ก่อนอื่นขอบอกก่ก่อนอื่นขอบอกก่อน หากกระทู้ผิดประเภทขออภัย มือใหม่จริงๆครับ
เรื่องราวที่จะกล่าวต่อไปนี้ ขอกล่าวด้วยความสัตย์จริง เพราะผจญมาด้วยตนเองทุกประการ ใครเห็นชอบหรือไม่กับสิ่งที่ผมเจอ จะแสดงความคิดเห็นยังไงก็ได้ครับ

) ประสบการณ์คนเราเจอมาไม่เหมือนกัน
เอาละ! เสียเวลามามากแล้ว เริ่มเลยดีกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อช่วงเดือน กรกฎาคมปี 55 มือถือ bb bold 9000 ที่กระผมทะนุถนอมมาร่วม 4 ปี มันอำลาจากผมไป T T ผมเลยไปซื้อมือถือ i-mobile รุ่นนึงที่เครื่องละประมาณ 400 บาทปลายๆมาใช้ ใช้ไปประมาณอาทิตย์นึง ท่านแม่ของกระผมท่านสงสารและเห็นใจที่ลูกรักต้องมาใช้มือถือธรรมดาๆ ที่มีความสามารถเยี่ยม (แต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วนะ)
ท่านจึงตัดสินใจ อ่ะ ! ลูกรัก แม่จะให้ของขวัญเจ้า สิ่งนั้นคือ samsung galaxy s3 รุ่นที่ spec เทพจริงๆ ในตอนนั้น (เขาหรือใครก็ไม่รู้บอกผมมางี้อ่า) และแล้วในวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 ผมก็ได้มือถือนั้นในราคา 21,900 บาท มาครอบครอง เย้ !! smart phone เครื่องแรกของผม
ใช้ไปอาทิตย์แรก เอ... เครื่องร้อนแปลกๆ ผมเลยไปที่ศูนย์ฯ พี่ที่ศูนย์บอกว่า"ปกติครับ smart phone เล่นนานๆก็เป็นงี้แหละ" อ๋อ อย่างนี้นี่เอง สมาร์ทโฟนก็คงเหมือนกะคอมพิวเตอร์แหละ ใช้แล้วมันก็ต้องร้อนมั่งไรมั่งสิ

) (ตอนนั้นผมใช้ เล่นinternet กับ เล่น facebook เกือบทั้งวันเลยครับ ก็คนมันเห่ออ่า) จากนั้นใช้ไปอีก2-3อาทิตย์มันเริ่มหน่วงๆ ก็ไปศูนย์อีกรอบ พี่ที่ศูนย์บอกว่า "ปกติครับ smart phone ลงโปรแกรมเยอะก็มีหน่วงมั่ง restart เครื่องมั่งนะ " อ๋อ! ที่ผ่านมาผมไม่เคย restart เลยนี่เอง พอ restart เครื่องก็เร็วเทพเหมือนซื้อมาแรกๆเลย เรานี่ไม่ไหวเลย แฮะ แต่อย่างว่า smart phone เครื่องแรกของผม
แต่แล้ว…. วันนึงช่วงประมาณเดือนตุลาคม เครื่องผมก็ได้ดับไปด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบ จึงพา s3 ของผมเข้าศูนย์ครับ พี่เค้าก็ขอเช็ค 2วัน แล้วบอกว่าจะติดต่อมา ... พอถึงเวลาก็ยังไม่ติดต่อกลับมา เอ่อ.. ทำไมนานจังเลย ผมเลยตัดสินใจโทรไปเร่งครับว่า “เมื่อไหร่จะเสร็จ เครื่องผมเป็นอะไร ผมต้องใช้ทำงานนะ(ช่วงนั้นทำงานเลยต้องใช้ถ่ายรูปอะไรพวกนี้)” ทางพี่ที่ศูนย์ก็บอกครับว่า “เครื่องน่าจะเป็นที่เมนบอร์ดเสียนะครับ ขอให้รอประมาณอาทิตย์นึงนะ” ผมก็.. อ๋อๆ อะไรนะ เมนบอร์ดเสียคือไรอ่ะ แต่ช่างเถอะ เครื่องอยู่ศูนย์คงไม่เป็นไร ระหว่างซ่อมผมก็ใช้ i-mobile ที่ซื้อมา 400 ปลายๆต่อไป
