่งออกมาแล้วว่าไปหาข้าวกินได้แล้วเป็นลมเป็นแล้งไปไม่มีใครช่วยนะตาเฒ่า อยู่ก็อยู่คนเดียวไม่มีใครเหลียวนะเออ ลงไปกินอะไรก็ได้

.......ที่ร้านเจ้าป๊อบไก่ย่าง-ส้มตำ “ป๊อบพี่หิวจังเลย มีอะไรกินบ้าง”คนพูดเอามือกุมท้อง
“เหมือนเดิมทุกอย่างครับพี่ ไก่ย่าง มีทั้ง อก สะโพก ปีก น่องเล็กน่องใหญ่ อ้อ...! ไม่ใช่น่องเล็กครับพี่น่องเล็กเค้าเรียกปีกบนเห็นพี่เวลามากินพี่สั่งน่องเล็กทุกทีเลยเรียกตามพี่ ลาบปลาดุกก็มี พี่จะเอาอะไรดีปีกบนก็มีของชอบพี่ไงกับข้าวเหนียวซักถุง”
ป๊อบง่วนกับงานตรงหน้าต่อไปรอผมสั่งอาหาร “ปีกไก่กับข้าวเหนียวอย่างละอันก็พอ” ผมสั่งแค่นั้นเพราะต้องการลดพุงที่ตอนนั้นพุงยื่นออกมามาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่