มีโอกาสได้ขึ้นเหนือครั้งแรกในชีวิต พร้อมๆกับการออกงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเจ้า 600d
รูปอาจจะสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง ต้องขออภัยด้วย เพราะแต่งรูปไม่เป็น เลยมิได้ปรับแต่งอะไรมากนัก ^^
การออกเดินทางครั้งนี้ เราพักที่โรงแรม Sunshine House อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่แถวๆ YMCA กับ 5 แยกสันติธรรม โดยส่วนตัวมีความรู้สึกพอใจในลักษณะห้องและการบริการ แต่ที่ตั้งของโรงแรม อาจจะเดินไกลหน่อย ไม่ได้ถ่ายรูปโรงแรมมา
เราเริ่มออกเดินทางประมาณ 7 โมงเช้า ทานอาหารเช้าที่ "ร้านโจ๊กสมเพชร" ความเห็นส่วนตัว คิดว่าอาหารราคาสูงไปหน่อย ตอนคิดเงินตกใจหมด ไปหกคน หมดไปกะมื้อเช้าเบาๆประมาณเกือบ 700 บาท ส่วนรสชาติ ถือว่าพอทานได้ ในรูปนี้อาหารยังมาไม่ครบทุกคนนะครับ ^^
หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อย เราเริ่มกันที่สถานที่แรก นั่นก็คือ "พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศ" เดินชมสวนดอกไม้
เดินไกลหน่อย แต่เพลินดี ^^
จากนั้นมุ่งสู่ "หมู่บ้านชาวเขา" ที่นี้เขามีให้เช่าชุดชาวเขาใส่ถ่ายรูปผู้ชาย ราคา 50 บาท ผู้หญิงมี 50 กับ 30 บาท เพลินๆดี ใส่ไปเหมือนชาวเขาทุกคน!! น้องชายเราเหมือนมากจนฝรั่งที่เดินผ่านต้องมาหยุดขอถ่ายรูป ^^
ต่อจากนั้นเราก้ไปสักการะ "พระธาตุดอยสุเทพ" ที่นี้จะมีให้เลือก 2 อย่าง ระหว่างขึ้นรถราง (มาทราบทีหลังว่านั่นก็คือลิฟต์) ค่าบริการคนละ 20 บาท กับเดินขึ้นบันไดสามร้อยกว่าขั้น ของเราเลือกเดิน เพราะมั่นใจในกำลังขา กะอยากได้บรรยากาศ แต่ขึ้นไปได้สักพัก ถึงขั้นหอบเลยนะจะบอกให้ T_T
หลังจากนั้นก็ไปทานข้าวซอย ซึ่งถือได้ว่าถ้ามาเชียงใหม่ไม่ได้ทานข้าวซอยจะถือว่ามาไม่ถึง แต่ส่วนตัวเราถ้าให้เลือกกะกระเพราไก่ เราเลือกกระเพราไก่นะ ^^"
จบทริปสำหรับวันแรก อย่างเบา..เบา
วันที่สอง เริ่มต้นออกเดินทางกันประมาณ 7 โมงเช้า แวะทานเกาเหลาเลือดหมูเป็นมื้อเช้าสำหรับวันนี้
จากนั้นเริ่มประเดิมสำหรับสถานที่แรกของวันนี้กับ "น้ำตกวชิรธาร" อันได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง จะบอกว่า สวยสุดคำบรรยายจริงๆ น้ำไหลแรงมาก และเย็นมากลงไปแตะน้ำนิดเดียวถึงขั้นเท้าชากันเลยทีเดียว นี่ขนาดเดือนมีนานะ ในรูปภาพยังบรรยายไม่ได้เท่าไปเห็นด้วยตาตัวเอง ขอบอก !!