แต่ก็นับว่าเป็นอุปสรรคเหมือนกัน จากที่เคยใช้ map ในมือถือหาทางไปพบลูกค้าก็ต้องมานั่งเปิดคอมที่ออฟฟิศก่อนแล้วค่อยไป บวกกับถ่ายรูปก็ต้องพกกล้องไปอีกซึ่งค่อนข้างหนัก
พอครบ 1 อาทิตย์ที่พี่ที่ศูนย์บอกให้รอ … ผมก็โทรไปถามว่าเสร็จหรือยัง แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า “เครื่องต้องรออะไหล่ส่งมาค่ะ คงต้องรอประมาณ 1 เดือนนะคะ” อ๋อ…. ห๊ะ!! อะไรนะ !! หนึ่งเดือนบ้าเปล่าเนี่ย ผมก็เลยลั่นวาจาไปว่า “พี่ครับ ผมต้องใช้มือถือทำงานนะครับ แล้ว1เดือนผมว่ามันนานไปนะครับ รีบๆหน่อยได้ไหม” ทางศูนย์ก็รับปากว่าจะรีบดำเนินการให้ … ผมโทรติดต่ออย่างนี้ไป 4-5 วัน ต่อมาก็ได้รับคำตอบมาว่า เครื่องเสร็จแล้วไปรับได้เลย เย้ !!! (ณ ตอนนี้ผมเสียความรู้สึกกับทาง Samsung ไปแล้วครับ แต่ก็พยายามใช้ต่อด้วยเพราะมือถือมันแพง ใช้ยังไม่คุ้มเลย) รวมระยะเวลาทั้งหมดใช้เวลาในการซ่อมก็เกือบ 1 เดือนครับ
หลังจากได้รับเครื่องมาผมก็ใช้มือถือ Samsung ด้วยความทะนุถนอมยิ่งกว่าเดิมครับ เวลาลงโปรแกรมอะไรก็เช็คดีๆ เพื่อไม่ให้มันหน่วง หัดลบแคชมั่ง อะไรประมาณนี้ตามที่ อากู๋ เขาบอกผมมา (แต่แล้วก็ไม่แคล้วที่ช่วงเสียบสายชาร์จตรงโครเมี่ยมมีรอยแตกซึ่งก็คิดว่าคงเคลมได้เพราะผมไม่ได้ทำหนิ รอเคลมทีเดียวเวลามีเคสใหญ่ๆ เผื่อต้องรอนานอีก)… เวลามีอัพเดต fw ขึ้นเตือนผมก็จะใช้เฉพาะ wifi ที่บ้านเท่านั้นในการอัพเดต ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย (อัพเดตช่วงประมาณปลายมกราคม ถ้าจำไม่ผิด 4.1.2 มั้ง)
แต่แล้วช่วงเวลาแห่งหายนะก็มาถึง คือ ช่วงประมาณปลายกุมภาพันธ์ … มือถือผมเริ่มค้าง ค้างชนิดที่ว่ากดอะไรไม่ไปเลยทีเดียวต้องมานั่งกดปุ่ม power ค้าง ให้เครื่องดับ แล้วเปิดใหม่ เป็นอย่างนี้ประมาณอาทิตย์กว่า เอาสิวะ ! reset factory สักหน่อยเผื่อจะแรงขึ้นมา อิอิ ก็ตามๆที่อากู๋บอกมาแหละครับ ว่าถ้ามีปัญหาค้าง ก็ต้องหัด reset factory มั่งสิจะได้หาย ผมก็จัดไปเลยครับ … เออแรงขึ้นจริง
แต่หลังจาก reset factory พอใช้ไป 30 นาที เวรกรรม ! ค้างอีกแล้ว ก็เลย reset factory อีกรอบเผื่อหาย แต่ก็ค้างอีก เอ่อ… ไม่ใช่ละ! คงต้องเอาเข้าศูนย์แล้ว (แอบศึกษาอากู๋มาแล้วว่าสงสัยเมนบอร์ดผมต้องไปอีกแน่ๆเลย พร้อมกันนั้นก็คิดกับตัวเองว่าเป็นอีกขายแน่! )
