เจ๊สด...กรุณาฟังผมสักนิด

ตามคําให้สัมภาษณ์....การที่เจ๊จะมาอ้างเงื่อนเวลา 30 วัน รับรองไปก่อน( เพื่อขอเวลาสืบสวน สอบสวน )
ถ้าหากผิดจริงก็ค่อยสอยกันทีหลัง หลักคิดอันนี้ หากนํามาใช้กับกาเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
จริงอยู่ แม้จะไม่ขัดกับกฏหมาย แต่ เจ๊สด ควรตรึกตรองดู มันเหมาะสมหรือไม่

ผมไม่อยากให้เจ๊ นําการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ไปเทียบเคียงกับการเลือกตั้ง สส.
เพราะการเลือกตั้ง สส. มีกรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญบังคับไว้
ที่จะต้องประกาศรับรอง สส.ให้ได้ร้อยละ 95 ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่การเลือกตั้ง
เพื่อทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสภา

การเลือกตั้ง สส.ทั่วประเทศมีจํานวนมาก (แบบแบ่งเขต จำนวน 375 คน)
หาก สส.ส่วนน้อยที่มีเรื่องถูกร้องเรียนไปถ่วงเสียงส่วนใหญ่เอาไว้ ทําให้ได้ สส.ไม่ครบร้อยละ 95
จนไม่สามารถเปิดประชุมสถาได้ภายใน 30 วัน ย่อมเกิดผลเสียตามมา
ผมว่านี่แหละ น่าจะเป็นแนวคิดของการเปิดช่องทางกฏหมาย  ปล่อยไปก่อน แล้วสอยทีหลัง

แต่ผมรู้สึกว่า เจ๊สด และ กกต.กําลังนําแนวคิดทางกฏหมายนี้ไปใช้อย่างมั่วซั่ว
จริงอยู่แม้กฏหมายเปิดช่องไว้ แต่ก็ไม่ควรนําช่องนี้มาใช้กับการเลือกตั้ง
คนเดียว อันเดียว อย่างผู้ว่า กทม.

และที่สําคัญ
เรื่องที่ร้องเรียน หลายเรื่องเป็นประเด็นทางกฏหมาย
ที่ท่านสามารถหยิบยกมาพืจารณาได้ทันที  บางเรื่องก็มีบรรทัดฐานที่ท่านได้ตัดสินไปแล้ว
สามารถนํามาเทียบเคียงกันได้เลย
อย่านําเรื่องการสืบสวนสอบสวน มากล่าวอ้างเพื่อซื้อเวลา ท่านต้องลําดับความสําคัญก่อนหลัง
ของเรื่องที่ร้องเรียน ให้ถูก

----------------------------------