สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ตอบตามข้อมูลที่เห็นนะครับ
1.ตามปรกติ บ.ประกันภัย จะรับทำประกันภัย โดยมีทุนประกันที่ประมาณ 80% ของราคารถในขณะนั้น เนื่องจากหากทำทุนประกันภัยสูงเกินกว่าราคารถ จะเป็นช่องว่างให้ผู้เอาประกันภัย เอาช่องโหว่ของสัญญามาหาผลประโยชน์ได้
และหากรถเสียหายสามารถซ่อมได้ ทางประกันภัย ก็จะจ่ายค่าซ่อมไม่เกิน 70% ของทุนประกัน เนื่องจาก สมมติรถคุณทุนประกัน 400,000 หากมีการซ่อมรถ ประกันก็จะจ่ายค่าซ่อมให้ไม่เกิน 280,000 เพราะกรณีถ้าคุณจะขอคืนทุนสี่แสน คุณก็ต้องโอนกรรมสิทธิ์รถให้ประกันภัย และประกันภัยก็จะนำรถคุณไปขายซากหรือไปซ่อมแล้วค่อยขายก็ตามแต่ ซึ่งหักลบแล้ว
ก็จะสูสีกับที่เขาจ่ายค่าซ่อมให้คุณนั่นแหละครับ หรืออาจจะจ่ายน้อยกว่าก็เป็นได้
2.จากประสบการณ์ส่วนตัว คิดว่ารถทุกคัน ถ้าไม่ชนกันถึงขนาดเครื่องแตก สามารถซ่อมได้ครับ จะตัดหัว ตัดท้าย หรือยกโครงมาทั้งคัน ทำได้หมดครับ ทีนี้คุณก็ต้องมาชั่งน้ำหนักดูว่า คุณจะขอซ่อมรถ หรือจะขอคืนทุน ถ้าทางประกันขอคืนทุน
แสดงว่า ทางประกันมองแล้ว คืนทุนให้คุณสี่แสน แต่ซากรถคุณเขาขายได้แน่ๆ ไม่ต่ำกว่าแสนสอง แต่คุณมีสิทธิเลือกครับ ว่าจะขอซ่อม หรือจะขอคืนทุน (ในกรณีที่ประกันตีคืนทุนนะครับ แต่ถ้าคุณจะซ่อม เขาก็จะให้ไม่เกินตามเรทที่ผมว่าไว้)
3.จริงๆแล้ว เคสของคุณ สามารถยื่นไปขอเรียกร้องค่าซ่อมรถจากประกันภัยคู่กรณีได้โดยตรงได้ ถึงแม้คุณจะทำประกันชั้น 1 ก็ตาม แต่ตรงนี้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ และประกันคู่กรณีก็จะอ้างว่า คุณมีประกันชั้น 1 ให้คุณไปเรียกร้องค่าซ่อมกับประกันภัยตนเองก่อน หรือง่ายๆคือ คุณอาจเรียกร้องค่าซ่อมกับประกันภัยคุณ แล้วส่วนที่ขาดค่อยไปเรียกกับประกันคู่กรณีก็ได้ครับ
ง่ายๆคือ รถคุณทุนประกัน 400,000 แต่ของตกแต่งที่ติดเพิ่มมา แต่ไม่ได้แจ้งประกัน ก็ตีเป็นทรัพย์สินครับ เรียกร้องจากประกันคู่กรณี
4.ค่าขาดประโยชน์ จากการใช้รถ สามารถเรียกร้องได้จากประกันคู่กรณีครับ ถ้ามีเอกสารต่างๆประกอบ เช่นค่าเช่ารถ อื่นๆ
หรือหากไม่มี ทาง คปภ. เขามีเรทบังคับการชดเชยค่าขาดประโยชน์เป็นรายวันให้ครับ วันละเท่าไหร่ไม่แน่ใจ จำได้รางๆว่า รถส่วนบุคคลวันละ 400-500 รถรับจ้างสาธารณะวันละ 800 มั้งนะครับ
