ผมรับไม่ได้จริงๆครับ ที่ใครมาประณามว่า คนเสื้อแดงโง่

ใครจะบอกว่า คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ ล้วนแต่เป็นพวกไร้การศึกษา ผมยังพอทำใจรับได้
ใครจะบอกว่า คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ ล้วนแต่เป็นพวกด้อยคุณภาพ ผมยังพอทำใจรับได้
ใครจะบอกว่า คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ ล้วนแต่เป็นพวกที่ยากจน ผมยังก็พอทำใจรับได้อีก

แต่ใครจะมาประณามว่า คนเสื้อแดงส่วนใหญ่โง่และง่ายต่อการชักจูงนั้น ผมคงทำใจให้ยอมรับไม่ได้อย่างเด็ดขาด

คนเสื้อแดงที่พยายามออกมาต่อต้านการทำรัฐประหาร เพราะรู้ดีว่าการทำรัฐประหารแต่ละครั้ง ล้วนแต่ทำให้ประเทศเสียหายมากมายจนประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าจากเม็ดเงินหรือหน้าตาของประเทศ มันเลวร้ายกว่าการคอรัปชั่นของนักการเมืองไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ อย่างนี้หรือครับที่ควรถูกประณามว่า “โง่”

คนเสื้อแดงที่พยายามออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ความเท่าเทียมกันระหว่างมนุษย์ด้วยกัน เพราะมองเห็นความมีอภิสิทธิ์ชนของคนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจากเรื่องธรรมดาในสังคม หรือเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ล้วนแต่มีความเป็นสองมาตรฐานให้เห็นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกฎหมายจะบังคับใช้ได้ก็กับคนกลุ่มหนึ่ง ส่วนอีกกลุ่มมักจะหลุดพ้นจากเงื้อมมือของกฎหมาย ดังนั้นการต้องการสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม ให้กับประเทศ เราเรียกว่า คนเหล่านั้นว่า “โง่” หรือต้องเป็นจำพวกใช้ช่องว่าง ใช้อิทธิพล ใช้ความกว้างขวาง และใช้กฎหมายให้เป็น จนสามารถกลับผิดเป็นถูก จากผิดมากกลายเป็นผิดน้อย คนแบบนี้หรือครับที่ควรยกย่องว่าเป็นคน “ฉลาด”

คนเสื้อแดงที่ไม่เคยให้ความศรัทธาจากองค์กรอิสระต่างๆที่มาจากการทำรัฐประหาร เพราะเห็นว่าเป็นการได้อำนาจจากปลายกระบอกปืน ไม่ใช่มาจากประชาชน แล้วจะมีความยุติธรรมได้อย่างไร จนถึงวันนี้ก็พอเพียงจะพิสูจน์แล้วว่า คนเสื้อแดงนั้นเข้าใจถูกต้องมาตลอด ไม่ว่าจากคลิปที่แสดงถึงความพยายามที่จะช่วยไม่ให้พรรคๆหนึ่งถูกยุบ หรือการยอมรับการถอดถอนนายกฯสมัครจากพจนานุกรมนั้น มันเป็นการวินิจฉัยแบบสุกเอาเผากิน หรือความพยายามยุบพรรค จากธงที่ตั้งไว้ ไม่ใช่จากรัฐธรรมนูญ อย่างนี้ยังมีใครกล้าบอกว่าคนเสื้อแดง “โง่” ล่ะก้อ ควรจะต้องไปพิจารณาตัวเองได้แล้วกระมังครับ

คนเสื้อแดงรู้ดีว่า รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของประเทศ มีหลายมาตราที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้นจึงไม่ยอมให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติ แต่ก็มีหลายคนต้องการให้ประเทศเดินหน้า เพราะกลัวเกรงว่าจะไม่ได้เลือกตั้ง อีกทั้งหลงเชื่อกับเหล่าคนที่คิดว่าดี ออกมาประโคมเรื่องรับไว้ก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง ซึ่งการแก้มันง่ายนิดเดียวพวกเขาว่างั้น แต่จนบัดนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับจะกลายเป็นเงื่อนไขให้สังคมเกิดความขัดแย้งมากขึ้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็จากเหล่าคนที่เคยคิดว่าดี กลุ่มเดิมนั่นแหละ

ดังนั้นความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ จึงไม่ใช่การก่อความวุ่นวาย แต่เป็นการสานต่อเจตนารมณ์เดิมต่างหาก เป็นความต้องการรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่จะก่อให้ประเทศไม่ต้องติดกับดัก เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างราบรื่น อย่างนี้ใครยังเห็นว่า คนเสื้อแดงนั้น “โง่” นั่นแสดงว่า คนเหล่านั้นยังยึดติดกับความเป็นทาส จนไม่กล้าเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองหลุดพ้น แต่ก็ไม่ยอมรับความจริง ก็เลยต้องประเคนคำว่า “โง่”ให้กับคนที่คิดเห็นต่าง เพื่อปลอบประโลมตัวเองเท่านั้นเอง