อีกมุม
หลังจากเพลิดเพลินกับความสวยของน้ำตกวชิรธารกันจนหมดแรง ถึงเวลาเติมพลังกันอีกแล้ว เราแวะที่ "โครงการหลวงดอยอินทนนท์" เพื่อทานกลางวันกันที่นี้ อาหารขึ้นชื่อคือปลาเทานซ์ ไม่รู้เขียนถูกมั้ย กับผักต่างๆ จะบอกว่าเราเป็นคนไม่ทานผักเลย แต่พอมาเจอผักที่นี้ เราชอบมากเลย ทั้งหวาน ทั้งสด ทั้งกรอบ และปลอดสารพิษ เยี่ยมสุดๆ น่าเสียดาย พอจะหันมาหยิบกล้อง รู้สึกตัวอีกทีอาหารบนโต๊ะแทบจะไม่เหลือแล้ว เลยอดเก็บภาพมาให้ชมกัน
ทานกลางวันเสร็จ เราเดินชมรอบๆ "โครงการหลวงดอยอินทนนท์" จะบอกว่าที่นี้ต้นไม้ ดอกไม้สวยมาก สีสันสดๆบรรยากาศดีๆ เหมือนติดแอร์เลย
อีกรูปหันมาเจอตัวนี้พอดี
อีกรูป
หลังจากนั้นเราเดินทางเข้าที่พักบนดอยอินทนนท์ ชื่อว่า "บ้านดอยชัวร์ญ่า" ห้องที่เราจองมองออกมาจะเห็นวิวภูเขา และน้ำตกเป็นสายลงมา ภายในห้องพักมีเครื่องทำน้ำอุ่น ทีวีแต่ไม่มีแอร์นะ เพราะขนาดไม่มีแอร์ยังสั่นเลย ที่นี้บรรยากาศและอากาศดีสุดๆ เห็นวิวบนเขา ตอนกลางคืนเขาจะเปิดไฟให้ต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้ตรง เลยทำให้ภูเขาทั้งลูกล้อมรอบด้วยแสงไฟ สวยดีจริงๆ
ตกกลางคืนเราสั่งหมูกะทะ มาทานคลายหนาว ช่างอร่อยดีจริงๆหลับสบายยย โดยไม่ต้องเปิดแอร์ Zzzzzz
เช้าวันต่อมา เราต้องออกเดินทางแต่เช้า ประมาณตี5 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ "กิ่วแม่ปาง" จะบอกว่าอากาศบนดอยหนาวมากกก ตอนเราไปเดือนมีนานะ อุณหภูมิอยู่ที่ 4 องศา ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจะหนาวขนาดนี้เลยไม่ได้เตรียมเครื่องกันหนาวไป ยืนกันจนขาสั่น น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เห็นแม่คนิ้ง มารอดูพระอาทิตย์ขึ้นไปพร้อมๆกัน ^^

ไม่รู้จะเห็นมั้ย แต่จะบอกว่ามันคือ 4 องศาในเดือนมีนา
จากนั้นเรามุ่งสู่ "จุดสูงสุดของประเทศไทย" มาดูกันว่าเป็นยังไง

นี่คือหมุดปักฐานจุดที่สูงที่สุด
เดินลัดเลาะไปตามป่าเห็นดอกไม้สวยๆมากมาย
มายังไงล่ะเจ้าหนู
จากนั้นเรามุ่งสู่ "พระมหาธาตุนภเมทนีดล" สวนที่นี้สวยที่สุดในบรรดาสถานที่ที่เราไปเที่ยวมาทั้งหมด มีต้นไม้ ดอกไม้แปลกๆที่เราไม่เคยเห็น แต่สีสดใส สวยมาก ^__^
อันนี้เรียกว่าผักกาดประดับ ไม่รู้ว่าทานได้มั้ย แต่สวยดี
หลังจากนั้นเราแวะ "น้ำตกแม่กลาง" เดินไกลหน่อย แต่ก็สวยและสนุกดี ทางเดินเป็นป่า
จบทริปเราแวะที่ "ตลาดวโรรส" เพื่อซื้อของฝาก
และเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