เอาแค่นี้ก่อนละกันครับ สงสัยอันไหนก็โพสไว้ หรือจะถามมาทางหลังไมค์ ก็ยินดีช่วยเหลือครับ
ป.ล. เดี๋ยวนี้ มีปัญหากับประกันภัย ไม่ต้องไปตั้งทนายฟ้องศาลแล้วครับ ผู้เสียหายสามารถร้องเรียนโดยตรงที่ คปภ. ได้เลย
1.ตามปรกติ บ.ประกันภัย จะรับทำประกันภัย โดยมีทุนประกันที่ประมาณ 80% ของราคารถในขณะนั้น เนื่องจากหากทำทุนประกันภัยสูงเกินกว่าราคารถ จะเป็นช่องว่างให้ผู้เอาประกันภัย เอาช่องโหว่ของสัญญามาหาผลประโยชน์ได้
และหากรถเสียหายสามารถซ่อมได้ ทางประกันภัย ก็จะจ่ายค่าซ่อมไม่เกิน 70% ของทุนประกัน เนื่องจาก สมมติรถคุณทุนประกัน 400,000 หากมีการซ่อมรถ ประกันก็จะจ่ายค่าซ่อมให้ไม่เกิน 280,000 เพราะกรณีถ้าคุณจะขอคืนทุนสี่แสน คุณก็ต้องโอนกรรมสิทธิ์รถให้ประกันภัย และประกันภัยก็จะนำรถคุณไปขายซากหรือไปซ่อมแล้วค่อยขายก็ตามแต่ ซึ่งหักลบแล้ว
ก็จะสูสีกับที่เขาจ่ายค่าซ่อมให้คุณนั่นแหละครับ หรืออาจจะจ่ายน้อยกว่าก็เป็นได้
2.จากประสบการณ์ส่วนตัว คิดว่ารถทุกคัน ถ้าไม่ชนกันถึงขนาดเครื่องแตก สามารถซ่อมได้ครับ จะตัดหัว ตัดท้าย หรือยกโครงมาทั้งคัน ทำได้หมดครับ ทีนี้คุณก็ต้องมาชั่งน้ำหนักดูว่า คุณจะขอซ่อมรถ หรือจะขอคืนทุน ถ้าทางประกันขอคืนทุน
แสดงว่า ทางประกันมองแล้ว คืนทุนให้คุณสี่แสน แต่ซากรถคุณเขาขายได้แน่ๆ ไม่ต่ำกว่าแสนสอง แต่คุณมีสิทธิเลือกครับ ว่าจะขอซ่อม หรือจะขอคืนทุน (ในกรณีที่ประกันตีคืนทุนนะครับ แต่ถ้าคุณจะซ่อม เขาก็จะให้ไม่เกินตามเรทที่ผมว่าไว้)
3.จริงๆแล้ว เคสของคุณ สามารถยื่นไปขอเรียกร้องค่าซ่อมรถจากประกันภัยคู่กรณีได้โดยตรงได้ ถึงแม้คุณจะทำประกันชั้น 1 ก็ตาม แต่ตรงนี้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ และประกันคู่กรณีก็จะอ้างว่า คุณมีประกันชั้น 1 ให้คุณไปเรียกร้องค่าซ่อมกับประกันภัยตนเองก่อน หรือง่ายๆคือ คุณอาจเรียกร้องค่าซ่อมกับประกันภัยคุณ แล้วส่วนที่ขาดค่อยไปเรียกกับประกันคู่กรณีก็ได้ครับ
ง่ายๆคือ รถคุณทุนประกัน 400,000 แต่ของตกแต่งที่ติดเพิ่มมา แต่ไม่ได้แจ้งประกัน ก็ตีเป็นทรัพย์สินครับ เรียกร้องจากประกันคู่กรณี
4.ค่าขาดประโยชน์ จากการใช้รถ สามารถเรียกร้องได้จากประกันคู่กรณีครับ ถ้ามีเอกสารต่างๆประกอบ เช่นค่าเช่ารถ อื่นๆ
