ค้านทุกเรื่อง
พรุ่งนี้ (19 มี.ค.) กระทรวงการคลัง จะเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทให้ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี ลงมติเห็นชอบเป็นอันดับแรก
หลักการคือให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินไม่เกิน 2.2 ล้านล้านบาทเพื่อลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ (ระยะ 7 ปี) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอาเซียน
ขั้นต่อไป (27 มี.ค.) รัฐบาลจะเสนอร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทให้ที่ประชุมสภาฯพิจารณาวาระแรก
คาดว่าที่ประชุมสภาฯจะโหวตผ่านชัวร์ป้าด
เพราะ พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทจะนำไปลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ
แม้เป็นโครงการลงทุนที่ใช้เงินเยอะแต่ได้ประโยชน์คุ้มค่า
ดีกว่าเอาไปใช้ในโครงการประชานิยมขี้หมูราขี้หมาแห้ง
แต่ถ้าพลิกล็อกร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ถูกโหวตคว่ำกลางสภาฯ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็พังพาบพับเพียบแต้
นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องกลับบ้านไปเลี้ยงลูก
งานนี้ คงดูไม่จืดละคุณพี่
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าการลงทุนฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานประเทศเป็นวาระเร่งด่วน และมีความสำคัญอย่างยิ่ง
เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาเกิดวิกฤติการเมืองต่อเนื่อง ทำให้การพัฒนาประเทศหยุดชะงัก ส่งผลให้ขีดความสามารถการแข่งขันของไทยถดถอยลงไปทุกด้าน
การลงทุน “อัพเกรด” ประเทศครั้งใหญ่จึงจำเป็นต้องเดินหน้า...รอช้าไม่ได้!!
อย่างไรก็ตาม...ถึงแม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากในสภาฯ แต่อย่าเพิ่งมั่นใจว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทจะคลอดออกมาใช้ได้ง่ายๆ
เพราะฝ่ายค้านชุดนี้ เป็นประเภทค้านทุกเรื่อง
ล่าสุด ฝ่ายค้านได้เตรียมยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ พ.ร.บ.เงินกู้ของรัฐบาลว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่
หวังใช้บริการศาลรัฐธรรมนูญ “เตะสกัด” ไม่ให้รัฐบาลออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทลงทุนพัฒนาโครงการพื้นฐานประเทศ
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าฝ่ายค้านมุ่งเล่นเกมเจาะยางรัฐบาลโดยมองข้ามผลประโยชน์ของประเทศ
ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ใช้วิธีมัดมือชก ออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงินก็ยังพอมีเหตุผลที่ฝ่ายค้านจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความได้
แต่รัฐบาลเลือกใช้ช่องทางปกติ คือเสนอ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินต่อสภาฯเท่ากับเปิดโอกาสฝ่ายค้านร่วมตรวจสอบโครงการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทอย่างเต็มที่
จึงไม่มีเหตุผลที่ฝ่ายค้านต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความร่าง พ.ร.บ.ของรัฐบาลให้วุ่นวายขายปลาช่อน
เพียงแค่ต้องการยื้อร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ไม่ให้คลอดออกมาง่ายๆ
“แม่ลูกจันทร์” ผิดหวังบทบาทผู้นำฝ่ายค้าน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ออกมาค้านการออก พ.ร.บ.เงินกู้แบบแผ่นเสียงตกร่อง
อ้างว่าไม่ได้ค้านการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ แต่ค้านที่รัฐบาลออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพราะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่า “อภิสิทธิ์” ยิ่งพูดยิ่งพลาด
เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์นั่นแหละสร้างตัวอย่างแย่ๆเอาไว้บานแห้ว
“อภิสิทธิ์” ออก พ.ร.ก.กู้เงินไทยเข้มแข็ง โดยไม่เสนอเป็น พ.ร.บ.ให้สภาฯพิจารณาอย่างรอบคอบ
ถ้าเอาเงินกู้ไทยเข้มแข็งของอภิสิทธิ์กับเงินกู้ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานประเทศของยิ่งลักษณ์ มาขึ้นตาชั่งเทียบกันบาทต่อบาท เงินกู้ไทยเข้มแข็งเกิดประโยชน์ต่อประเทศน้อยกว่าทุกด้าน
แถมยังมีปัญหาทุจริตคอรัปชันบานทะโร่
ก่อนจะชี้หน้าว่าคนอื่น มองตัวเองซักหน่อยเป็นไร.