คนเสื้อแดงที่ไม่เคยหลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องคนตายมากมาย เกิดจากการฆ่ากันเองของคนเสื้อแดงด้วยกัน เพราะไม่ว่าจากหลักฐานคนตายล้วนเกิดจากการสลายการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางคืนหรือกลางวัน อีกทั้งจากกระสุนที่ใช้ไปมากมายของกองทัพ และสุดท้ายความจริงก็ปรากฏ เมื่อศาลวินิจฉัยจากพยานและหลักฐาน ระบุได้แล้วอย่างแน่นอน อย่างน้อย 4 ศพ เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ จึงเป็นที่มาของการสั่งฟ้องผู้บริหารในขณะนั้น ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย โดยเจตนาเล็งเห็นผล สุดท้ายคดีไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด แต่ก็พอเพียงพิสูจน์แล้วว่า คนเสื้อแดงเข้าใจถูกต้องเสมอมา คนแบบนี้หรือครับที่ควรถูกประณามว่า “โง่” เป็นพวก “ถูกชักจูงโดยง่าย”

คนเสื้อแดงไม่เคยยอมรับกับการเผาบ้านเผาเมืองที่มาจาก วาทกรรมทางการเมือง เพื่อให้ตัวเองมีความชอบธรรมในการสั่งฆ่าประชาชน ยังเป็นวาทกรรมในการหาเสียงใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี ซึ่งสุดท้ายก็พิสูจน์อีกแล้วว่า คนเสื้อแดงเป็นฝ่ายถูก เมื่อศาลพิพากษาออกมาแล้วอย่างชัดเจน เหตุเพลิงไหม้ ไม่ใช่เพราะแกนนำสั่ง ไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่ใช่การเตรียมการเพื่อหวังผลทางการเมือง เป็นแค่การก่อการจลาจลเท่านั้น จากความโกรธแค้นที่ถูกสลายการชุมนุม ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เพราะ “โง่”อีก แต่เป็นเพราะมุมมองที่กระจ่างกว่าเท่านั้นเองครับ

คนเสื้อแดงไม่ใช่คนที่ถูกชักจูงง่าย เพียงเพราะมีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองออกมาบอกว่า เป็นคนดี เป็นโชคดีของประเทศไทย แต่คนเสื้อแดงดูจากผลงานในอดีต ที่มีแต่ “พูด” โดยไม่เคยมีผลงานเป็นรูปธรรม และสุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นอีกว่า คนที่คนเสื้อแดงไม่ต้องการให้เป็นผู้นำทางบริหาร ต่อให้แย่งอำนาจมาได้ แต่แค่สองปีที่ทำหน้าที่

ด้านภัยพิบัติ ประชาชนแทบอยากให้นักเล่าข่าวอย่างคุณสรยุทธ มาเป็นนายกฯแทนเสียด้วยซ้ำไป
ด้านต่างประเทศ เที่ยวทะเลาะกับเพื่อนบ้าน จนนำไปสู่สงคราม สร้างความเสียหายทั้งประชาชนและประเทศ
ด้านความโปร่งใส แทบทุกโครงการล้วนแต่อื้อฉาวในเรื่องการทุจริตทั้งสิ้น จนประชาชนได้แต่ส่ายหน้า
ด้านจริยธรรม หรือจิตสำนึกทางการเมือง ก็ไม่เคยคิดจะรับผิดชอบ แม้จะร้ายแรงถึงขั้นทำให้คนตายมากมายที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่มีการฆ่าคนไทยด้วยกัน
ด้านภาวะผู้นำ แม้แต่การแต่งตั้ง ผบ.ตร.ยังไม่สามารถแต่งตั้งได้เป็นปี
ด้านกคุณธรรม ก็ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ แม้ท้ายสุดศาลให้คืนตำแหน่งก็ยื้อจนหมดอำนาจ
ด้านความสง่างามยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง เพราะจากนานาชาติไม่มีใครอยากคบค้าด้วย นอกจากการประชุมตามวาระเท่านั้น เรื่องนี้เราเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างผู้นำสง่างามกับผู้นำที่มืดๆเทาๆ

หรือแม้กระทั่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา คนเสื้อแดงรู้ดีว่า เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ต้องการคนที่มีวิสัยทัศน์ในการบริหาร มีความสามารถในการพัฒนาท้องถิ่นและต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล

ไม่ใช่การเลือกผู้ว่าฯเพื่อเป็นไม้กันหมา ไม่ใช่การเลือกคนมาต่อต้านกับข้าศึก ไม่ใช่การเลือกคนมาปกป้องเมืองหลวง ยิ่งไม่ใช่การเสียกรุงอย่างที่พวกเขาพยายามชักจูง พยายามใส่ร้ายป้ายสี พยายามโฆษณาชวนเชื่อ แล้วก็เลือกคนที่ทำงานไม่เป็นมาเป็นผู้ว่าฯต่ออีก 4 ปี

อย่างนี้แล้วจะให้ผมยอมรับกับการประณามว่า คนเสื้อแดง “โง่” ได้อย่างไรครับ เพราะถ้าผมยอมรับล่ะก้อ จะกลายเป็นว่า คนที่กล่าวหาคนเสื้อแดงนั้น “โง่” มิกลายเป็นอะไรที่แย่กว่า “โง่”อีกหรือครับ แล้วคนไทยจะเหลืออะไรให้พวกเราภูมิใจกันล่ะทีนี้ จริงไหมครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่