สวัสดีครับทุกท่าน
ก่อนอื่นผมต้องขออนุญาติยืมใช้ user ของพี่สาวผม เพราะผมยังไม่มี user นะครับ
ผมมีเรื่องอยากเรียนปรึกษาดังนี้
ผมเป็นผู้รับเหมา ได้รับการว่าจ้างให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารโกดัง 1 หลัง มูลค่ารวมประมาณ 3.5 ล้านบาท
ซึ่งในสัญญาว่าจ้าง ระบุระยะเวลาในการทำงาน 90 วัน แต่ระหว่างที่ทำก็พบอุปสรรค์ต่างๆ ดังนี้
1. ระบบระบายน้ำที่โรงงานลูกค้าไม่ดี ทำให้เวลาฝนตกแล้วน้ำท่วมขังสูงและเป็นเวลานาน
2. การจ่ายเงินงวดงานที่ล่าช้า (ในสัญญาระบุภายใน 10วันนับจากวันวางบิล แต่ชำระจริง กว่า30วัน)
3. การย้ายสายเคเบิ้ลของโรงงานลูกค้าที่พาดผ่านมายังหน่วยงานก่อสร้าง ซึ่งหากไม่ย้าย จะทำการติดตั้งโครงหลังคาเหล็กไม่ได้ ซึ่งกว่าลูกค้าจะประสานงานภายใน จนช่างมาเลื่อนก็ใช้เวลาไปเกือบ 20วัน
ซึ่งส่งผลให้การส่งมอบงานล่าช้าออกไปประมาณ 45วัน แต่ทุกครั้งที่จะมีการขอขยายเวลาปฏิบัติงาน ทางผมมีการทำหนังสือแจ้งและชีแจงอย่างเป็นทางการ (เอกสาร + แถลงด้วยวาจาในที่ประชุม)
แต่พองานเสร็จ ผมส่งมอบงาน และ ส่งเอกสารส่งงาน+วางบิล
ลูกค้าแจ้งว่าทางเจ้านาย(เจ้าของโรงงาน) แจ้งว่าทางผมดำเนินการก่อสร้างและส่งงานล่าช้า ซึ่งผมต้องไปก่อสร้างหรือติดตั้งอะไรก็ได้เพิ่มเติมที่นอกเหนือจากที่ตกลงไว้ในสัญญาและ BOQ โดยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000บาท ซึ่งหากไม่ทำทางลูกค้าจะไม่จ่ายยอดเงินงวดสุดท้ายประมาณ 360,000 บาท
ซึ่งทางผมไม่ใช่ไม่อยากทำให้ ไม่ใช่ว่าอยากมีปัญหา แต่ตลอดเวลาที่ทำงานประสพปัญหาขาดทุนมาตลอดสำหรับโครงการนี้ แต่ก็จำต้องสร้างให้เสร็จเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงของบริษัทผม และ สาเหตุของความล่าช้าก็ไม่ได้เกิดจากทางผมเลย
ซึ่ง ณ ตอนนี้ลูกค้าก็เงียบๆไป โทรไปสอบถามก็ได้รับคำตอบว่ายังหาข้อสรุปไม่ได้...
