กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งมาเชียร์ฝ่ายไหนนะครับ เพราะ เรื่องราคาน้ำมันนั้นผมมองว่ามันใหญ่กว่าการเมือง
และขอออกตัวก่อนว่า ผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำมัน แต่จะใช้ข้อมูลจากที่มีการเปิดเผยในเว็บมาวิเคราะห์
เป้าหมายของกระทู้นี้ก็คือ การแลกเปลี่ยนความเห็นกันว่า ทำไมน้ำมันที่ขายในประเทศจึงมีราคาแพง
ข้อมูลเบื้องต้นนะครับ
ประเทศไทยมีการใช้น้ำมันสำเร็จรูป รวมๆ กัน ประมาณ ปีละ 4.5 หมื่นล้านลิตร และ เพิ่มขึ้นประมาณ 3%-4% ทุกปี
หรือ ทุกปีจะมีการใช้น้ำมันมากขึ้นประมาณ ปีละ 1-2 พันล้านลิตร
แบ่งเป็น
- ก๊าซเหลว LPG - 8,000 ล้านลิตร
- เบนซิน 95 - 40 ล้านลิตร
- เบนซิน 95 (โซฮอล์) - 2,000 ล้านลิตร
- เบนซิน 95 (E20+E85) - 230 ล้านลิตร
- เบนซิน 91 - 3,000 พันล้านลิตร
- เบนซิน 91(โซฮอล์) - 2,000 พันล้านลิตร
- ดีเซล 19,000 ล้านลิตร
และอื่นๆ เช่น น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรม
สิ่งที่ทำให้น้ำมันราคาแพงมีอะไรบ้าง
1. ต้นทุน น้ำมันดิบ + ค่าการกลั่น อันนี้แหละที่เป็นแดนสนธยา
ที่บอกว่าเป็นแดนสนธยา ก็เพราะ มันเข้าใจยาก มีสูตรคำนวณซับซ้อน
เพราะน้ำมันดิบ ต้องมากลั่น เวลากลั่นแล้วก็จะได้น้ำมันประเภทต่างๆ สัดส่วนก็ขึ้นกับแหล่งผลิตอีก
2. ภาษีที่เก็บเข้าคลัง พวก VAT ต่างๆ
การเก็บภาษี จะเก็บต่างกันในแต่ละประเภท โดยเฉลี่ยประมาณ 5 บาทต่อลิตร (2-10 บาท)
ดังนั้นรวมๆจะได้รัฐภาษีจาก น้ำมันประเภทประมาณปีละ 2.2 แสนล้านบาท
3. กองทุนน้ำมัน เป็นส่วนที่จะนำไปเก็บเพื่อใช้บริหารราคาน้ำมัน
ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้น้ำมันราคาสูงขึ้น หรือ ต่ำลง ซึ่งจะมีกรรมการคอยปรับเปลี่ยนตรงนี้
ช่วงนี้จะมีเงินเข้ากองทุนโดยเฉลี่ยแล้ว ประมาณ ลิตรละ 2 บาท (เฉลี่ยทุกประเภท)
ถ้าเก็บอัตรานี้ทั้งปี จะได้ประมาณ 7-8 หมื่นล้าน
4. ส่วนของผู้ขาย
โดยเฉลี่ยจะได้ ลิตรละประมาณ 2 บาท รายได้รวมของธุรกิจนี้ ก็ประมาณปีละ 8 หมื่นล้าน
ทำไมน้ำมันแพง รัฐบาลควบคุมอะไรได้บ้าง
ถ้าเราดูจากราคาน้ำมัน ส่วนแรกคือ ต้นทุน อันนี้รัฐบาลคุมไม่ได้ หรือ ไม่คุมผมก็ไม่รู้นะ
เพราะว่า ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนคุม ราคาต้นทุนน้ำมันได้ และ เป็นอะไรที่ค่อนข้างซับซ้อน
ส่วนต่อมาก็คือ ภาษีและกองทุน
ปกติแล้วเท่าที่ดูมา ทุกรัฐบาล จะพยายามไม่ไปแตะโครงสร้างภาษีน้ำมัน
