เล่าประสบการณ์การเรียนใน.รัฐ(ปิด) ม.เอกชนอินเตอร์ และม.รัฐ(เปิด) จากคนเคยเรียนมาแล้วทั้ง3ที่

เล่าประสบการณ์การเรียนใน.รัฐ(ปิด) ม.เอกชนอินเตอร์ และม.รัฐ(เปิด) จากคนเคยเรียนมาแล้วทั้ง3ที่


เปรียบเทียบม.รัฐ(ปิด) ม.เอกชนอินเตอร์ และม.รัฐ(เปิด) จากคนเคยเรียนมาแล้วทั้ง3ที่

1.ม.เอกชนภาคอินเตอร์(เรียนคณะสายวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์)
เกรดเฉลี่ยปี1 : 3.98
ตอนแรกเลือกเรียนที่นี่ จริงๆพื้นเดิมผมเป็นคนเรียนดี ห้องคิง สายวิทย์รร.ดังทางภาคเหนือ แต่ตอนนั้นทางบ้านฐานะไม่ดี คุณพ่อเพิ่งเสีย พอได้ทุนก็ เอ้อ ตัดสินใจรับเลย คิดว่าอย่างน้อยเราได้ภาษา ได้เรียนฟรีหมด
เรียนได้แค่ปีเดียว รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ถามว่าทำไม? ลองอ่านข้อดี ข้อเสียดูครับ
ข้อดี - อุปกรณ์ทุกอย่างดีมาก เทียบกับม.รัฐคณะนี้เช่นเดียวกัน ฟังจากเพื่อนที่เรียน อุปกรณ์ของที่นี่ดีกว่าพอสมควร
      - ได้เกรดเฉลี่ยดี ทำให้เราโดดเด่น อาจารย์จำได้ เราโดดเด่น ส่งแข่งขัน มีทุนมาให้มากมาย
      - มีเพื่อนหลากลายแบบ 5%เป็นเด็กตั้งใจเรียน 40%เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง แต่ดี ได้รสชาติชีวิตไปอีกแบบ โดยเฉพาะถ้าอยู่หอ
      -คณะทางนี้เรียนไม่ยากมาก กล่าวคือ มันเป็นstepของมันไปเรื่อยๆ ไม่ซับซ้อนลึกซึ้ง เรียกได้ว่าเรียนไปพอประกอบอาชีพได้
ข้อเสีย - บรรยากาศรอบตัวทำให้เราเนือยๆ ไม่กระตือรือร้น เมื่อเพื่อนกลางๆ ไปจนถึวไม่ตั้งใจ บางคนเรียนไปหยิบมือถือถ่ายรูปทำท่าปากหงิก แล้วเราดันเก่ง เลยทำให้เรียนแบบเรื่อยๆเปื่อยๆ ตั้งใจนะครับแต่ไม่กดดันไม่มีแรงกระตุ้นเท่าที่ควร
        - ถ้าเด็กเรียน เด็กช่างคิด ชอบแสวงหา ค้นหาความหมาย ชอบอะไรที่ซับซ้อน ลึกซึ้ง ชอบวิชาการ คุณจะรู้สึกแปลกแยกและแตกต่างพอสมควร