ขอบคุณที่ติดตามการรีวิวของเรามาจนจบนะครับ ขอบอกว่าง่วงมาก แต่กลับมาปุ๊ปก็อยากเอาลงให้เพื่อนๆได้ดูกันเลย ชอบไม่ชอบยังไงขอคำติชม เพื่อเป็นกำลังใจในการทำผลงานชิ้นต่อๆไปด้วยนะครับ ^^
[CR] @เชียงใหม่@////// พาไปแอ่วเหนือ ม่วนใจ กันเจ้า /////// ^^
รูปอาจจะสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง ต้องขออภัยด้วย เพราะแต่งรูปไม่เป็น เลยมิได้ปรับแต่งอะไรมากนัก ^^
การออกเดินทางครั้งนี้ เราพักที่โรงแรม Sunshine House อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่แถวๆ YMCA กับ 5 แยกสันติธรรม โดยส่วนตัวมีความรู้สึกพอใจในลักษณะห้องและการบริการ แต่ที่ตั้งของโรงแรม อาจจะเดินไกลหน่อย ไม่ได้ถ่ายรูปโรงแรมมา
เราเริ่มออกเดินทางประมาณ 7 โมงเช้า ทานอาหารเช้าที่ "ร้านโจ๊กสมเพชร" ความเห็นส่วนตัว คิดว่าอาหารราคาสูงไปหน่อย ตอนคิดเงินตกใจหมด ไปหกคน หมดไปกะมื้อเช้าเบาๆประมาณเกือบ 700 บาท ส่วนรสชาติ ถือว่าพอทานได้ ในรูปนี้อาหารยังมาไม่ครบทุกคนนะครับ ^^
หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อย เราเริ่มกันที่สถานที่แรก นั่นก็คือ "พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศ" เดินชมสวนดอกไม้
เดินไกลหน่อย แต่เพลินดี ^^
จากนั้นมุ่งสู่ "หมู่บ้านชาวเขา" ที่นี้เขามีให้เช่าชุดชาวเขาใส่ถ่ายรูปผู้ชาย ราคา 50 บาท ผู้หญิงมี 50 กับ 30 บาท เพลินๆดี ใส่ไปเหมือนชาวเขาทุกคน!! น้องชายเราเหมือนมากจนฝรั่งที่เดินผ่านต้องมาหยุดขอถ่ายรูป ^^
ต่อจากนั้นเราก้ไปสักการะ "พระธาตุดอยสุเทพ" ที่นี้จะมีให้เลือก 2 อย่าง ระหว่างขึ้นรถราง (มาทราบทีหลังว่านั่นก็คือลิฟต์) ค่าบริการคนละ 20 บาท กับเดินขึ้นบันไดสามร้อยกว่าขั้น ของเราเลือกเดิน เพราะมั่นใจในกำลังขา กะอยากได้บรรยากาศ แต่ขึ้นไปได้สักพัก ถึงขั้นหอบเลยนะจะบอกให้ T_T
หลังจากนั้นก็ไปทานข้าวซอย ซึ่งถือได้ว่าถ้ามาเชียงใหม่ไม่ได้ทานข้าวซอยจะถือว่ามาไม่ถึง แต่ส่วนตัวเราถ้าให้เลือกกะกระเพราไก่ เราเลือกกระเพราไก่นะ ^^"
จบทริปสำหรับวันแรก อย่างเบา..เบา
วันที่สอง เริ่มต้นออกเดินทางกันประมาณ 7 โมงเช้า แวะทานเกาเหลาเลือดหมูเป็นมื้อเช้าสำหรับวันนี้
จากนั้นเริ่มประเดิมสำหรับสถานที่แรกของวันนี้กับ "น้ำตกวชิรธาร" อันได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง จะบอกว่า สวยสุดคำบรรยายจริงๆ น้ำไหลแรงมาก และเย็นมากลงไปแตะน้ำนิดเดียวถึงขั้นเท้าชากันเลยทีเดียว นี่ขนาดเดือนมีนานะ ในรูปภาพยังบรรยายไม่ได้เท่าไปเห็นด้วยตาตัวเอง ขอบอก !!