พอเอาเข้าศูนย์ให้พี่เค้าตรวจดู พี่เค้าก็บอกว่าคงต้องลง fw ใหม่ “รอประมาณ 1.30 ชั่วโมง มารับนะ” พอครบกำหนดเวลาก็มารับเครื่อง ลองเล่นดูก็โอเค.. แต่ช้าก่อน พอออกจากร้านมา มันเป็นอีกแล้วครับ ค้างคามือเลย ผมก็เห้ย! ศูนย์ทำให้แล้วหรอเนี่ยหรือเขากด reset factory เหมือนที่ผมทำ … ผมก็เอาไปให้พี่เขาดูว่าเนี่ยเป็นงี้ พี่เค้าก็เอาไปทดสอบด้วยมือเค้า ถอด sim กับ memory card เข้าออก แต่มือถือเปิดมาใหม่ก็ยังคงค้างเหมือนเดิม แล้วพี่เค้าหันมาพูดกับผมว่า “อาจเป็นซิมนะน้อง น้องลองเปลี่ยนซิมนะ พี่ว่ามันอาจช็อตก็ได้” เป็นคำตอบที่ทำให้ผมเงิบ แบบหน้าแทบหงายจริงๆ ในใจตอนนั้นผมคิดว่ามันไม่ใช่ละ แต่ก็ทำตามเพื่อที่ว่า เออจะได้รู้กันว่าหายไหม ! … พอผมเปลี่ยนเสร็จ กลับมาก็ยังคงค้าง (ซึ่งคือเสียค่าเปลี่ยนซิมไป 99 บาท ค่าเปลี่ยนซิมผมล่ะ = =!) .. เขาก็บอกว่า “รอ 1-2 วัน เดี๋ยวส่งซ่อมให้ ” ถึงตอนนี้ผมก็คิดคำตอบสุดท้ายหลังจากซ่อมเสร็จไว้แล้วว่า ! ขายแน่นอน ! .. (ระหว่างรอซ่อม ก็ใช้ i-mobile คู่ใจเครื่องละ400 บาทปลายๆ เครื่องเดิมไปและคงจะใช้ไปจนมันพังถึงค่อยเปลี่ยน)
ผ่านไป 2 วัน ถึงเวลา ทางศูนย์ก็ให้ไปรับ มือถือที่ซ่อมเสร็จแล้ว … เมื่อมาถึงผมก็ไม่รีรอที่จะถามก่อนรับมือถือว่า “เครื่องเป็นอะไร !?” ทางเขาก็บอกมาว่า “เป็นที่ fw นะ ตอนนี้ช่างลงให้ใหม่แล้ว” เอาล่ะสิ ลงแต่ fw ไม่คิดจะแกะเครื่องมาดูหรอ ตอนนี้เครื่องมันเป็นที่ เมนบอร์ดนะ อากู๋บอกผมแล้ว … แต่ผมก็อือๆ รับเครื่องมาทดสอบให้เห็นเลยครับ ปรากฏค้างตั้งแต่เปิดเครื่องเลย ผมก็เลยบอกพนักงานว่า “อ่ะ.. เนี่ย เป็นอีกแล้วให้ทำไง ครั้งที่แล้วก็ค้างอย่างนี้ คามืออย่างนี้เลย(ถึงตอนนี้สีหน้าผมไปล่ะ บอกตรงๆใครเห็นผมอารมณ์เริ่มขึ้น คุณโชคร้ายมากครับ)” ทางพนักงานผู้หญิงก็บอกว่า”พี่เข้าใจน้อง งั้นเอางี้น้องลองนั่งทดสอบเครื่องก่อนนะ แล้วพอเป็นอีกรอบน้องให้ช่างเลย “ ผมก็บอกว่า “ได้(ด้วยน้ำเสียงประมาณว่าเดี๋ยวรู้กัน ฮ่าๆ)” … ผมก็นั่งทดสอบไปเรื่อยๆ ก็เป็นอีกครับ เลยส่งให้ช่างเลยทีนี้ “อ่ะพี่ มันเป็นอีกแล้ว ” ทางช่างก็บอกว่า “งั้นคงเป็นที่ เมนบอร์ด รอ1.30 ชั่วโมง จะเปลี่ยนให้เลย” ผมตกลงตามนั้น แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า เขาจะทำให้ผมแค่อัพ fw เหมือนเดิมเปล่าเนี่ย = =!
