ข่าวหุ้น
19 มีนาคม 2556
เวลา 17:37:50 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ปิดตลาดวันนี้ลบ 23.40 จุด หรือ 1.47% มาที่ 1,568.25 จุด สูงสุดที่ 1,601.34 จุด ต่ำสุดที่ 1,554.27 จุด มูลค่าซื้อขายที่ 76,075.17 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก โดยช่วงเช้าดัชนีสามารถดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,600 จุดได้ในช่วงสั้นก่อน จะมีความผันผวนและร่วงลงแรงในภาคบ่าย ตามแรงขายนำออกมาในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และธนาคาร ฉุดให้ดัชนีปรับลงสวนทางตลาดภูมิภาค
TRUE ลบ 0.10 บาท มาที่ 7.75 บาท
BTS ลบ 0.05 บาท มาที่ 9.35 บาท
KTB บวก 0.50 บาท มาที่ 27.00 บาท
TMB ลบ 0.16 บาท มาที่ 2.62 บาท
N-PARK ลบ 0.01 บาท มาที่ 0.18 บาท
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย)เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายปรับตัวลงแรง คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเกิดฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์
โดยจะเห็นว่า หุ้นที่ถูกขายออกมามาก และปรับตัวลงแรง คือ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา หุ้นอสังหาริมทรัพย์มีการเก็งกำไรและ ราคาปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก
ด้านนายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงแรงจากข่าวเรื่องความกังวลที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาพูดเรื่องค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีมาตรการออกมาจึงขายทำกำไรก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นแค่ข่าวธรรมดา แต่ที่ลงแรงนื่องจากตลาดเปราะบางอยู่แล้ว และเกิด Sell Signal เมื่อมีข่าวออกมาจึงมีแรงขายค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตามถือเป็นจุดดี เนื่องจากตลาดยังไม่เคยปรับฐานนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ถึงปัจจุบัน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีปัญหาเพิ่ม โดยเรื่องไซปรัสไม่น่าจะมีผลมาก ทั้งนี้มองว่าเป็นการขายทำกำไรของนักลงทุนรายย่อยมากกว่า เนื่องจากหุ้นใหญ่แทบจะไม่มีแรงขาย ส่วนใหญ่เป็นหุ้นเล็กที่ขึ้นไปค่อนข้างแรง
สำหรับทิศทางพรุ่งนี้หากข่าวธปท.จางหายไปหรือถูกปฏิเสธ เชื่อว่าดัชนีจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามการดีดตัวรอบนี้อาจไม่แรงเท่ากับที่ปรับลงไป โดยคาดว่าจะขึ้นมา 2 ใน 3 ซึ่งถือเป็นภาวะปกติ
1600 +

กังวล! ธปท.ออกมาตรการสกัดบาทแข็ง SET ปิดร่วงกว่า 23 จุด กูรูเชื่อแค่ปรับฐาน ชี้ถือเป็น "จุดดี" หลังขึ้นยาวไม่ได้หยุดพัก
19 มีนาคม 2556
เวลา 17:37:50 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ปิดตลาดวันนี้ลบ 23.40 จุด หรือ 1.47% มาที่ 1,568.25 จุด สูงสุดที่ 1,601.34 จุด ต่ำสุดที่ 1,554.27 จุด มูลค่าซื้อขายที่ 76,075.17 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก โดยช่วงเช้าดัชนีสามารถดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,600 จุดได้ในช่วงสั้นก่อน จะมีความผันผวนและร่วงลงแรงในภาคบ่าย ตามแรงขายนำออกมาในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และธนาคาร ฉุดให้ดัชนีปรับลงสวนทางตลาดภูมิภาค
TRUE ลบ 0.10 บาท มาที่ 7.75 บาท
BTS ลบ 0.05 บาท มาที่ 9.35 บาท
KTB บวก 0.50 บาท มาที่ 27.00 บาท
TMB ลบ 0.16 บาท มาที่ 2.62 บาท
N-PARK ลบ 0.01 บาท มาที่ 0.18 บาท
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย)เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายปรับตัวลงแรง คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเกิดฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์
โดยจะเห็นว่า หุ้นที่ถูกขายออกมามาก และปรับตัวลงแรง คือ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา หุ้นอสังหาริมทรัพย์มีการเก็งกำไรและ ราคาปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก
ด้านนายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงแรงจากข่าวเรื่องความกังวลที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาพูดเรื่องค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีมาตรการออกมาจึงขายทำกำไรก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นแค่ข่าวธรรมดา แต่ที่ลงแรงนื่องจากตลาดเปราะบางอยู่แล้ว และเกิด Sell Signal เมื่อมีข่าวออกมาจึงมีแรงขายค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตามถือเป็นจุดดี เนื่องจากตลาดยังไม่เคยปรับฐานนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ถึงปัจจุบัน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีปัญหาเพิ่ม โดยเรื่องไซปรัสไม่น่าจะมีผลมาก ทั้งนี้มองว่าเป็นการขายทำกำไรของนักลงทุนรายย่อยมากกว่า เนื่องจากหุ้นใหญ่แทบจะไม่มีแรงขาย ส่วนใหญ่เป็นหุ้นเล็กที่ขึ้นไปค่อนข้างแรง
สำหรับทิศทางพรุ่งนี้หากข่าวธปท.จางหายไปหรือถูกปฏิเสธ เชื่อว่าดัชนีจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามการดีดตัวรอบนี้อาจไม่แรงเท่ากับที่ปรับลงไป โดยคาดว่าจะขึ้นมา 2 ใน 3 ซึ่งถือเป็นภาวะปกติ
1600 +