เป็นข่าวไม่หยุดสำหรับ “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นมือที่3ของ “มาริโอ้-กุ๊บกิ๊บ” ซึ่งก่อนหน้านี้หนุ่ม “มาริโอ้” ก็ได้มาบอกว่าสาว “ใหม่” ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เลิกกับ “กุ๊บกิ๊บ” แต่ก็แง้มๆ ไว้ว่าสนิทกับสาว “ใหม่” ที่สุด แถมยังมีข่าวกับ “เอ-ศุภชัย” ที่สาวใหม่ได้ถอนตัวออกจากการเป็นเด็กในสังกัดก็ทำให้มีการกล่าวถึงและพาดพิงกันอยู่เนืองๆ ซึ่งล่าสุดมีกระแสออกมาว่า "เอ" ได้ยื่นโนติสท์ให้กับสาวคุณแม่และเกล้าผู้จัดการของสาว “ใหม่” ว่าให้เลิกพาดพิงไม่งั้นจะฟ้องร้อง เมื่อได้เจอสาว “ใหม่” ในงาน “MC Jeans Fit For All” ณ เดอะมอล บางกะปิ ชั้น G เจ้าตัวก็เปิดอกว่า “กับพี่โอ้ยังไมได้คุยกันซักพักแล้วค่ะ ยังไมได้มีการติดต่อกลับไปเลย แต่ว่าไม่ใช่เราไม่คุยกันเพราะเดี๋ยวจะไปโปรโมทหนังพี่มากด้วยกัน เรายังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ ยังเป็นพี่ที่ร่วมงานด้วยกัน ความรู้สึกยังไม่ได้เปลี่ยนไปค่ะ”
มาริโอ้ได้เข้ามาคุยเรื่องข่าวบ้างไหม
“ก็มีถามเหมือนกันค่ะ คือเราก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้คนเชื่อจริงๆ เพราะว่ามันส่งผลกระทบเราจริงๆ ตอนแรกๆ เราก็ชิลเพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็ไปเหมือนอีกหลายๆ เรื่อง แต่พอเอาเข้าจริงมันก็เริ่มบานปลายเรื่อยๆ เราก็เลยอยากให้มันเคลียร์นะ”
แล้วมาริโอ้มีท่าทีมาจีบเราหรือเปล่า
“พี่โอ้เขาก็เป็นคนอย่างนั้นนะคะ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปตั้งแต่เราร่วมงานกัน”
แต่เห็นมาริโอ้บอกว่าสนิทกับเราที่สุดแบบนี้แสดงว่าน่าจะคุยกันทุกวันไม่ใช่เหรอ
“ไม่ค่ะ เพราะว่าเราไม่ค่อยได้คุยกับพี่โอ้เลยค่ะ คือตอนนี้เรารู้สึกว่าเราต้องเซฟตัวเองบ้างเพราะไม่อยากเป็นข่าวมือที่3 อนาคตจะเป็นยังไงเราไม่รู้แต่ว่าตอนนี้อยากให้เคลียร์ว่าเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของเขาเลย พี่เขาก็เป็นคนน่ารักนะแต่ว่าเรายังรักตัวเองอยู่ ยังไม่อยากโดนว่า เราเป็นข่าวแบบนี้บ่อยๆ มันดูไม่ดี ไม่ใช่ไม่อยากคุยกัน เพียงแต่เราไม่ได้ส่งไปพี่เขาก็ไม่ได้ส่งมา ถามพี่ทีมงานได้เลยว่าเราตั้งใจทำงานกันจริงๆ เราตั้งใจกันมากทั้งคู่ดังนั้นมันไม่มีอะไรเลย”
ที่ไม่รับมาริโอ้เพราะเรามีหนุ่มตัวจริงอยู่แล้วใช่ไหม
“ไม่มีค่ะ ตอนนี้อยู่กับงานอย่างเดียวเลย โสดมากค่ะ”