แล้วพอถึงเวลาก็มารับเครื่อง โอเคเครื่องปกติดีทุกอย่าง เพราะว่าเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่แล้ว (ทำไมไม่เปลี่ยนตั้งแต่วันแรกเล่า) ผมก็ไม่รีรอที่จะบอกว่า “เนี่ย ผมเปลี่ยนมา 2 รอบแล้วนะเมนบอร์ด มันจะเป็นอีกไหมเนี่ย + โครเมี่ยมที่เป็นรอยเคลมได้ไหม” ทางช่างก็บอก “หรอ จริงหรอไม่น่าเชื่อ ส่วนโครเมียมเปลี่ยนไม่ได้นะ ถือว่าเป็นจากการใช้งานของลูกค้า”แล้วก็ต่อด้วยคำพูดอีกว่า “ทางที่ดีอย่าอัพ fw เองนะ เอามาให้ศูนย์อัพให้ … แต่อย่าเอามาให้อัพบ่อยนะ ให้รอ 2-3 เดือนก่อนค่อยเอามา แค่นี้พี่ก็ไม่มีเวลาอยู่แล้ว” … ถึงจุดๆนี้ ผมก็อึ้ง แต่ก็พยายามระงับความโกรธเอาไว้(ต้องขอขอบคุณช่วงเวลา 1.30 ชั่วโมง ที่ให้ผมรอเครื่องมือถือไปอ่านหนังสือธรรมะนะครับ) แล้วก็คิดว่าช่างมัน ไหนๆก็จะขายแล้วนี่
จากนั้นพอออกจากศูนย์ผมก็ไม่รีรอที่จะไปให้ทางร้านที่รับซื้อตีราคาให้ ซึ่งได้ราคามา 8,000 บาท (ในวันที่ 14 มีนาคม 2556 )… อึ้งเล็กน้อย 21,900 บาท กำลังจะเหลือราคา 8,000 บาท แต่แล้วเมื่อใจมันอยากขายอยู่แล้ว วันต่อมาซึ่งเป็นวันที่ s4 เปิดตัว (วันนี้) ผมรีบเอาไปขายด้วยราคานึงซึ่งเป็นราคาที่จำใจต้องขายเพราะคิดว่าคงไม่มีใครให้ราคาดีกว่านี้แล้วอย่างน้อยก็ดีกว่า 8,000 บาท (ยอมขาดทุนยับเพื่อตัดปัญหา)
ความรู้สึกของผมตอนนี้ คือ ลาขาด Ss กลับมาใช้ i-mobile เครื่องละ 400 บาทปลายๆ ซึ่งอายุการใช้งานมีมากกว่าอีกครับ แถมยังต้องมาโกหกท่านแม่อีกว่า ผมขายs3 ไปด้วยราคาที่ดีแสนดี เพื่อให้ท่านสบายใจอีก … เท่านี้แหละครับที่อยากจะแชร์ ใครจะกล่าวหาว่าผมพูดไม่จริงหรืออะไรก็ได้ครับผมไม่ว่า เพราะกว่าที่ผมจะตัดสินใจโพส ผมก็แอบๆดูกระทู้เก่าๆแล้วว่า ผมอาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็น user error ได้ จุ๊บๆ
จริงหรือครับ ? ที่มือถือ s3 เมนบอร์ดเสียง่าย ...