2.ม.รัฐภาคปกติย่านรังสิต(เรียนรัฐศาสตร์ ภาคที่รับน้อยมาก)
เกรดปี1-4: 2.97
ผมตัดสินใจเอนท์ใหม่ หลังจากเสียเวลามาปีนึง ไม่อยากเล่ารายละเอียดมาก เกรงว่าจะดราม่าเปล่าๆ เอาเป็นว่าประการแรก มันเป็นคณะที่เขีาใหม่นี่ผมใฝ่ฝันมานาน แต่ตอนเอนท์ครั้งแรกชะล่าใจ คิดเองเออเองว่า ไหนๆได้ทุนแล้ว อย่าซีเรียสเรื่องเอนท์มาก แม่เราลำบากอยู่ เอาทุนเรียนให้จบๆ สาขาที่อยากเรียนค่อยไปลงรามเอาทีหลัง
เราเด็กตจว.ไม่มีคนแนะแนวด้วย พอดีพอขึ้นเทอม2เริ่มรับรู้จริงๆว่าสังคมที่เราอยู่ไม่ใช่แบบที่คิด แม้ได้เกรดเฉลี่ยดี แต่ไม่ได้อยากทำงานด้านนี้ มันขัดกับความฝัน ตอนนั้นป้าที่มีฐานะมารับแม่ไปอยู่ด้วย สร้างห้องให้แม่ ช่วยอุปการะเรา ป้านี่แหละเป็นคนผลักดัน บอกว่าเอนท์เข้าม.ดีๆ คณะที่ชอบดีไหม ป้าส่งเสียเอง เลยฟิตลงเรียนพิเศษ เอนท์ใหม่ จนติดคณะในฝัน ของม.ที่ฝันรองลงมา
เข้าไปใหม่พบข้อดี ข้อเสียดังนี้
ข้อดี -เพื่อนดีมาก เรียกได้ว่าเด็กเรียนเกือบ100% ทุกคนเล่นเป็นเล่นเรียนเป็นเรียน ได้สัมผัสบรรยากาศของปัญญาชน มีเพื่อนแบบเดียวกัน ไปในทางเดียวกัน มาเจอคนเก่งจริงแล้วเราว้าวนะ ว่า เห้ย เมื่อก่อนเราเรียนรร.ดังในภาคเรา เราว่าเราเก่งมากในห้องแล้ว มาอยู่นี่ เห้ย เจอเด็กเตรียม เด็กอัสสัม เด็กสวนกุหลาบ โห มันจะเทพไปไหน รู้เลยที่เราคิดว่าตัวเองเก่ง จริงๆเหนือฟ้ายังมีฟ้าอีกมาก
    - การเรียนเข้มข้นมากถึงมากที่สุด ไม่มีบรรยากาศที่ว่าอาจารย์สอนชิวๆ หรือส่งงานชิวๆ ส่งงานทีอาจารน์แก้จุดแแดงทุกบรรทัด สอบแทบทุกอาทิตย์ งานหนักตั้งแต่เปิดเทอมปี1เรียกได้ว่าคุณหยุดไม่ได้ ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา สรุปว่ามันเรียนเครียดจริงๆ หลายวิชาในห้องเด็กแค่5-7คนเท่านั้น ใกล้ชิดอาจารย์มาก มีการถกdiscussตลอด ถ้าคุณเรียนแล้วนั่งหยิบไอโฟนมาถ่ายรูปแอ๊บแบ๊วคุณจะกลายเป็นไอ้งั่งปัญญาอ่อนทันทีทันที
  ตอนสอบเราเขียนไป2ชม.จดยิกๆได้ครึ่งเล่มคือเกือบ10หน้า  ดันมีเพื่อนข้างๆยกมือขอสมุดอาจารย์เพิ่ม แล้วพออาจารย์บอกว่าให้เพื่อนเขียนตอบตรงปกสมุดแทน  เพื่อนก็บอกว่าตรงปกก็เขียนแล้วครับ

ข้อเสีย -การเรียนคณะพวกนี้ อ่านหนังสือไปมันไม่พอ การเก็บคะแนนอยู่ที่การสอบอัตนัยและpaper การสอบอ่านไปเท่าไหร่มันก็ไม่ตามเสตปเหมือนคณะแรก อยู่ที่ความลึกซึ้งของตัวคุณเองด้วย มองอะไรรอบด้านว่าจะคิดวิเคราะห์ได้ขนาดไหน การทำpaperยิ่งยากที่สุดคณะแรกเขียนโปรแกรม มันมีขั้นตอนปกติของมัน เรียนไม่เข้าใจไปหาอ่านเอาสิ แต่นี่ต้องเอาหนังสือ50เล่มมาอ่าน มาคิด ประมวล วิเคราะห์
        -จากคนเก่งๆคุณจะกลายเป็นคนธรรมดาถึงขั้นอ่อนทันที ต่อให้ขยันโคดๆก็ยังมีเพื่อนที่เก่งกว่า เกรดผมเทอมแรก2.85 เทอมต่อมาก็2.9-3.33อยู่เท่านี้ จบมาเกรด2.97 แต่ก็ดีใจและภูมิใจได้ทำงานที่ดีมาก เพราะตอนเรียนได้ทดสอบความสามารถของเราจริงๆ

3.ม.รัฐ(แบบเปิด) คณะบริหาร
เกรดปีแรก: 4.00
อันนี้เรียนชิวๆขำๆ เรียนเพราะเริ่มทำธุรกิจเบ็กๆคู่กับงานประจำ สงสัยใครรู้ จึงลงไปอย่างนั้นหวังได้ข้อมูลต่างๆเพิ่มเท่านั้นเอง
ข้อดี: เรียนไม่หนัก  คล้ายๆม.แรก
        เราจัดสรรตัวเองเป็น ฝึกจัดตารางเวลาเพราะไม่ต้องเข้าเรียนตบอดเหมือนม.อื่นๆ
ข้อเสีย: คล้ายม.แรก   ไม่ได้คิดวิเคราะห์อะไรมาก ข้อสอบส่วนมากเป็นปรนัย อ่านก่อนสอบไม่กี่วันก็ได้แล้ว แต่เราต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก เรียนเองอ่านเองที่บ้าน
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เคยเจอเพื่อนเรียนรามได้  4.00 แต่เวาแมร่งม.รัฐ สามย่าน 2 กว่าๆ โดนประนามจากมันว่าขี้เกียจ ไม่ไขว่คว้า
ทั้งๆที่แทบเป็นแทบตายก่อนสอบ บอกมันไปว่าตัดตาม mean เลยได้น้อย มันก็ไม่ค่อยเข้าใจ เลยปล่อยวาง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่