ที่ยังไม่เปิดเพราะมีกระแสกัสจังกับกุ๊บกิ๊บโพสต์ข้อความบนIGเหมือนเหน็บเราหรือเปล่า
“อันนี้ไม่รู้สึกอะไรเลย เพิ่งรู้เหมือนกัน คือใหม่พยายามไม่รับเรื่องพวกนี้มากค่ะ เราทำหน้าที่ของเราคือนักแสดงให้ดีที่สุดอย่างที่พี่เกล้าสอนว่าเราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด วันแรกเราทำงานยังไงวันนี้เราก็ต้องทำงานอย่างนั้น ก็เลยไม่ได้รับข่าวเครียดๆ เพราะอยากเอ็นจอยกับการทำงาน ”
ส่วนตัวเราได้คุยกับกุ๊บกิ๊บไหม
“ไม่ได้คุยเลยค่ะ คิดว่าถ้าเจอก็คงได้คุย คือจริงๆ แล้วถ้ามันไม่ใช่ความจริงใหม่ก็ไม่อยากเคลียร์เพราะไม่รู้จะเคลียร์อะไร ก็ไม่ได้สนิทกับพี่เขาเพราะหลังๆ ไม่ค่อยได้คุยกันเลยแต่ช่วงแรกๆ ที่พี่เขามาที่กองก็มีคุยกันบ้าง เราก็เจอกันตามงาน”
มันมีกระแสว่า เอ-ศุภชัยยื่นโนติสท์ถึงคุณแม่กับเกล้าว่าให้หยุดพาดพิงไม่งั้นเขาจะฟ้อง จริงหรือเปล่า
“หนูว่าความที่หนูเป็นเด็กหนูก็เลยตั้งใจทำงานอย่างเดียว เรื่องพวกนี้หนูปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ คุณแม่เขาก็เป็นห่วงหนูมาก เขาไม่อยากให้หนูมายุ่งกับเรื่องพวกนี้ สิ่งที่เราเคยบอกไปแล้ววันแรกตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นค่ะ มันไม่มีอะไรเพิ่มเติม เราก็ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะก็อยากให้เรื่องนี้มันจบ ตอนนี้ก็รอเวลาให้อะไรมันดีขึ้นเพื่อพิสูจน์ตัวเราค่ะ”
แสดงว่ามีการยื่นไปจริงใช่ไหม
“จริงค่ะ คือเขาก็เป็นผู้มีพระคุณกับเรานะ เราก็จบกันดีแต่เราก็ไม่รู้ว่าทำไมข่าวมันออกมาแบบนี้ ทางที่เราเลือกเดินเราคิดว่าเราไตร่ตรองแล้ว เราคิดดีแล้ว เราเอาใจเราเป็นหลักเราไม่ได้ยึดสิ่งอื่นเป็นหลัก ตอนนี้ยังไมได้คุยกับพี่เขาเลยค่ะ เพราะตอนแรกที่จบกันมาเราไปนั่งคุยที่ร้านอาหารเราก็จบด้วยกันดีๆ”
ฝากบอกอะไรกับคนที่ติดตามเราอยู่ไหม
“น้องใหม่ขอบคุณทุกๆ กำลังใจค่ะ ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ให้กำลังใจหนู ขอบคุณแฟนคลับ ขอบคุณทุกๆ คน หนูอยากจะบอกว่าหนูโอเคค่ะ หนูยังดีอยู่เพราะว่าหนูรู้ว่าหนูทำอะไร หนูทำในสิ่งที่ถูกต้อง หนุก็ไม่อยากมีเรื่องกับใครด้วย หนุไม่พาดพิงแน่นอนค่ะ หนูไม่พาดพิงถึงพี่เขาเพราะพี่เขาเป็นผู้ใหญ่หนูเป็นเด็กค่ะ”
ด้าน “คุณแม่และเกล้า” ก็ได้พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งเรื่อง “เอ-ศุภชัย” และ “เฮเลน” เพื่อนซี้ของอีกฝ่ายที่ออกมาพูดว่าตนไม่ได้รับค่านายหน้า5เปอร์เซ็นอย่างที่ “คุณแม่และเกล้า” ได้บอกก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งคู่ก็เล่าว่า