เรื่องราวที่จะกล่าวต่อไปนี้ ขอกล่าวด้วยความสัตย์จริง เพราะผจญมาด้วยตนเองทุกประการ ใครเห็นชอบหรือไม่กับสิ่งที่ผมเจอ จะแสดงความคิดเห็นยังไงก็ได้ครับ
เอาละ! เสียเวลามามากแล้ว เริ่มเลยดีกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อช่วงเดือน กรกฎาคมปี 55 มือถือ bb bold 9000 ที่กระผมทะนุถนอมมาร่วม 4 ปี มันอำลาจากผมไป T T ผมเลยไปซื้อมือถือ i-mobile รุ่นนึงที่เครื่องละประมาณ 400 บาทปลายๆมาใช้ ใช้ไปประมาณอาทิตย์นึง ท่านแม่ของกระผมท่านสงสารและเห็นใจที่ลูกรักต้องมาใช้มือถือธรรมดาๆ ที่มีความสามารถเยี่ยม (แต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วนะ)
ท่านจึงตัดสินใจ อ่ะ ! ลูกรัก แม่จะให้ของขวัญเจ้า สิ่งนั้นคือ samsung galaxy s3 รุ่นที่ spec เทพจริงๆ ในตอนนั้น (เขาหรือใครก็ไม่รู้บอกผมมางี้อ่า) และแล้วในวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 ผมก็ได้มือถือนั้นในราคา 21,900 บาท มาครอบครอง เย้ !! smart phone เครื่องแรกของผม
ใช้ไปอาทิตย์แรก เอ... เครื่องร้อนแปลกๆ ผมเลยไปที่ศูนย์ฯ พี่ที่ศูนย์บอกว่า"ปกติครับ smart phone เล่นนานๆก็เป็นงี้แหละ" อ๋อ อย่างนี้นี่เอง สมาร์ทโฟนก็คงเหมือนกะคอมพิวเตอร์แหละ ใช้แล้วมันก็ต้องร้อนมั่งไรมั่งสิ
แต่แล้ว…. วันนึงช่วงประมาณเดือนตุลาคม เครื่องผมก็ได้ดับไปด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบ จึงพา s3 ของผมเข้าศูนย์ครับ พี่เค้าก็ขอเช็ค 2วัน แล้วบอกว่าจะติดต่อมา ... พอถึงเวลาก็ยังไม่ติดต่อกลับมา เอ่อ.. ทำไมนานจังเลย ผมเลยตัดสินใจโทรไปเร่งครับว่า “เมื่อไหร่จะเสร็จ เครื่องผมเป็นอะไร ผมต้องใช้ทำงานนะ(ช่วงนั้นทำงานเลยต้องใช้ถ่ายรูปอะไรพวกนี้)” ทางพี่ที่ศูนย์ก็บอกครับว่า “เครื่องน่าจะเป็นที่เมนบอร์ดเสียนะครับ ขอให้รอประมาณอาทิตย์นึงนะ” ผมก็.. อ๋อๆ อะไรนะ เมนบอร์ดเสียคือไรอ่ะ แต่ช่างเถอะ เครื่องอยู่ศูนย์คงไม่เป็นไร ระหว่างซ่อมผมก็ใช้ i-mobile ที่ซื้อมา 400 ปลายๆต่อไป
แต่ก็นับว่าเป็นอุปสรรคเหมือนกัน จากที่เคยใช้ map ในมือถือหาทางไปพบลูกค้าก็ต้องมานั่งเปิดคอมที่ออฟฟิศก่อนแล้วค่อยไป บวกกับถ่ายรูปก็ต้องพกกล้องไปอีกซึ่งค่อนข้างหนัก