"แม่ลูกจันทร์"
ไทยรัฐออนไลน์
โดย แม่ลูกจันทร์
18 มีนาคม 2556, 05:01 น.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แม่ลูกจันทร์ เป็นคอลัมนิสต์ อาวุโส ที่เขียนข่าวการเมืองมานานหลายสิบปี เป็นคนที่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า
ไม่เลือกข้าง ไม่เชียร์ใครเอาเป็นเอาตาย คนไทนทำดี ก็ชม คนไหนทำไม่ดี ก็ติเตียนแบบเบา ๆ ถ้าจำไม่ผิดเป็นข้าราชการระดับสูงมาก่อนที่จะใช้ชีวิตบั้นปลาย เขียนคอลัมน์ สอนคนให้เป็นคน
บอกตรง ๆ ว่า ผมเห็นท่าทีฝ่ายแค้น กับการ อัพเกรดประเทศไทยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ แล้ว
ผมอ่อนใจ ละเหี่ยใจ เบื่อ เอือม
และเอือมมาก ๆ กับ เวรกรรมของประเทศนี้
ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า ผมเคยทำงาน(เป็นไม้เป็นมือ เป็น เบ๊) ให้กับ รัฐบาลทั้งสองฝั่ง..มาแล้ว อยากบอกว่า มันต่างกัน ต่างกัน และต่างกันมาก ผมเห็นมาตั้งแต่ นายสุเทพ เป็น รชค. (รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม) ด้วยซ้ำ...
อย่าให้ผมเซดเลยว่า....ยุคนั้นเขางาบงบประมาณกันขนาดไหน
ผมไม่รู้ว่า โครงการอัพเกรดประเทศไทย จะต้องถ่างตารออีกเท่าไหร่
ผมไม่รู้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไปตั้งเวที ร้องห่มร้องไห้ ค้านประเทศไทย ในการไม่ต้อง ไม่ควร จะปรับตัวเองครั้งใหญ่ ที่หน้าลานเบอร์ดเทรดเซ็นเตอร์อีกหรือไม่
ประเทศไทย จะเป็นอย่างไร หากประชาธิปัตย์ จับพลัด จับผลู ขึ้นมาได้บริหารอีก (บอกตรง ๆ ไม่อยากคิดเพราะกลัวความ "สยอง")
หากจะเกิดอะไรขึ้นกับ ยิ่งลักษณ์ ก็ถือว่าเป็นกรรมของประเทศไทย ที่ชาติกำลังจะลุกขึ้นมาวิ่งแข่งใหม่ได้ แต่ต้องมีอันเป็นไป
ผมคงไม่ได้เห็น นายกรัฐมนตรี ที่ลุกขึ้นมาจี้งานด้วยตัวเองบ ...ในรายละเอียดของโครงการที่เป็นประโยชน์ ของชาติ
ผมคงไม่ได้เห็นนายก ขวัญใจคนเหนือ อีสาน ทำงานให้กับคนใต้แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยกตัวอย่าง พัฒนาด่านสะเดาแบบครบวงจร ทวินซิตี้ กระบี่/ภูเก็ต และการป้องกันไม่ให้ แหล่งท่องเที่ยว ระดับโลกอย่างสมุย/พงัน มีข่าวไฟดับอีก
นึกย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน
ผมเป็นหัวหน้าชุด พาลูกน้อง 5 ชีวิต ล่องใต้ เพื่อสำรวจโครงการ XXXXXXXXXXX ของกระทรวง YYYYYYYYYY เดินทางด้วยรถตู้ VIP
จากหัวหิน ยันสุราษฏร์ธานี
ผมสะท้อนใจกับคำพูดของ คนขับรถของผมที่แกตอบมาซื่อ ๆ ว่า
เดี๋ยวเลยหัวหิน ปราณบุรี เข้าชุมพร เมื่อไหร่ พี่ก็รู้เองแหละครับ
ในรถมีคำถามว่าทำไม
คนขับตอบมาว่า ถนนมันแย่ (ขรุขระ) จนรู้สึกได้เลย.....