“คุณแม่” : ไม่จริงหรอกค่ะ คือคุณเฮเลนนี่คือแม่ต้องการหาผู้จัดการซึ่งก็ได้ถามคุณโต้ง คุณโต้งเขาก็ให้เบอร์เฮเลนมาโดยที่ก่อนหน้านั้นแม่ไม่ได้รู้จักกับคุณเฮเลน พอเสร็จแล้วเขาก็พาไปหาคุณเอแล้วเขาก็ได้ประโยชน์ อยู่ๆ เขาก็พาใหม่ไปแคสติ้งงานโฆษณาแล้วน้องใหม่ได้เขาก็ขอแม่10เปอร์เซ็นซึ่งแม่ก็ให้ ปีแรกก็ให้ปีที่2ก็ให้ แต่พอมาปีที่3แม่มารู้ว่าสัญญามันไม่เป็นธรรม คือไปทำผิดเพราะแม่ไว้ใจเขา
“เกล้า” : ไอเรื่อง5เปอร์เซ็นตอนแรกพี่เฮเลนเขาก็ได้นะคะ เพราะเกล้าจำได้ว่าทางพี่เอเป็นคนตกลงที่จะให้5เปอร์เซ็นกับพี่เขาซึ่งทางเราก็ให้ไป แล้วอยู่มาวันหนึ่งพี่เฮเลนเขามาขอเองว่าเขาไม่เอาแล้วมีเรื่องของโฆษณาเข้ามาคุณแม่ก็เป็นคนให้น้องไปแคสติ้ง ปีแรกก็ไม่มีอะไรจบลงด้วยดี ปีที่2คุณแม่เขาก็เอะใจว่าในสัญญามันเป็นปีครึ่งแต่พี่เขามาบอกว่า1ปี ก็เลยขออ่านสัญญาก่อนจะได้ละเอียด พี่เขาก็บอกจะอ่านทำไม ทำไมเรื่องมากจัง ก็เหมือนมีปัญหากันทางแม่เขาก็ไม่สบายใจก็เลยถอยออกมา แล้วเหมือนทางพี่เขาก็ไปฟ้องพี่คนโตของหนูว่าเรื่องมันเป็นยังไง ซึ่งพี่คนโตของหนูก็บอกว่าให้แยกกันทำงานไป เดี๋ยวพี่คนโตของหนูจะเป็นคนเอาเงิน5เปอร์เซ็นให้เขาเอง พอมาปีที่3ซึ่งตัวเขาก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วยแล้ว เขาก็มาบอกแม่ว่าขอเงินก้อนสุดท้าย
“คุณแม่” : ก็ประมาณ4แสนค่ะ
“เกล้า” : แต่ว่าทีนี้เหมือนกับแม่ให้เขาไม่ครบ แต่สาเหตุที่ให้ไม่ครบเพราะแม่ทราบมาว่าโดนทางพี่เขาเอาน้องไปว่าต่างๆ นาๆ ว่าเรื่องมาก คือแม่เขาก็ไม่สบายใจที่จะต้องมานั่งให้เงิน แม่ก็เลยให้ไปครึ่งหนึ่งซึ่งเขาก็โวยวายไม่ยอม แล้วพี่คนโตเขาก็บอกว่าเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายพี่จะเอาเงินของตัวเองออกเพิ่มให้เต็มเพื่อที่พี่คนรองจะได้หยุดกับเรา เพราะยังมีเมสเสจที่พี่คนรองเขาส่งมาหาแม่อยู่เลยว่าแม่จะให้ไหม ถ้าแม่ไม่ให้ลูกแม่ภาพลักษณ์ก็ต้องเสียแน่ๆ เมสเสจอันนี้เกล้ายังเก็บไว้อยู่เลย ซึ่งถ้าเขามาทวงว่าเขาไม่ได้เงินเกล้าว่าเขาทวงผิดคน เขาต้องไปทวงกับทางพี่คนนั้นมากกว่าเพราะพี่คนนั้นเขาเป้นคนบอกกับทางเราว่าเขาจะจัดการให้เงินของเขาเอง เพราะว่าเขาให้อยากให้มีปัญหากัน อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องมาว่าน้องด้วย
ทางเรามีเอกสารทุกอย่างใช่ไหม
“คุณแม่” : ใช่ค่ะ