ส่วนที่มีการปรับเปลี่ยน ควบคุมจะเป็น ส่วนของกองทุน
เพราะถ้าไปลดภาษี ก็จะทำให้ เงินเข้าคลังลดลง
เช่น ถ้าลดภาษีน้ำมันลง 1 บาท เงินจะหายไปทันที 4.5 หมื่นล้าน
หรือถ้าขึ้นภาษีอีกลิตรละ 1 บาท จะได้เงินเพิ่มทันที่ 4.5 หมื่นล้าน
ดังนั้นถ้าดูแนวโน้มแล้ว ภาษีไม่มีทางลด มีแต่จะเพิ่มขึ้น
เพราะ คนใช้น้ำมันส่วนมาก ใช้เติมรถ รถต้องใช้ถนน เงินที่ใช้สร้างถนน ก็ต้องเก็บมาจากคนใช้น้ำมัน
สิ่งที่ผมไม่ค่อยจะเข้าใจก็คือ ทำไมจริงๆแล้ว ผู้ที่ใช้ถนนเปลืองที่สุดก็คือ คนที่ใช้น้ำมันดีเซล
แต่รัฐเก็บภาษีน้ำมันดีเซลแค่ 2 บาท แต่เก็บ เบนซิน 9 บาท
ซึ่งถ้าเก็บภาษีดีเซลเพิ่มลิตรละ 1 บาท จะได้เงินภาษีเพิ่มขึ้น 19,000 ล้านบาท
ความเห็นผมนะ ถ้ามีการจัดการปรับโครงสร้างภาษีใหม่นะครับ
เก็บดีเซลเพิ่มอีก 1 บาท เป็น 3 บาท ให้ดีเซลราคา 31บาท/ลิตร
จะสามารถลดภาษีแกสโซฮอล์ ได้ 2 บาท จะทำให้ โซฮอล์ 91 ราคา 35 และ โซฮอล 95 ราคา 38
เก็บดีเซลเพิ่มอีก 2 บาท เป็น 4 บาท ให้ดีเซลราคา 32บาท/ลิตร
จะสามารถลดภาษีแกสโซฮอล์ ได้ 4 บาท จะทำให้ โซฮอล์ 91 ราคา 33 และ โซฮอล 95 ราคา 36
แต่เรื่องนี้จะไปคำนวณตรงๆ ก็คงยาก
เพราะ ถ้าปรับราคาน้ำมัน ปริมาณการใช้น้ำมัน แต่ละชนิดก็จะเปลี่ยนไป
เช่น ตอนนี้ คนใช้ ดีเซลมาก ก็เพราะ ดีเซลถูกกว่า
เรื่องราคาน้ำมัน ก็ไม่ได้ซับซ้อน แต่ ...
และขอออกตัวก่อนว่า ผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำมัน แต่จะใช้ข้อมูลจากที่มีการเปิดเผยในเว็บมาวิเคราะห์
เป้าหมายของกระทู้นี้ก็คือ การแลกเปลี่ยนความเห็นกันว่า ทำไมน้ำมันที่ขายในประเทศจึงมีราคาแพง
ข้อมูลเบื้องต้นนะครับ
ประเทศไทยมีการใช้น้ำมันสำเร็จรูป รวมๆ กัน ประมาณ ปีละ 4.5 หมื่นล้านลิตร และ เพิ่มขึ้นประมาณ 3%-4% ทุกปี
หรือ ทุกปีจะมีการใช้น้ำมันมากขึ้นประมาณ ปีละ 1-2 พันล้านลิตร
แบ่งเป็น
- ก๊าซเหลว LPG - 8,000 ล้านลิตร
- เบนซิน 95 - 40 ล้านลิตร
- เบนซิน 95 (โซฮอล์) - 2,000 ล้านลิตร
- เบนซิน 95 (E20+E85) - 230 ล้านลิตร
- เบนซิน 91 - 3,000 พันล้านลิตร
- เบนซิน 91(โซฮอล์) - 2,000 พันล้านลิตร
- ดีเซล 19,000 ล้านลิตร
และอื่นๆ เช่น น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรม
สิ่งที่ทำให้น้ำมันราคาแพงมีอะไรบ้าง
1. ต้นทุน น้ำมันดิบ + ค่าการกลั่น อันนี้แหละที่เป็นแดนสนธยา
ที่บอกว่าเป็นแดนสนธยา ก็เพราะ มันเข้าใจยาก มีสูตรคำนวณซับซ้อน
เพราะน้ำมันดิบ ต้องมากลั่น เวลากลั่นแล้วก็จะได้น้ำมันประเภทต่างๆ สัดส่วนก็ขึ้นกับแหล่งผลิตอีก