แล้วก็เป็นอย่างที่คนขับมันพูดจริง ๆ
เอาเถอะ ก็เขารักของเขา พรรคของเขา คนของเขา
ก็อยู่กันแบบนั้นไปผมไม่ว่าอะไรหรอก
แต่สำหรับ การติดอาวุธให้ประเทศมีศักยภาพเนี่ย
มันจะละเว้นสักเรื่อง ให้ประเทศนี้ไม่ได้จริง ๆ หรือ
อภิสิทธิ ค้านสุดตัวงี้ สุริยะใส ผู้มีผลงานอันยิ่งใหญ่เป็นที่ประจักษ์ แก่ชาติบ้านเมือง ด้วยการยึดสนามบิน ออกมายักไหล่ ขวางและส่งให้ ตลก ช่วยขวางงี้
เฮ้อออออออออออออ......เมื่อไหร่แผ่นดินไทยมันจะสูงขึ้นกว่านี้ซักที ผับผ่าเหอะ
ผมด่าคุณอภิสิทธิมาเยอะแล้ว กระทู้นี้ ผมขอบ่นดัง ๆ ให้ทุกสีทุกฝ่าย ทุกคนในประเทศนี้ฟังก็แล้วกันนะ
พรุ่งนี้ (19 มี.ค.) กระทรวงการคลัง จะเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทให้ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี ลงมติเห็นชอบเป็นอันดับแรก
หลักการคือให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินไม่เกิน 2.2 ล้านล้านบาทเพื่อลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ (ระยะ 7 ปี) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอาเซียน
ขั้นต่อไป (27 มี.ค.) รัฐบาลจะเสนอร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทให้ที่ประชุมสภาฯพิจารณาวาระแรก
คาดว่าที่ประชุมสภาฯจะโหวตผ่านชัวร์ป้าด
เพราะ พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทจะนำไปลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ
แม้เป็นโครงการลงทุนที่ใช้เงินเยอะแต่ได้ประโยชน์คุ้มค่า
ดีกว่าเอาไปใช้ในโครงการประชานิยมขี้หมูราขี้หมาแห้ง
แต่ถ้าพลิกล็อกร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ถูกโหวตคว่ำกลางสภาฯ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็พังพาบพับเพียบแต้
นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องกลับบ้านไปเลี้ยงลูก
งานนี้ คงดูไม่จืดละคุณพี่
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าการลงทุนฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานประเทศเป็นวาระเร่งด่วน และมีความสำคัญอย่างยิ่ง
เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาเกิดวิกฤติการเมืองต่อเนื่อง ทำให้การพัฒนาประเทศหยุดชะงัก ส่งผลให้ขีดความสามารถการแข่งขันของไทยถดถอยลงไปทุกด้าน
การลงทุน “อัพเกรด” ประเทศครั้งใหญ่จึงจำเป็นต้องเดินหน้า...รอช้าไม่ได้!!
อย่างไรก็ตาม...ถึงแม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากในสภาฯ แต่อย่าเพิ่งมั่นใจว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทจะคลอดออกมาใช้ได้ง่ายๆ
เพราะฝ่ายค้านชุดนี้ เป็นประเภทค้านทุกเรื่อง
ล่าสุด ฝ่ายค้านได้เตรียมยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ พ.ร.บ.เงินกู้ของรัฐบาลว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่
หวังใช้บริการศาลรัฐธรรมนูญ “เตะสกัด” ไม่ให้รัฐบาลออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทลงทุนพัฒนาโครงการพื้นฐานประเทศ
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าฝ่ายค้านมุ่งเล่นเกมเจาะยางรัฐบาลโดยมองข้ามผลประโยชน์ของประเทศ
ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ใช้วิธีมัดมือชก ออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงินก็ยังพอมีเหตุผลที่ฝ่ายค้านจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความได้
แต่รัฐบาลเลือกใช้ช่องทางปกติ คือเสนอ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินต่อสภาฯเท่ากับเปิดโอกาสฝ่ายค้านร่วมตรวจสอบโครงการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทอย่างเต็มที่
จึงไม่มีเหตุผลที่ฝ่ายค้านต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความร่าง พ.ร.บ.ของรัฐบาลให้วุ่นวายขายปลาช่อน
เพียงแค่ต้องการยื้อร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ไม่ให้คลอดออกมาง่ายๆ
“แม่ลูกจันทร์” ผิดหวังบทบาทผู้นำฝ่ายค้าน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ออกมาค้านการออก พ.ร.บ.เงินกู้แบบแผ่นเสียงตกร่อง
อ้างว่าไม่ได้ค้านการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ แต่ค้านที่รัฐบาลออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพราะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่า “อภิสิทธิ์” ยิ่งพูดยิ่งพลาด
เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์นั่นแหละสร้างตัวอย่างแย่ๆเอาไว้บานแห้ว
“อภิสิทธิ์” ออก พ.ร.ก.กู้เงินไทยเข้มแข็ง โดยไม่เสนอเป็น พ.ร.บ.ให้สภาฯพิจารณาอย่างรอบคอบ
ถ้าเอาเงินกู้ไทยเข้มแข็งของอภิสิทธิ์กับเงินกู้ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานประเทศของยิ่งลักษณ์ มาขึ้นตาชั่งเทียบกันบาทต่อบาท เงินกู้ไทยเข้มแข็งเกิดประโยชน์ต่อประเทศน้อยกว่าทุกด้าน
แถมยังมีปัญหาทุจริตคอรัปชันบานทะโร่
ก่อนจะชี้หน้าว่าคนอื่น มองตัวเองซักหน่อยเป็นไร.