“เกล้า” : ก็มีทุกอย่างค่ะ จริงๆ ก็ไม่อยากเอาออกมาโชว์ถึงขั้นนั้น แต่ว่าเขาก็ต้องรู้แหละค่ะ เขาก็ต้องไปคุยกันเองมากกว่าถ้าเขาไม่ได้เงิน
แต่เห็นมีข่าวว่าทางเขาส่งโนติสท์มาให้เรา
“เกล้า” : ส่งมาจริง ก็ส่งมาให้ทางแม่กับทางน้อง แล้วเขาก็ให้เราหยุดพูด ห้ามพาดพิง ซึ่งเกล้าต้องชี้แจงก่อนว่าน้องไม่ได้พาดพิงถึงเขาเลย ถ้าคนติดตามข่าวนี้จะเห็นว่าน้องไม่ได้เอ่ยชื่ออะไรมากเลย แล้วที่น้องขึ้นอินสตาแกรมว่าถ้ามีงานให้ติดต่อทางพี่เกล้า คือเกล้าจะเล่าให้ฟังว่าเหตุเกิดคือวันที่2มี.ค.ที่พวกเรากับพี่เอตัดสินใจเคลียร์กันที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง น้องใหม่ก็บอกว่าน้องจะขอดูแลตัวเองส่วนเกล้าก็บอกว่าจะออกมาดูแลน้องด้วย ตอนนั้นเขาก็บอกว่าเขายินดีปล่อยแล้วเขาก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาปล่อย เราก็โอเคก็ต้องขอบคุณเขาถึงแม้จะมีอะไรตามมาก็ตาม เขาจะบ่ายเบี่ยงว่าเราอยากเปิดร้านส้มตำเราก็ไม่พูดอะไร แต่หลังๆ นี้มันก็เกินไปคือเราคุยกันจบแล้วเมื่อวันที่2มี.ค.แล้วประมาณวันที่4ที่น้องขึ้นอินสตาแกรมว่าให้ติดต่องานที่พี่เกล้าซึ่งเราก็เคลียร์กันจบไปแล้วว่าเราไมได้อยู่กับเขาแล้ว
พอเราโดนแบบนี้เราเครียดไหม
“เกล้า” : ไม่เครียดเลย ที่เขาส่งมาก็คือเขาอยากให้เราหยุดพูด ทีนี้ทางเรารู้สึกว่าตอนแรกเราคิดจะให้เรื่องจบลงไปด้วยดี เราก็ทำงานของเรา แต่ในเมื่อเขายื่นมาเราก็ต้องรักษาสิทธิ์ของเราด้วยการที่เราก็ปรึกษาทนายเหมือนกัน ก็ให้ทนายยื่นกลับไปคิดว่าพรุ่งนี้เขาน่าจะได้ เราก็ต้องชี้แจงว่าเราไม่ได้พาดพิงถึงเขาแล้วเราก็ยื่นข้อเสนอที่เขาซึ่งเขาก็ต้องตอบกลับมาซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาจะตอบรับยังไง ก็ต้องดูกันต่อไป
แต่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นฟ้องศาลไปแล้ว
“เกล้า” : คือมันต้องเป็นขั้นเป็นตอนของทางกฎหมายซึ่งทางเราก็จะไม่พูดอะไรมากแล้ว ก็ให้ทนายเป็นคนจัดการว่าที่ผ่านมามันมีเรื่องอะไรบ้างโดยที่บางเรื่องเราก็ไม่อยากจะสาวออกมาพูดมากเท่าไร
ก็คือเราจะไม่พูดถึงเขาแล้วใช่ไหม
“เกล้า” : ไม่แล้วค่ะ ถ้ามีอีกทีก็คงเป็นเรื่องใหญ่เลย เราคิดว่าเราไกล่เกลี่ยกันไปแล้วเมื่อวันที่2
ตอนแรกเหมือนจะจบสวยแล้วสุดท้ายกลายเป็นแบบนี้เรารู้สึกยังไง
