สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483
มาตรา 121 ถ้าลูกหนี้เป็นข้าราชการ เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิรับเงินเดือน บำนาญ บำเหน็จ เบี้ยหวัด หรือเงินในทำนองเดียวกันนี้ของลูกหนี้จากเจ้าหน้าที่ เพื่อรวบรวมแบ่งให้แก่ เจ้าหนี้ได้ แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องจ่ายค่าเลี้ยงชีพของลูกหนี้และ ครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูป
บทบัญญัติในวรรคก่อนให้ใช้บังคับในกรณีที่ลูกหนี้มีสิทธิได้รับเงินจากบุคคล หรือองค์การอื่นที่มิใช่รัฐบาลด้วย
มาตรา 67 เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ หรือพิพากษาให้ลูกหนี้ ล้มละลายแล้ว และยังไม่ได้สั่งปลดจากล้มละลาย
(1) ลูกหนี้จะต้องขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดจำนวนเงิน เพื่อ ใช้จ่ายเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูปโดยเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้อนุญาตให้ลูกหนี้จ่าย จากเงินที่ลูกหนี้ได้มาในระหว่าง ล้มละลาย และลูกหนี้จะต้องส่งเงินหรือทรัพย์สินที่เหลือนั้นแก่เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดพร้อมด้วยบัญชี รับจ่าย
////////////////////////
เมื่อถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด กรณี ลูกหนี้เป็นข้าราชการ เขาจะต้องถูก เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งอายัดเงินเดือนของเขาไปยังต้นสังกัด จำนวน"ทั้งหมด" เพื่อ รวบรวมเงินนั้นไปชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย โดยอาศัยอำนาจตาม ม.22 ม.121
ทางแก้ของลูกหนี้ จึงต้องไปยื่นคำร้องขอค่าเลี้ยงชีพ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตาม นัย ม.121 ม.67(1)
โดยอาจยื่นได้ 2 ทาง คือ ยื่นกับ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่กรมบังคับคดี หรือ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดที่ลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่
ทางปฏิบัติเท่าที่ผมทราบ ถ้าลูกหนี้ไปยื่นคำร้องขอเลี้ยงชีพ+แสดงเหตุผลความจำเป็นว่า ต้องกินต้องใช้อย่างไร มีภาระดูแลลูก ป่วยเจ็บ ฯลฯ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เขาจะจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้เป็นรายเดือนจากเงินเดือน-เงินบำนาญของลูกหนี้ ในอัตราร้อยละ 70 เช่น เงินเดือน-บำนาญ 2 หมื่น ถ้าไปขอค่าเลี้ยงชีพฯ เขาก็จะให้ร้อยละ 70 ของ 2 หมื่น หรือประมาณ 1.4 หมื่นบาท
เอกสารที่ใช้ คงต้องเป็นบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอมลูก ฯลฯ
โชคดีครับ

มาตรา 121 ถ้าลูกหนี้เป็นข้าราชการ เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิรับเงินเดือน บำนาญ บำเหน็จ เบี้ยหวัด หรือเงินในทำนองเดียวกันนี้ของลูกหนี้จากเจ้าหน้าที่ เพื่อรวบรวมแบ่งให้แก่ เจ้าหนี้ได้ แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องจ่ายค่าเลี้ยงชีพของลูกหนี้และ ครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูป
บทบัญญัติในวรรคก่อนให้ใช้บังคับในกรณีที่ลูกหนี้มีสิทธิได้รับเงินจากบุคคล หรือองค์การอื่นที่มิใช่รัฐบาลด้วย
มาตรา 67 เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ หรือพิพากษาให้ลูกหนี้ ล้มละลายแล้ว และยังไม่ได้สั่งปลดจากล้มละลาย
(1) ลูกหนี้จะต้องขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดจำนวนเงิน เพื่อ ใช้จ่ายเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูปโดยเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้อนุญาตให้ลูกหนี้จ่าย จากเงินที่ลูกหนี้ได้มาในระหว่าง ล้มละลาย และลูกหนี้จะต้องส่งเงินหรือทรัพย์สินที่เหลือนั้นแก่เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดพร้อมด้วยบัญชี รับจ่าย
////////////////////////
เมื่อถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด กรณี ลูกหนี้เป็นข้าราชการ เขาจะต้องถูก เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งอายัดเงินเดือนของเขาไปยังต้นสังกัด จำนวน"ทั้งหมด" เพื่อ รวบรวมเงินนั้นไปชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย โดยอาศัยอำนาจตาม ม.22 ม.121
ทางแก้ของลูกหนี้ จึงต้องไปยื่นคำร้องขอค่าเลี้ยงชีพ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตาม นัย ม.121 ม.67(1)
โดยอาจยื่นได้ 2 ทาง คือ ยื่นกับ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่กรมบังคับคดี หรือ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดที่ลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่
ทางปฏิบัติเท่าที่ผมทราบ ถ้าลูกหนี้ไปยื่นคำร้องขอเลี้ยงชีพ+แสดงเหตุผลความจำเป็นว่า ต้องกินต้องใช้อย่างไร มีภาระดูแลลูก ป่วยเจ็บ ฯลฯ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เขาจะจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้เป็นรายเดือนจากเงินเดือน-เงินบำนาญของลูกหนี้ ในอัตราร้อยละ 70 เช่น เงินเดือน-บำนาญ 2 หมื่น ถ้าไปขอค่าเลี้ยงชีพฯ เขาก็จะให้ร้อยละ 70 ของ 2 หมื่น หรือประมาณ 1.4 หมื่นบาท
เอกสารที่ใช้ คงต้องเป็นบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอมลูก ฯลฯ
โชคดีครับ


แสดงความคิดเห็น
คุณพ่อโดนอายัดบัญชีบำนาญครับ ขอคำปรึกษาครับ