หรือหากไม่มี ทาง คปภ. เขามีเรทบังคับการชดเชยค่าขาดประโยชน์เป็นรายวันให้ครับ วันละเท่าไหร่ไม่แน่ใจ จำได้รางๆว่า รถส่วนบุคคลวันละ 400-500 รถรับจ้างสาธารณะวันละ 800 มั้งนะครับ
เอาแค่นี้ก่อนละกันครับ สงสัยอันไหนก็โพสไว้ หรือจะถามมาทางหลังไมค์ ก็ยินดีช่วยเหลือครับ
ป.ล. เดี๋ยวนี้ มีปัญหากับประกันภัย ไม่ต้องไปตั้งทนายฟ้องศาลแล้วครับ ผู้เสียหายสามารถร้องเรียนโดยตรงที่ คปภ. ได้เลย
แสดงความคิดเห็น
สอบถามเรื่องประกันรถยนต์ กรณีรถโดนชนเสียหายหนักมากค่ะ
1. รถเรามิราจป้ายแดง (ประกันชั้น 1) โดนชนท้ายอย่างแรงเสียหายหนัก ทั้งหน้าและหลัง สภาพเกินบรรยายค่ะ
2. คาดว่าคันที่ชน (ประกันชั้น 3) หลับใน เพราะเค้าบอกในที่เกิดเกตุว่าเค้าเงยหน้าขึ้นมาก็เจอท้ายรถเราเลย ซึ่งขณะนั้นเค้าน่าจะเหยียบมา 140 km/hr เห็นจะได้
3. ผ่านไปเดือนกว่าๆ ประกันของเราแจ้งว่าศูนย์ประเมินค่าซ่อมเกิน 70% ของทุนประกัน น่าจะเป็น Total Loss กำลังส่งพิจารณาอยู่
4. ช่วงระหว่างนี้เราไม่ได้ติดต่อใดๆ กับทางคู่กรณีเลยค่ะ เพราะยุ่งเรื่องอื่นอยู่
5. (ราคาเต็มรถ 549,000) (อุปกรณ์แต่งเพิ่มเติมมีใบเสร็จครบ 150,000) (ทุนประกัน 440,000)
6. รถเราไม่ได้เข้าโครงการรถคันแรกนะคะ
เรื่องมีทั้งหมดแค่นี้ รบกวนถามดังนี้ค่ะ
1. มีคนแนะนำว่า ให้เราไปติดต่อประกันคู่กรณีค่ะ ว่าประกันทางเราตีเป็น Total Loss แล้ว แต่ราคารถเรากับที่ตกแต่งเพิ่มเติมไปก็เกือบ 7 แสนแล้ว ยังไม่รวมค่าเช่ารถระหว่างไม่มีรถใช้อีก ซึ่งคู่กรณีเรานั้นเป็นรถใหญ่ โดยปกติประกันชั้น 3 ตน่าจะคุ้มครองแถว 1,000,000 อยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราเรียกร้อง 7 แสน มันก็ยังอยู่ในวงเงินประกัน ซึ่งถ้าทางประกันคู่กรณีตกลง ก็ให้เรามายกเลิกรับสิทธิ์จากบ.ประกันของเราซะ
ซึ่งเราสงสัยว่า กรณีนี้ทำได้จริงหรือ???
2. หรือเราจะรับทุนจากประกันของเรา 440,000 แล้วไปเรียกร้องค่าเช่ารถจากประกันคู่กรณี คิดสั้นๆ ก็สัก 3 เดือนกว่าจะจบเรื่อง ค่าเช่ารถวันละ 1,500 ก็เรียกร้องประมาณ 135,000 แล้วคิดซะว่าฟาดเคราะห์ส่วนที่ขาดทุนไปแสนกว่าบาทละกัน ยังพอทำใจได้ ซึ่งกรณีแบบนี้ทำได้มั๊ยคะ???
3. หากเราได้แต่ทุนประกัน 440,000 เลย โดยที่ไม่ไปเรียกร้องอะไรอีก ก็จะขาดทุนไปสองแสนกว่าบาท ทำใจไม่ได่ค่ะ
4. มีสิ่งอื่นใดแนะนำเชิญเลยค่ะ ไม่มีความรู้ด้านนี้เลย
ขอบคุณค่ะ