“เกล้า” : ก็ต้องดูว่าใครเริ่มนะคะ เพราะจริงๆ แล้วทางเราก็อยู่ของเราปกติแล้วเขาก็ให้ทนายส่งมาให้ก่อน เราก็ต้องรักษาสิทธิ์ของเรา เพราะมันเหมือนอยู่ดีๆ ก็มีคนมารังแกเราแล้วเราจะไม่ออกมาชี้แจงเหรอ ถ้าเราไม่ออกมาชี้แจงคนอื่นๆ ก็จะคิดว่าเราเป็นอย่างนั้น เราก็ว่ากันด้วยหลักฐานดีกว่า
“คุณแม่” : แม่ก็อยากให้จบแบบเรายังรักเขา เรายังมีความรู้สึกที่ดี
“เกล้า” : คือพูดตรงๆ เลยว่าพี่2คนนี้ยังไงก็ไม่มีทางลืมบุญคุณค่ะ ยิ่งเกล้าก็อยู่กับพวกเขามานาน15ปี แม่ก็อยู่กับเขามา5ปี ยังไงเขาก็เป็นคนให้พื้นที่เรายืน
ข่าวจาก รักดาราดอทคอม
"ใหม่-ดาวิกา"น้ำตาซึม"เอ-ศุภชัย"ส่งโนติสท์ให้ ด้าน"แม่และเกล้า"เผยมีหลักฐานพร้อม
มาริโอ้ได้เข้ามาคุยเรื่องข่าวบ้างไหม
“ก็มีถามเหมือนกันค่ะ คือเราก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้คนเชื่อจริงๆ เพราะว่ามันส่งผลกระทบเราจริงๆ ตอนแรกๆ เราก็ชิลเพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็ไปเหมือนอีกหลายๆ เรื่อง แต่พอเอาเข้าจริงมันก็เริ่มบานปลายเรื่อยๆ เราก็เลยอยากให้มันเคลียร์นะ”
แล้วมาริโอ้มีท่าทีมาจีบเราหรือเปล่า
“พี่โอ้เขาก็เป็นคนอย่างนั้นนะคะ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปตั้งแต่เราร่วมงานกัน”
แต่เห็นมาริโอ้บอกว่าสนิทกับเราที่สุดแบบนี้แสดงว่าน่าจะคุยกันทุกวันไม่ใช่เหรอ
“ไม่ค่ะ เพราะว่าเราไม่ค่อยได้คุยกับพี่โอ้เลยค่ะ คือตอนนี้เรารู้สึกว่าเราต้องเซฟตัวเองบ้างเพราะไม่อยากเป็นข่าวมือที่3 อนาคตจะเป็นยังไงเราไม่รู้แต่ว่าตอนนี้อยากให้เคลียร์ว่าเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของเขาเลย พี่เขาก็เป็นคนน่ารักนะแต่ว่าเรายังรักตัวเองอยู่ ยังไม่อยากโดนว่า เราเป็นข่าวแบบนี้บ่อยๆ มันดูไม่ดี ไม่ใช่ไม่อยากคุยกัน เพียงแต่เราไม่ได้ส่งไปพี่เขาก็ไม่ได้ส่งมา ถามพี่ทีมงานได้เลยว่าเราตั้งใจทำงานกันจริงๆ เราตั้งใจกันมากทั้งคู่ดังนั้นมันไม่มีอะไรเลย”
ที่ไม่รับมาริโอ้เพราะเรามีหนุ่มตัวจริงอยู่แล้วใช่ไหม
“ไม่มีค่ะ ตอนนี้อยู่กับงานอย่างเดียวเลย โสดมากค่ะ”
ที่ยังไม่เปิดเพราะมีกระแสกัสจังกับกุ๊บกิ๊บโพสต์ข้อความบนIGเหมือนเหน็บเราหรือเปล่า
“อันนี้ไม่รู้สึกอะไรเลย เพิ่งรู้เหมือนกัน คือใหม่พยายามไม่รับเรื่องพวกนี้มากค่ะ เราทำหน้าที่ของเราคือนักแสดงให้ดีที่สุดอย่างที่พี่เกล้าสอนว่าเราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด วันแรกเราทำงานยังไงวันนี้เราก็ต้องทำงานอย่างนั้น ก็เลยไม่ได้รับข่าวเครียดๆ เพราะอยากเอ็นจอยกับการทำงาน ”
ส่วนตัวเราได้คุยกับกุ๊บกิ๊บไหม