แล้วตอนนี้ปรากฎว่าจะให้ผมทำการก่อสร้างเพิ่ม (แต่ไม่จ่ายเพิ่ม) โดยมีมูลค่าที่เพิ่มมาประมาณ 100,000 บาท
ดังนั้นจึงอยากเรียนถามผู้รู้ว่า ทางผมควรทำอย่างไรดี ซึ่งหากลูกค้าไม่ยอมจ่ายก้อนสุดท้ายจริงๆ ทางผมจะสามารถเรียกร้อง/ฟ้องร้องอะไรได้หรือไม่ครับ
ขอความกรุณาชี้ทางสว่างให้ผมด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
ปล. โครงการนี้ผมสร้างอย่างถูกต้องตามสเปกและตามแบบก่อสร้างที่มีลายเซ็นต์ลูกค้า (เป็น MD ของโรงงาน) และลูกค้าจะมีคอนเซ้าท์คอยตรวจสอบตลอด
เมื่อเราทำงานเสร็จสมบูรณ์ตามที่ตกลงว่าจ้าง แต่ลูกค้าหาเรื่องดึงเงินงวดสุดท้าย
ก่อนอื่นผมต้องขออนุญาติยืมใช้ user ของพี่สาวผม เพราะผมยังไม่มี user นะครับ
ผมมีเรื่องอยากเรียนปรึกษาดังนี้
ผมเป็นผู้รับเหมา ได้รับการว่าจ้างให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารโกดัง 1 หลัง มูลค่ารวมประมาณ 3.5 ล้านบาท
ซึ่งในสัญญาว่าจ้าง ระบุระยะเวลาในการทำงาน 90 วัน แต่ระหว่างที่ทำก็พบอุปสรรค์ต่างๆ ดังนี้
1. ระบบระบายน้ำที่โรงงานลูกค้าไม่ดี ทำให้เวลาฝนตกแล้วน้ำท่วมขังสูงและเป็นเวลานาน
2. การจ่ายเงินงวดงานที่ล่าช้า (ในสัญญาระบุภายใน 10วันนับจากวันวางบิล แต่ชำระจริง กว่า30วัน)
3. การย้ายสายเคเบิ้ลของโรงงานลูกค้าที่พาดผ่านมายังหน่วยงานก่อสร้าง ซึ่งหากไม่ย้าย จะทำการติดตั้งโครงหลังคาเหล็กไม่ได้ ซึ่งกว่าลูกค้าจะประสานงานภายใน จนช่างมาเลื่อนก็ใช้เวลาไปเกือบ 20วัน
ซึ่งส่งผลให้การส่งมอบงานล่าช้าออกไปประมาณ 45วัน แต่ทุกครั้งที่จะมีการขอขยายเวลาปฏิบัติงาน ทางผมมีการทำหนังสือแจ้งและชีแจงอย่างเป็นทางการ (เอกสาร + แถลงด้วยวาจาในที่ประชุม)
แต่พองานเสร็จ ผมส่งมอบงาน และ ส่งเอกสารส่งงาน+วางบิล
ลูกค้าแจ้งว่าทางเจ้านาย(เจ้าของโรงงาน) แจ้งว่าทางผมดำเนินการก่อสร้างและส่งงานล่าช้า ซึ่งผมต้องไปก่อสร้างหรือติดตั้งอะไรก็ได้เพิ่มเติมที่นอกเหนือจากที่ตกลงไว้ในสัญญาและ BOQ โดยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000บาท ซึ่งหากไม่ทำทางลูกค้าจะไม่จ่ายยอดเงินงวดสุดท้ายประมาณ 360,000 บาท
ซึ่งทางผมไม่ใช่ไม่อยากทำให้ ไม่ใช่ว่าอยากมีปัญหา แต่ตลอดเวลาที่ทำงานประสพปัญหาขาดทุนมาตลอดสำหรับโครงการนี้ แต่ก็จำต้องสร้างให้เสร็จเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงของบริษัทผม และ สาเหตุของความล่าช้าก็ไม่ได้เกิดจากทางผมเลย
ซึ่ง ณ ตอนนี้ลูกค้าก็เงียบๆไป โทรไปสอบถามก็ได้รับคำตอบว่ายังหาข้อสรุปไม่ได้...
แล้วตอนนี้ปรากฎว่าจะให้ผมทำการก่อสร้างเพิ่ม (แต่ไม่จ่ายเพิ่ม) โดยมีมูลค่าที่เพิ่มมาประมาณ 100,000 บาท
ดังนั้นจึงอยากเรียนถามผู้รู้ว่า ทางผมควรทำอย่างไรดี ซึ่งหากลูกค้าไม่ยอมจ่ายก้อนสุดท้ายจริงๆ ทางผมจะสามารถเรียกร้อง/ฟ้องร้องอะไรได้หรือไม่ครับ
ขอความกรุณาชี้ทางสว่างให้ผมด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
ปล. โครงการนี้ผมสร้างอย่างถูกต้องตามสเปกและตามแบบก่อสร้างที่มีลายเซ็นต์ลูกค้า (เป็น MD ของโรงงาน) และลูกค้าจะมีคอนเซ้าท์คอยตรวจสอบตลอด