พอครบ 1 อาทิตย์ที่พี่ที่ศูนย์บอกให้รอ … ผมก็โทรไปถามว่าเสร็จหรือยัง แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า “เครื่องต้องรออะไหล่ส่งมาค่ะ คงต้องรอประมาณ 1 เดือนนะคะ” อ๋อ…. ห๊ะ!! อะไรนะ !! หนึ่งเดือนบ้าเปล่าเนี่ย ผมก็เลยลั่นวาจาไปว่า “พี่ครับ ผมต้องใช้มือถือทำงานนะครับ แล้ว1เดือนผมว่ามันนานไปนะครับ รีบๆหน่อยได้ไหม” ทางศูนย์ก็รับปากว่าจะรีบดำเนินการให้ … ผมโทรติดต่ออย่างนี้ไป 4-5 วัน ต่อมาก็ได้รับคำตอบมาว่า เครื่องเสร็จแล้วไปรับได้เลย เย้ !!! (ณ ตอนนี้ผมเสียความรู้สึกกับทาง Samsung ไปแล้วครับ แต่ก็พยายามใช้ต่อด้วยเพราะมือถือมันแพง ใช้ยังไม่คุ้มเลย) รวมระยะเวลาทั้งหมดใช้เวลาในการซ่อมก็เกือบ 1 เดือนครับ
หลังจากได้รับเครื่องมาผมก็ใช้มือถือ Samsung ด้วยความทะนุถนอมยิ่งกว่าเดิมครับ เวลาลงโปรแกรมอะไรก็เช็คดีๆ เพื่อไม่ให้มันหน่วง หัดลบแคชมั่ง อะไรประมาณนี้ตามที่ อากู๋ เขาบอกผมมา (แต่แล้วก็ไม่แคล้วที่ช่วงเสียบสายชาร์จตรงโครเมี่ยมมีรอยแตกซึ่งก็คิดว่าคงเคลมได้เพราะผมไม่ได้ทำหนิ รอเคลมทีเดียวเวลามีเคสใหญ่ๆ เผื่อต้องรอนานอีก)… เวลามีอัพเดต fw ขึ้นเตือนผมก็จะใช้เฉพาะ wifi ที่บ้านเท่านั้นในการอัพเดต ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย (อัพเดตช่วงประมาณปลายมกราคม ถ้าจำไม่ผิด 4.1.2 มั้ง)
แต่แล้วช่วงเวลาแห่งหายนะก็มาถึง คือ ช่วงประมาณปลายกุมภาพันธ์ … มือถือผมเริ่มค้าง ค้างชนิดที่ว่ากดอะไรไม่ไปเลยทีเดียวต้องมานั่งกดปุ่ม power ค้าง ให้เครื่องดับ แล้วเปิดใหม่ เป็นอย่างนี้ประมาณอาทิตย์กว่า เอาสิวะ ! reset factory สักหน่อยเผื่อจะแรงขึ้นมา อิอิ ก็ตามๆที่อากู๋บอกมาแหละครับ ว่าถ้ามีปัญหาค้าง ก็ต้องหัด reset factory มั่งสิจะได้หาย ผมก็จัดไปเลยครับ … เออแรงขึ้นจริง
แต่หลังจาก reset factory พอใช้ไป 30 นาที เวรกรรม ! ค้างอีกแล้ว ก็เลย reset factory อีกรอบเผื่อหาย แต่ก็ค้างอีก เอ่อ… ไม่ใช่ละ! คงต้องเอาเข้าศูนย์แล้ว (แอบศึกษาอากู๋มาแล้วว่าสงสัยเมนบอร์ดผมต้องไปอีกแน่ๆเลย พร้อมกันนั้นก็คิดกับตัวเองว่าเป็นอีกขายแน่! )