“ไม่ได้คุยเลยค่ะ คิดว่าถ้าเจอก็คงได้คุย คือจริงๆ แล้วถ้ามันไม่ใช่ความจริงใหม่ก็ไม่อยากเคลียร์เพราะไม่รู้จะเคลียร์อะไร ก็ไม่ได้สนิทกับพี่เขาเพราะหลังๆ ไม่ค่อยได้คุยกันเลยแต่ช่วงแรกๆ ที่พี่เขามาที่กองก็มีคุยกันบ้าง เราก็เจอกันตามงาน”
มันมีกระแสว่า เอ-ศุภชัยยื่นโนติสท์ถึงคุณแม่กับเกล้าว่าให้หยุดพาดพิงไม่งั้นเขาจะฟ้อง จริงหรือเปล่า
“หนูว่าความที่หนูเป็นเด็กหนูก็เลยตั้งใจทำงานอย่างเดียว เรื่องพวกนี้หนูปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ คุณแม่เขาก็เป็นห่วงหนูมาก เขาไม่อยากให้หนูมายุ่งกับเรื่องพวกนี้ สิ่งที่เราเคยบอกไปแล้ววันแรกตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นค่ะ มันไม่มีอะไรเพิ่มเติม เราก็ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะก็อยากให้เรื่องนี้มันจบ ตอนนี้ก็รอเวลาให้อะไรมันดีขึ้นเพื่อพิสูจน์ตัวเราค่ะ”
แสดงว่ามีการยื่นไปจริงใช่ไหม
“จริงค่ะ คือเขาก็เป็นผู้มีพระคุณกับเรานะ เราก็จบกันดีแต่เราก็ไม่รู้ว่าทำไมข่าวมันออกมาแบบนี้ ทางที่เราเลือกเดินเราคิดว่าเราไตร่ตรองแล้ว เราคิดดีแล้ว เราเอาใจเราเป็นหลักเราไม่ได้ยึดสิ่งอื่นเป็นหลัก ตอนนี้ยังไมได้คุยกับพี่เขาเลยค่ะ เพราะตอนแรกที่จบกันมาเราไปนั่งคุยที่ร้านอาหารเราก็จบด้วยกันดีๆ”
ฝากบอกอะไรกับคนที่ติดตามเราอยู่ไหม
“น้องใหม่ขอบคุณทุกๆ กำลังใจค่ะ ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ให้กำลังใจหนู ขอบคุณแฟนคลับ ขอบคุณทุกๆ คน หนูอยากจะบอกว่าหนูโอเคค่ะ หนูยังดีอยู่เพราะว่าหนูรู้ว่าหนูทำอะไร หนูทำในสิ่งที่ถูกต้อง หนุก็ไม่อยากมีเรื่องกับใครด้วย หนุไม่พาดพิงแน่นอนค่ะ หนูไม่พาดพิงถึงพี่เขาเพราะพี่เขาเป็นผู้ใหญ่หนูเป็นเด็กค่ะ”
ด้าน “คุณแม่และเกล้า” ก็ได้พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งเรื่อง “เอ-ศุภชัย” และ “เฮเลน” เพื่อนซี้ของอีกฝ่ายที่ออกมาพูดว่าตนไม่ได้รับค่านายหน้า5เปอร์เซ็นอย่างที่ “คุณแม่และเกล้า” ได้บอกก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งคู่ก็เล่าว่า
“คุณแม่” : ไม่จริงหรอกค่ะ คือคุณเฮเลนนี่คือแม่ต้องการหาผู้จัดการซึ่งก็ได้ถามคุณโต้ง คุณโต้งเขาก็ให้เบอร์เฮเลนมาโดยที่ก่อนหน้านั้นแม่ไม่ได้รู้จักกับคุณเฮเลน พอเสร็จแล้วเขาก็พาไปหาคุณเอแล้วเขาก็ได้ประโยชน์ อยู่ๆ เขาก็พาใหม่ไปแคสติ้งงานโฆษณาแล้วน้องใหม่ได้เขาก็ขอแม่10เปอร์เซ็นซึ่งแม่ก็ให้ ปีแรกก็ให้ปีที่2ก็ให้ แต่พอมาปีที่3แม่มารู้ว่าสัญญามันไม่เป็นธรรม คือไปทำผิดเพราะแม่ไว้ใจเขา