อีกมุม
หลังจากเพลิดเพลินกับความสวยของน้ำตกวชิรธารกันจนหมดแรง ถึงเวลาเติมพลังกันอีกแล้ว เราแวะที่ "โครงการหลวงดอยอินทนนท์" เพื่อทานกลางวันกันที่นี้ อาหารขึ้นชื่อคือปลาเทานซ์ ไม่รู้เขียนถูกมั้ย กับผักต่างๆ จะบอกว่าเราเป็นคนไม่ทานผักเลย แต่พอมาเจอผักที่นี้ เราชอบมากเลย ทั้งหวาน ทั้งสด ทั้งกรอบ และปลอดสารพิษ เยี่ยมสุดๆ น่าเสียดาย พอจะหันมาหยิบกล้อง รู้สึกตัวอีกทีอาหารบนโต๊ะแทบจะไม่เหลือแล้ว เลยอดเก็บภาพมาให้ชมกัน
ทานกลางวันเสร็จ เราเดินชมรอบๆ "โครงการหลวงดอยอินทนนท์" จะบอกว่าที่นี้ต้นไม้ ดอกไม้สวยมาก สีสันสดๆบรรยากาศดีๆ เหมือนติดแอร์เลย
อีกรูปหันมาเจอตัวนี้พอดี
อีกรูป
หลังจากนั้นเราเดินทางเข้าที่พักบนดอยอินทนนท์ ชื่อว่า "บ้านดอยชัวร์ญ่า" ห้องที่เราจองมองออกมาจะเห็นวิวภูเขา และน้ำตกเป็นสายลงมา ภายในห้องพักมีเครื่องทำน้ำอุ่น ทีวีแต่ไม่มีแอร์นะ เพราะขนาดไม่มีแอร์ยังสั่นเลย ที่นี้บรรยากาศและอากาศดีสุดๆ เห็นวิวบนเขา ตอนกลางคืนเขาจะเปิดไฟให้ต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้ตรง เลยทำให้ภูเขาทั้งลูกล้อมรอบด้วยแสงไฟ สวยดีจริงๆ
ตกกลางคืนเราสั่งหมูกะทะ มาทานคลายหนาว ช่างอร่อยดีจริงๆหลับสบายยย โดยไม่ต้องเปิดแอร์ Zzzzzz
เช้าวันต่อมา เราต้องออกเดินทางแต่เช้า ประมาณตี5 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ "กิ่วแม่ปาง" จะบอกว่าอากาศบนดอยหนาวมากกก ตอนเราไปเดือนมีนานะ อุณหภูมิอยู่ที่ 4 องศา ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจะหนาวขนาดนี้เลยไม่ได้เตรียมเครื่องกันหนาวไป ยืนกันจนขาสั่น น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เห็นแม่คนิ้ง มารอดูพระอาทิตย์ขึ้นไปพร้อมๆกัน ^^
จากนั้นเรามุ่งสู่ "จุดสูงสุดของประเทศไทย" มาดูกันว่าเป็นยังไง
นี่คือหมุดปักฐานจุดที่สูงที่สุด
เดินลัดเลาะไปตามป่าเห็นดอกไม้สวยๆมากมาย
มายังไงล่ะเจ้าหนู
จากนั้นเรามุ่งสู่ "พระมหาธาตุนภเมทนีดล" สวนที่นี้สวยที่สุดในบรรดาสถานที่ที่เราไปเที่ยวมาทั้งหมด มีต้นไม้ ดอกไม้แปลกๆที่เราไม่เคยเห็น แต่สีสดใส สวยมาก ^__^
อันนี้เรียกว่าผักกาดประดับ ไม่รู้ว่าทานได้มั้ย แต่สวยดี
หลังจากนั้นเราแวะ "น้ำตกแม่กลาง" เดินไกลหน่อย แต่ก็สวยและสนุกดี ทางเดินเป็นป่า
จบทริปเราแวะที่ "ตลาดวโรรส" เพื่อซื้อของฝาก
และเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
ขอบคุณที่ติดตามการรีวิวของเรามาจนจบนะครับ ขอบอกว่าง่วงมาก แต่กลับมาปุ๊ปก็อยากเอาลงให้เพื่อนๆได้ดูกันเลย ชอบไม่ชอบยังไงขอคำติชม เพื่อเป็นกำลังใจในการทำผลงานชิ้นต่อๆไปด้วยนะครับ ^^