เมื่อ 17 มี.ค. มีรายงานว่าสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ส่งหนังสือเตือนและชี้แจงมายังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า ทีมชาติไทย จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ชาริล ชัปปุยส์ กองกลางลูกครึ่งไทย-สวิส เนื่องจากเคยผ่านการเล่นเยาวชนทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ รุ่นอายุ 17 ปีชิงแชมป์โลกมาแล้ว อีกทั้งไม่มีเอกสารยืนยันว่าชาริล มีเชื้อสายเป็นคนไทย ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่สมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่าเอเอฟซี ได้ส่งหนังสือเตือนและยืนยันว่าชาริล หมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอน และสมาคมฟุตบอลฯ ได้ส่งเอกสารกลับไปยังเอเอฟซี ว่าชาริล มีเชื้อสายเป็นคนไทย ซึ่งในใบสูติบัตรระบุว่ามารดาเป็นคนไทย ทว่าเกิดที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้เอเอฟซี ไม่สามารถรับรองได้
เรื่องดังกล่าว “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยยอมรับว่าตนทราบมาโดยตลอดและไม่ใช่ความผิดพลาดแต่อย่างใด สาเหตุที่เรียกชัปปุยส์ เพราะยังหวังว่า ฟีฟ่า และ เอเอฟซี จะกลับคำตัดสิน ซึ่งตนเองจะพยายามติดต่อเพื่อนที่ทำงานอยู่ใน ฟีฟ่า เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดของนักเตะยืนยันว่า ชัปปุยส์ มีเชื้อสายเป็นคนไทยจริง และได้ดำเนินการขอบัตรประชาชนประจำตัวคนไทยให้กับนักเตะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับใบสูติบัตร และมีเอกสารหลักฐานพร้อมพิสูจน์ ซึ่งในรายการเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก และไทยพรีเมียร์ลีก ชัปปุยส์ ก็ใช้สิทธิ์ลงเล่นในโควตานักเตะไทย ไม่ใช่ต่างชาติแต่อย่างใด
ด้าน “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่าสมาคมจะพยายามทำเรื่องขอคำชี้แจงไปยังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ต่อไป เพราะคิดว่าเหตุผลดังกล่าวไม่น่าเพียงพอต่อการตัดสิทธิ์ของชัปปุยส์ออกจากการรับใช้ชาติในครั้งนี้ แต่คงต้องรีบดำเนินการให้ทันก่อนวันแข่งขันคือวันศุกร์หน้าแม้ว่าจะยากก็ตามที เนื่องจากกรณีใดๆ ก็ตามที่มีเอกสารโต้แย้งหรือปฏิเสธจากทางเอเอฟซีจะมีบทบัญญัติและเหตุผลที่ชัดเจน
ทว่าความพยายามของสมาคมฟุตบอลฯ ไม่น่าจะเป็นผล เมื่อระเบียบของการแข่งขันเอเชี่ยน คัพ 2015 รอบคัดเลือก ในส่วนภาคผนวกที่ 4 ข้อ 2 เรื่องการลงทะเบียนนักเตะโอนสัญชาติและนักเตะถือ 2 สัญชาติซึ่งระบุว่า นักเตะรายดังกล่าวจะต้องไม่เคยเล่นให้กับประเทศอื่นไม่ว่ารายการใดๆ ในทุกระดับที่ถูกรับรองโดยฟีฟ่า ซึ่งจะทำให้ชัปปุยส์หมดสิทธิ์เล่นให้กับทีมชาติไทยในรายการนี้ตลอดทัวร์นาเมนต์ทันที
อย่างไรก็ตามในส่วนของเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก และ โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ไม่ถือว่าชัปปุยส์ เป็นนักเตะต่างชาติ เนื่องจากได้ถือสัญชาติไทยรวมอยู่ด้วย
เครดิต จาก หนังสือพิมพ์ ข่าวสด
เอเอฟซีห้าม‘ชัปปุยส์’เล่นเอเชี่ยนคัพ 2015
เรื่องดังกล่าว “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยยอมรับว่าตนทราบมาโดยตลอดและไม่ใช่ความผิดพลาดแต่อย่างใด สาเหตุที่เรียกชัปปุยส์ เพราะยังหวังว่า ฟีฟ่า และ เอเอฟซี จะกลับคำตัดสิน ซึ่งตนเองจะพยายามติดต่อเพื่อนที่ทำงานอยู่ใน ฟีฟ่า เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดของนักเตะยืนยันว่า ชัปปุยส์ มีเชื้อสายเป็นคนไทยจริง และได้ดำเนินการขอบัตรประชาชนประจำตัวคนไทยให้กับนักเตะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับใบสูติบัตร และมีเอกสารหลักฐานพร้อมพิสูจน์ ซึ่งในรายการเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก และไทยพรีเมียร์ลีก ชัปปุยส์ ก็ใช้สิทธิ์ลงเล่นในโควตานักเตะไทย ไม่ใช่ต่างชาติแต่อย่างใด
ด้าน “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่าสมาคมจะพยายามทำเรื่องขอคำชี้แจงไปยังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ต่อไป เพราะคิดว่าเหตุผลดังกล่าวไม่น่าเพียงพอต่อการตัดสิทธิ์ของชัปปุยส์ออกจากการรับใช้ชาติในครั้งนี้ แต่คงต้องรีบดำเนินการให้ทันก่อนวันแข่งขันคือวันศุกร์หน้าแม้ว่าจะยากก็ตามที เนื่องจากกรณีใดๆ ก็ตามที่มีเอกสารโต้แย้งหรือปฏิเสธจากทางเอเอฟซีจะมีบทบัญญัติและเหตุผลที่ชัดเจน
ทว่าความพยายามของสมาคมฟุตบอลฯ ไม่น่าจะเป็นผล เมื่อระเบียบของการแข่งขันเอเชี่ยน คัพ 2015 รอบคัดเลือก ในส่วนภาคผนวกที่ 4 ข้อ 2 เรื่องการลงทะเบียนนักเตะโอนสัญชาติและนักเตะถือ 2 สัญชาติซึ่งระบุว่า นักเตะรายดังกล่าวจะต้องไม่เคยเล่นให้กับประเทศอื่นไม่ว่ารายการใดๆ ในทุกระดับที่ถูกรับรองโดยฟีฟ่า ซึ่งจะทำให้ชัปปุยส์หมดสิทธิ์เล่นให้กับทีมชาติไทยในรายการนี้ตลอดทัวร์นาเมนต์ทันที
อย่างไรก็ตามในส่วนของเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก และ โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ไม่ถือว่าชัปปุยส์ เป็นนักเตะต่างชาติ เนื่องจากได้ถือสัญชาติไทยรวมอยู่ด้วย
เครดิต จาก หนังสือพิมพ์ ข่าวสด