“เกล้า” : ไอเรื่อง5เปอร์เซ็นตอนแรกพี่เฮเลนเขาก็ได้นะคะ เพราะเกล้าจำได้ว่าทางพี่เอเป็นคนตกลงที่จะให้5เปอร์เซ็นกับพี่เขาซึ่งทางเราก็ให้ไป แล้วอยู่มาวันหนึ่งพี่เฮเลนเขามาขอเองว่าเขาไม่เอาแล้วมีเรื่องของโฆษณาเข้ามาคุณแม่ก็เป็นคนให้น้องไปแคสติ้ง ปีแรกก็ไม่มีอะไรจบลงด้วยดี ปีที่2คุณแม่เขาก็เอะใจว่าในสัญญามันเป็นปีครึ่งแต่พี่เขามาบอกว่า1ปี ก็เลยขออ่านสัญญาก่อนจะได้ละเอียด พี่เขาก็บอกจะอ่านทำไม ทำไมเรื่องมากจัง ก็เหมือนมีปัญหากันทางแม่เขาก็ไม่สบายใจก็เลยถอยออกมา แล้วเหมือนทางพี่เขาก็ไปฟ้องพี่คนโตของหนูว่าเรื่องมันเป็นยังไง ซึ่งพี่คนโตของหนูก็บอกว่าให้แยกกันทำงานไป เดี๋ยวพี่คนโตของหนูจะเป็นคนเอาเงิน5เปอร์เซ็นให้เขาเอง พอมาปีที่3ซึ่งตัวเขาก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วยแล้ว เขาก็มาบอกแม่ว่าขอเงินก้อนสุดท้าย
“คุณแม่” : ก็ประมาณ4แสนค่ะ
“เกล้า” : แต่ว่าทีนี้เหมือนกับแม่ให้เขาไม่ครบ แต่สาเหตุที่ให้ไม่ครบเพราะแม่ทราบมาว่าโดนทางพี่เขาเอาน้องไปว่าต่างๆ นาๆ ว่าเรื่องมาก คือแม่เขาก็ไม่สบายใจที่จะต้องมานั่งให้เงิน แม่ก็เลยให้ไปครึ่งหนึ่งซึ่งเขาก็โวยวายไม่ยอม แล้วพี่คนโตเขาก็บอกว่าเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายพี่จะเอาเงินของตัวเองออกเพิ่มให้เต็มเพื่อที่พี่คนรองจะได้หยุดกับเรา เพราะยังมีเมสเสจที่พี่คนรองเขาส่งมาหาแม่อยู่เลยว่าแม่จะให้ไหม ถ้าแม่ไม่ให้ลูกแม่ภาพลักษณ์ก็ต้องเสียแน่ๆ เมสเสจอันนี้เกล้ายังเก็บไว้อยู่เลย ซึ่งถ้าเขามาทวงว่าเขาไม่ได้เงินเกล้าว่าเขาทวงผิดคน เขาต้องไปทวงกับทางพี่คนนั้นมากกว่าเพราะพี่คนนั้นเขาเป้นคนบอกกับทางเราว่าเขาจะจัดการให้เงินของเขาเอง เพราะว่าเขาให้อยากให้มีปัญหากัน อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องมาว่าน้องด้วย
ทางเรามีเอกสารทุกอย่างใช่ไหม
“คุณแม่” : ใช่ค่ะ
“เกล้า” : ก็มีทุกอย่างค่ะ จริงๆ ก็ไม่อยากเอาออกมาโชว์ถึงขั้นนั้น แต่ว่าเขาก็ต้องรู้แหละค่ะ เขาก็ต้องไปคุยกันเองมากกว่าถ้าเขาไม่ได้เงิน
แต่เห็นมีข่าวว่าทางเขาส่งโนติสท์มาให้เรา
