สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่านนะครับเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อแฟนผมสนใจซื้อ Deal กำจัดขนถาวร 10 ครั้ง ของ Chacha beauty shape จากทางเวปๆหนึ่งเลยมาปรึกษากับผมว่าซื้อดีไหม ผมจึงตัดสินใจโทรไปสอบถามทางคลีนิค ถึงบริการก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ และได้ถามว่าราคานี้รวมทุกอย่างหมดแล้วใช่ไหม ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีกใช่ไหมครับ สำหรับบริการของ Deal นี้ ทางคลีนิคได้ตอบมาว่า "ใช่ค่ะราคานี้รวมทุกอย่างหมดแล้ว" แล้วก็สอบถามถึงบริการทางคลีนิคก็อธิบายให้ฟังว่า ใช้ Laser FTD ไม่มีการเจ็บอย่างแน่นอน ผมก็โอเคหลังจากจบการสนทนา ก็ได้ตัดสินใจซื้อ Deal จากทางเวป และได้มีการโทรไปนัดคิวกับทางร้านเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และเรื่องราวก็เกิดขึ้นเมื่อเข้าใช้บริการ....

เราไปถึงคลีนิคตามเวลานัดเมื่อเข้าไปก็มีพนักงานต้อนรับ และแฟนผมก็ได้แสดงเอกสารที่เป็นหลักฐานในการซื้อ Deal ให้ทางคลีนิคดู ก็เซ็นชื่อในเอกสารปกติซึ่งแฟนผมเลือกที่จะทำรักแร้แล้วก็ได้เข้าไปในห้องเพื่อที่จะเริ่มการทำ Laser (เหตุการณ์ทั้งหมดในห้อง Laser ผมไม่ได้เข้าไปแต่แฟนผม LINE คุยกับผมซึ่งนั่งรออยู่ข้างนอกตลอดเวลา) เข้าไปก่อนที่จะเริ่มทำพนักงานคนหนึ่งหยิบขวดยาเล็กๆมาให้แฟนผมดูพร้อมกับพูดว่า "เดี๋ยว Laser เสร็จแล้วต้องซื้อยาตัวนี้ไปทาด้วยนะค่ะ ราคา 1,000 บาท เพื่อให้ขนขึ้นช้า ทำให้รักแร้ขาว และหลังจาก Laser ห้ามใช้โรออนเด็ดขาด ให้ใช้ตัวนี้ทาแทนไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นตัวนี้ช่วยให้รักแร้ไม่มีกลิ่นด้วย" แฟนผมก็เอะใจไม่ได้พูดอะไร LINE ออกมาบอกผมที่อยู่ข้างนอกว่าพนักงานจะให้ซื้อยาเพิ่มอีก 1,000 บาท ซึ่งผมจำได้ว่าสอบถามไปอย่างดีแล้วว่าจะไม่มีการจ่ายใดๆเพิ่มอีกใช่ไหม ผมได้ตอบแฟนกลับว่า "ไม่เป็นไรทำไปก่อนออกมาเดี๋ยวค่อยมาเคลียกัน" เวลาผ่านไปไม่ถึง 15นาทีเร็วมากแฟนผมก็ออกมาผมยังงงเลยว่าเสร็จแล้วหรอทำไมเร็วจัง ผมก็ได้เดินไปถามที่พนักงานว่าผมได้โทรมาสอบถามแล้วนะครับ ว่าการทำนี้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มอีกหรือเปล่า ซึ่งพนักงานทางคุณตอบว่า ไม่มีค่ะรวมหมดแล้ว

พนักงานตอบผมกลับมาว่า "งั้นก็ต้องไปถามคนที่คุณคุยด้วยแล้วค่ะคุณคุยกับใคร"
ผมตอบกลับไปว่า "ประเด็นคือผมไม่รู้ชื่อว่าผมคุยกับคนไหน"
พนักงานตอบกลับมาว่า "ก็นั่นนะสิค่ะดิฉันจะรู้ได้ยังไง"

อ่าวพูดแบบนี้ได้ยังไงผมเลยตอบกลับไปว่า "เป็นหน้าที่ของลูกค้าหรอครับที่ต้องมาตามล่าลายชื่อว่าใครเป็นคนคุยกับผม ทำไมทางคุณไม่ลองสอบถามพนักงานของคุณดูละครับ"
พนักงานเปลี่ยนเรื่องเป็นตอบผมเรื่องค่ายาว่า "อันนี้เราไม่ได้บังคับลูกค้านะค่ะ ใครอยากซื้อไปใช้ก็ได้แล้วแต่ลูกค้า"
อ่าวแล้วที่คุณบอกแฟนผมก่อนทำหละครับว่า "ต้องซื้อยาเพิ่ม" คุณใช้คำว่า "ต้อง" นี่แปลว่าไม่ได้บังคับแล้วแต่ลูกค้าหรอครับ แล้วคุณพูดขนาดนั้นว่าใช้แล้ว ขนจะขึ้นช้า รักแร้ขาว แล้วยังมาห้ามใช้โรออนใช้ตัวนี้แทนรักแร้จะได้ไม่มีกลิ่นด้วย คุณพูดขนาดนี้มันคือว่าต้องใช้แล้วแหละครับ ไม่ใช่แล้วแต่ลูกค้าจะเลือกใช้ก็ได้ไม่ใช้ก็ได้