2. ภาษีที่เก็บเข้าคลัง พวก VAT ต่างๆ
การเก็บภาษี จะเก็บต่างกันในแต่ละประเภท โดยเฉลี่ยประมาณ 5 บาทต่อลิตร (2-10 บาท)
ดังนั้นรวมๆจะได้รัฐภาษีจาก น้ำมันประเภทประมาณปีละ 2.2 แสนล้านบาท
3. กองทุนน้ำมัน เป็นส่วนที่จะนำไปเก็บเพื่อใช้บริหารราคาน้ำมัน
ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้น้ำมันราคาสูงขึ้น หรือ ต่ำลง ซึ่งจะมีกรรมการคอยปรับเปลี่ยนตรงนี้
ช่วงนี้จะมีเงินเข้ากองทุนโดยเฉลี่ยแล้ว ประมาณ ลิตรละ 2 บาท (เฉลี่ยทุกประเภท)
ถ้าเก็บอัตรานี้ทั้งปี จะได้ประมาณ 7-8 หมื่นล้าน
4. ส่วนของผู้ขาย
โดยเฉลี่ยจะได้ ลิตรละประมาณ 2 บาท รายได้รวมของธุรกิจนี้ ก็ประมาณปีละ 8 หมื่นล้าน
ทำไมน้ำมันแพง รัฐบาลควบคุมอะไรได้บ้าง
ถ้าเราดูจากราคาน้ำมัน ส่วนแรกคือ ต้นทุน อันนี้รัฐบาลคุมไม่ได้ หรือ ไม่คุมผมก็ไม่รู้นะ
เพราะว่า ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนคุม ราคาต้นทุนน้ำมันได้ และ เป็นอะไรที่ค่อนข้างซับซ้อน
ส่วนต่อมาก็คือ ภาษีและกองทุน
ปกติแล้วเท่าที่ดูมา ทุกรัฐบาล จะพยายามไม่ไปแตะโครงสร้างภาษีน้ำมัน
ส่วนที่มีการปรับเปลี่ยน ควบคุมจะเป็น ส่วนของกองทุน
เพราะถ้าไปลดภาษี ก็จะทำให้ เงินเข้าคลังลดลง
เช่น ถ้าลดภาษีน้ำมันลง 1 บาท เงินจะหายไปทันที 4.5 หมื่นล้าน
หรือถ้าขึ้นภาษีอีกลิตรละ 1 บาท จะได้เงินเพิ่มทันที่ 4.5 หมื่นล้าน
ดังนั้นถ้าดูแนวโน้มแล้ว ภาษีไม่มีทางลด มีแต่จะเพิ่มขึ้น
เพราะ คนใช้น้ำมันส่วนมาก ใช้เติมรถ รถต้องใช้ถนน เงินที่ใช้สร้างถนน ก็ต้องเก็บมาจากคนใช้น้ำมัน
สิ่งที่ผมไม่ค่อยจะเข้าใจก็คือ ทำไมจริงๆแล้ว ผู้ที่ใช้ถนนเปลืองที่สุดก็คือ คนที่ใช้น้ำมันดีเซล
แต่รัฐเก็บภาษีน้ำมันดีเซลแค่ 2 บาท แต่เก็บ เบนซิน 9 บาท
ซึ่งถ้าเก็บภาษีดีเซลเพิ่มลิตรละ 1 บาท จะได้เงินภาษีเพิ่มขึ้น 19,000 ล้านบาท
ความเห็นผมนะ ถ้ามีการจัดการปรับโครงสร้างภาษีใหม่นะครับ
เก็บดีเซลเพิ่มอีก 1 บาท เป็น 3 บาท ให้ดีเซลราคา 31บาท/ลิตร
จะสามารถลดภาษีแกสโซฮอล์ ได้ 2 บาท จะทำให้ โซฮอล์ 91 ราคา 35 และ โซฮอล 95 ราคา 38
เก็บดีเซลเพิ่มอีก 2 บาท เป็น 4 บาท ให้ดีเซลราคา 32บาท/ลิตร
จะสามารถลดภาษีแกสโซฮอล์ ได้ 4 บาท จะทำให้ โซฮอล์ 91 ราคา 33 และ โซฮอล 95 ราคา 36
แต่เรื่องนี้จะไปคำนวณตรงๆ ก็คงยาก
เพราะ ถ้าปรับราคาน้ำมัน ปริมาณการใช้น้ำมัน แต่ละชนิดก็จะเปลี่ยนไป
เช่น ตอนนี้ คนใช้ ดีเซลมาก ก็เพราะ ดีเซลถูกกว่า