“เกล้า” : ส่งมาจริง ก็ส่งมาให้ทางแม่กับทางน้อง แล้วเขาก็ให้เราหยุดพูด ห้ามพาดพิง ซึ่งเกล้าต้องชี้แจงก่อนว่าน้องไม่ได้พาดพิงถึงเขาเลย ถ้าคนติดตามข่าวนี้จะเห็นว่าน้องไม่ได้เอ่ยชื่ออะไรมากเลย แล้วที่น้องขึ้นอินสตาแกรมว่าถ้ามีงานให้ติดต่อทางพี่เกล้า คือเกล้าจะเล่าให้ฟังว่าเหตุเกิดคือวันที่2มี.ค.ที่พวกเรากับพี่เอตัดสินใจเคลียร์กันที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง น้องใหม่ก็บอกว่าน้องจะขอดูแลตัวเองส่วนเกล้าก็บอกว่าจะออกมาดูแลน้องด้วย ตอนนั้นเขาก็บอกว่าเขายินดีปล่อยแล้วเขาก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาปล่อย เราก็โอเคก็ต้องขอบคุณเขาถึงแม้จะมีอะไรตามมาก็ตาม เขาจะบ่ายเบี่ยงว่าเราอยากเปิดร้านส้มตำเราก็ไม่พูดอะไร แต่หลังๆ นี้มันก็เกินไปคือเราคุยกันจบแล้วเมื่อวันที่2มี.ค.แล้วประมาณวันที่4ที่น้องขึ้นอินสตาแกรมว่าให้ติดต่องานที่พี่เกล้าซึ่งเราก็เคลียร์กันจบไปแล้วว่าเราไมได้อยู่กับเขาแล้ว
พอเราโดนแบบนี้เราเครียดไหม
“เกล้า” : ไม่เครียดเลย ที่เขาส่งมาก็คือเขาอยากให้เราหยุดพูด ทีนี้ทางเรารู้สึกว่าตอนแรกเราคิดจะให้เรื่องจบลงไปด้วยดี เราก็ทำงานของเรา แต่ในเมื่อเขายื่นมาเราก็ต้องรักษาสิทธิ์ของเราด้วยการที่เราก็ปรึกษาทนายเหมือนกัน ก็ให้ทนายยื่นกลับไปคิดว่าพรุ่งนี้เขาน่าจะได้ เราก็ต้องชี้แจงว่าเราไม่ได้พาดพิงถึงเขาแล้วเราก็ยื่นข้อเสนอที่เขาซึ่งเขาก็ต้องตอบกลับมาซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาจะตอบรับยังไง ก็ต้องดูกันต่อไป
แต่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นฟ้องศาลไปแล้ว
“เกล้า” : คือมันต้องเป็นขั้นเป็นตอนของทางกฎหมายซึ่งทางเราก็จะไม่พูดอะไรมากแล้ว ก็ให้ทนายเป็นคนจัดการว่าที่ผ่านมามันมีเรื่องอะไรบ้างโดยที่บางเรื่องเราก็ไม่อยากจะสาวออกมาพูดมากเท่าไร
ก็คือเราจะไม่พูดถึงเขาแล้วใช่ไหม
“เกล้า” : ไม่แล้วค่ะ ถ้ามีอีกทีก็คงเป็นเรื่องใหญ่เลย เราคิดว่าเราไกล่เกลี่ยกันไปแล้วเมื่อวันที่2
ตอนแรกเหมือนจะจบสวยแล้วสุดท้ายกลายเป็นแบบนี้เรารู้สึกยังไง
“เกล้า” : ก็ต้องดูว่าใครเริ่มนะคะ เพราะจริงๆ แล้วทางเราก็อยู่ของเราปกติแล้วเขาก็ให้ทนายส่งมาให้ก่อน เราก็ต้องรักษาสิทธิ์ของเรา เพราะมันเหมือนอยู่ดีๆ ก็มีคนมารังแกเราแล้วเราจะไม่ออกมาชี้แจงเหรอ ถ้าเราไม่ออกมาชี้แจงคนอื่นๆ ก็จะคิดว่าเราเป็นอย่างนั้น เราก็ว่ากันด้วยหลักฐานดีกว่า
“คุณแม่” : แม่ก็อยากให้จบแบบเรายังรักเขา เรายังมีความรู้สึกที่ดี
“เกล้า” : คือพูดตรงๆ เลยว่าพี่2คนนี้ยังไงก็ไม่มีทางลืมบุญคุณค่ะ ยิ่งเกล้าก็อยู่กับพวกเขามานาน15ปี แม่ก็อยู่กับเขามา5ปี ยังไงเขาก็เป็นคนให้พื้นที่เรายืน
ข่าวจาก รักดาราดอทคอม