ผมเลยบอกว่าขอคุยกับผู้จัดการหน่อย หรือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องนี้ พนักงานบอกว่าผู้จัดการไม่เข้าค่ะไม่อยู่ ผมเลยบอกต่อว่างั้นเอาเบอร์ผู้จัดการคุณมาหน่อยครับผมจะโทรไปคุย พนักงานบอกไม่มีเบอร์ค่ะ อ่าวคราวนี้อาการหนักละครับโกหกกันซึ่งๆหน้า ผมบอก
"คุณทำงานกันยังไงไม่มีเบอร์ผู้จัดการ เวลามีปัญหายกตัวอย่างเริ่องผมนี่คุณจะติดต่อผู้จัดการยังไง"
พนักงานบอกประโยคเดิมว่า "ก็ไม่มีค่ะ ไม่มีเบอร์ผู้จัดการ" ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
ผมก็ไม่พอใจเช่นกันครับแฟนผมก็ดึงๆบอกว่าช่างมันเุถอะเหลือมาทำอีกตั้งหลายครั้งอย่าไปมีเรื่องมีราวเลย แ่ต่ผมมันปรี๊ดแตกไปแล้วยิ่งมาพูดกับลูกค้าแบบนี้ ผมเลยสงสัยเอ๊ะนี่มันคลีนิคเถื่อนหรือเปล่าเนี่ยผู้จัดการอะไรก็ไม่ยอมให้ติดต่อ เลยสอบถามว่า คุณจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า ผมอยากรู้ผมจะไปเช็คกับทาง สคบ. พนักงานตอบกลับว่า
"ถูกค่ะแต่ไม่มีอะไรให้ดูหรอกนะค่ะ คุณจะแจ้งอะไรตรวจสอบอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ"

ผมตัดสินใจเดินออก และบอกกับแฟนว่าไม่ต้องมา่ทำที่นี่อีก เงินไม่เท่าไหร่ช่างมันแต่ผมไม่จบแน่ๆกับเรื่องแบบนี้ เรื่องยาที่ต้องจ่ายเพิ่มกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยถ้าเทียบกับมารยาทของพนักงานแบบนี้ที่มีต่อลูกค้าและความไม่จริงใจต่อลูกค้า หลังจากขึ้นรถมาแฟนผมก็ได้เล่าให้ฟังว่า เหมือนไม่ได้ Laser เลยเหมือนแค่มา Wax ขนออกเฉยๆ เพราะตอนทำพนักงานใช้การ Wax ขนออกจนหมดและหลังจากนั้นก็ใช้เครื่อง(ที่เขาบอกว่าเป็นเครื่อง Laser) มาผ่านที่รักแร้ 2-3 ครั้งเสร็จ โดยไม่มีความรู้สึกถึงการยิงใดๆทั้งสิ้น ไม่มีความเจ็บใดๆทั้งสิ้น เหมือนนำไฟฉายมาส่องที่รักแร้กวาดไปมา 2-3 ทีแค่นั้น และไม่มีการทาครีมใดๆให้ทั้งสิ้น กลับบ้านมาผมพยายามเข้าWebของทางร้านเพื่อหา E-mail เพื่อที่จะส่งไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังเพื่อที่จะให้โอกาสทางร้านได้แก้ปัญหาภายในก่อนที่จะมาโพสใน Pantip แต่ใน Web กลับไม่มีช่องทางติดต่อนอกจากเบอร์ทางคลีนิคเลย ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าจะโทรไปขอเบอร์ผู้จัดการคงจะไม่ได้อีกตามเคย จึงตัดสินใจมาโพสกระทู้ให้ชาว Pantip ได้อ่านกันและหวังว่าถ้าเจ้าของคลีนิคได้มีโอกาสเข้ามาอ่านจะได้ีรู้เรื่องราวของพนักงานคุณด้วย ผมรอคำชี้แจงจากคุณอยู่  ฝากชาว Pantip เป็นอีกหนึ่งเรื่องเตือนใจไว้ด้วยครับ ถ้ามีอะไรคืบหน้าในเรื่องนี้ผมจะมาโพสแจ้งให้ทราบกันอีกทีครับ