"แม่ลูกจันทร์"
ไทยรัฐออนไลน์
โดย แม่ลูกจันทร์
18 มีนาคม 2556, 05:01 น.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แม่ลูกจันทร์ เป็นคอลัมนิสต์ อาวุโส ที่เขียนข่าวการเมืองมานานหลายสิบปี เป็นคนที่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า
ไม่เลือกข้าง ไม่เชียร์ใครเอาเป็นเอาตาย คนไทนทำดี ก็ชม คนไหนทำไม่ดี ก็ติเตียนแบบเบา ๆ ถ้าจำไม่ผิดเป็นข้าราชการระดับสูงมาก่อนที่จะใช้ชีวิตบั้นปลาย เขียนคอลัมน์ สอนคนให้เป็นคน
บอกตรง ๆ ว่า ผมเห็นท่าทีฝ่ายแค้น กับการ อัพเกรดประเทศไทยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ แล้ว
ผมอ่อนใจ ละเหี่ยใจ เบื่อ เอือม
และเอือมมาก ๆ กับ เวรกรรมของประเทศนี้
ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า ผมเคยทำงาน(เป็นไม้เป็นมือ เป็น เบ๊) ให้กับ รัฐบาลทั้งสองฝั่ง..มาแล้ว อยากบอกว่า มันต่างกัน ต่างกัน และต่างกันมาก ผมเห็นมาตั้งแต่ นายสุเทพ เป็น รชค. (รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม) ด้วยซ้ำ...
อย่าให้ผมเซดเลยว่า....ยุคนั้นเขางาบงบประมาณกันขนาดไหน
ผมไม่รู้ว่า โครงการอัพเกรดประเทศไทย จะต้องถ่างตารออีกเท่าไหร่
ผมไม่รู้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไปตั้งเวที ร้องห่มร้องไห้ ค้านประเทศไทย ในการไม่ต้อง ไม่ควร จะปรับตัวเองครั้งใหญ่ ที่หน้าลานเบอร์ดเทรดเซ็นเตอร์อีกหรือไม่
ประเทศไทย จะเป็นอย่างไร หากประชาธิปัตย์ จับพลัด จับผลู ขึ้นมาได้บริหารอีก (บอกตรง ๆ ไม่อยากคิดเพราะกลัวความ "สยอง")
หากจะเกิดอะไรขึ้นกับ ยิ่งลักษณ์ ก็ถือว่าเป็นกรรมของประเทศไทย ที่ชาติกำลังจะลุกขึ้นมาวิ่งแข่งใหม่ได้ แต่ต้องมีอันเป็นไป
ผมคงไม่ได้เห็น นายกรัฐมนตรี ที่ลุกขึ้นมาจี้งานด้วยตัวเองบ ...ในรายละเอียดของโครงการที่เป็นประโยชน์ ของชาติ
ผมคงไม่ได้เห็นนายก ขวัญใจคนเหนือ อีสาน ทำงานให้กับคนใต้แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยกตัวอย่าง พัฒนาด่านสะเดาแบบครบวงจร ทวินซิตี้ กระบี่/ภูเก็ต และการป้องกันไม่ให้ แหล่งท่องเที่ยว ระดับโลกอย่างสมุย/พงัน มีข่าวไฟดับอีก
นึกย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน
ผมเป็นหัวหน้าชุด พาลูกน้อง 5 ชีวิต ล่องใต้ เพื่อสำรวจโครงการ XXXXXXXXXXX ของกระทรวง YYYYYYYYYY เดินทางด้วยรถตู้ VIP
จากหัวหิน ยันสุราษฏร์ธานี
ผมสะท้อนใจกับคำพูดของ คนขับรถของผมที่แกตอบมาซื่อ ๆ ว่า
เดี๋ยวเลยหัวหิน ปราณบุรี เข้าชุมพร เมื่อไหร่ พี่ก็รู้เองแหละครับ
ในรถมีคำถามว่าทำไม
คนขับตอบมาว่า ถนนมันแย่ (ขรุขระ) จนรู้สึกได้เลย.....
แล้วก็เป็นอย่างที่คนขับมันพูดจริง ๆ
เอาเถอะ ก็เขารักของเขา พรรคของเขา คนของเขา
ก็อยู่กันแบบนั้นไปผมไม่ว่าอะไรหรอก
แต่สำหรับ การติดอาวุธให้ประเทศมีศักยภาพเนี่ย
มันจะละเว้นสักเรื่อง ให้ประเทศนี้ไม่ได้จริง ๆ หรือ
อภิสิทธิ ค้านสุดตัวงี้ สุริยะใส ผู้มีผลงานอันยิ่งใหญ่เป็นที่ประจักษ์ แก่ชาติบ้านเมือง ด้วยการยึดสนามบิน ออกมายักไหล่ ขวางและส่งให้ ตลก ช่วยขวางงี้
เฮ้อออออออออออออ......เมื่อไหร่แผ่นดินไทยมันจะสูงขึ้นกว่านี้ซักที ผับผ่าเหอะ