พอเอาเข้าศูนย์ให้พี่เค้าตรวจดู พี่เค้าก็บอกว่าคงต้องลง fw ใหม่ “รอประมาณ 1.30 ชั่วโมง มารับนะ” พอครบกำหนดเวลาก็มารับเครื่อง ลองเล่นดูก็โอเค.. แต่ช้าก่อน พอออกจากร้านมา มันเป็นอีกแล้วครับ ค้างคามือเลย ผมก็เห้ย! ศูนย์ทำให้แล้วหรอเนี่ยหรือเขากด reset factory เหมือนที่ผมทำ … ผมก็เอาไปให้พี่เขาดูว่าเนี่ยเป็นงี้ พี่เค้าก็เอาไปทดสอบด้วยมือเค้า ถอด sim กับ memory card เข้าออก แต่มือถือเปิดมาใหม่ก็ยังคงค้างเหมือนเดิม แล้วพี่เค้าหันมาพูดกับผมว่า “อาจเป็นซิมนะน้อง น้องลองเปลี่ยนซิมนะ พี่ว่ามันอาจช็อตก็ได้” เป็นคำตอบที่ทำให้ผมเงิบ แบบหน้าแทบหงายจริงๆ ในใจตอนนั้นผมคิดว่ามันไม่ใช่ละ แต่ก็ทำตามเพื่อที่ว่า เออจะได้รู้กันว่าหายไหม ! … พอผมเปลี่ยนเสร็จ กลับมาก็ยังคงค้าง (ซึ่งคือเสียค่าเปลี่ยนซิมไป 99 บาท ค่าเปลี่ยนซิมผมล่ะ = =!) .. เขาก็บอกว่า “รอ 1-2 วัน เดี๋ยวส่งซ่อมให้ ” ถึงตอนนี้ผมก็คิดคำตอบสุดท้ายหลังจากซ่อมเสร็จไว้แล้วว่า ! ขายแน่นอน ! .. (ระหว่างรอซ่อม ก็ใช้ i-mobile คู่ใจเครื่องละ400 บาทปลายๆ เครื่องเดิมไปและคงจะใช้ไปจนมันพังถึงค่อยเปลี่ยน)
ผ่านไป 2 วัน ถึงเวลา ทางศูนย์ก็ให้ไปรับ มือถือที่ซ่อมเสร็จแล้ว … เมื่อมาถึงผมก็ไม่รีรอที่จะถามก่อนรับมือถือว่า “เครื่องเป็นอะไร !?” ทางเขาก็บอกมาว่า “เป็นที่ fw นะ ตอนนี้ช่างลงให้ใหม่แล้ว” เอาล่ะสิ ลงแต่ fw ไม่คิดจะแกะเครื่องมาดูหรอ ตอนนี้เครื่องมันเป็นที่ เมนบอร์ดนะ อากู๋บอกผมแล้ว … แต่ผมก็อือๆ รับเครื่องมาทดสอบให้เห็นเลยครับ ปรากฏค้างตั้งแต่เปิดเครื่องเลย ผมก็เลยบอกพนักงานว่า “อ่ะ.. เนี่ย เป็นอีกแล้วให้ทำไง ครั้งที่แล้วก็ค้างอย่างนี้ คามืออย่างนี้เลย(ถึงตอนนี้สีหน้าผมไปล่ะ บอกตรงๆใครเห็นผมอารมณ์เริ่มขึ้น คุณโชคร้ายมากครับ)” ทางพนักงานผู้หญิงก็บอกว่า”พี่เข้าใจน้อง งั้นเอางี้น้องลองนั่งทดสอบเครื่องก่อนนะ แล้วพอเป็นอีกรอบน้องให้ช่างเลย “ ผมก็บอกว่า “ได้(ด้วยน้ำเสียงประมาณว่าเดี๋ยวรู้กัน ฮ่าๆ)” … ผมก็นั่งทดสอบไปเรื่อยๆ ก็เป็นอีกครับ เลยส่งให้ช่างเลยทีนี้ “อ่ะพี่ มันเป็นอีกแล้ว ” ทางช่างก็บอกว่า “งั้นคงเป็นที่ เมนบอร์ด รอ1.30 ชั่วโมง จะเปลี่ยนให้เลย” ผมตกลงตามนั้น แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า เขาจะทำให้ผมแค่อัพ fw เหมือนเดิมเปล่าเนี่ย = =!
แล้วพอถึงเวลาก็มารับเครื่อง โอเคเครื่องปกติดีทุกอย่าง เพราะว่าเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่แล้ว (ทำไมไม่เปลี่ยนตั้งแต่วันแรกเล่า) ผมก็ไม่รีรอที่จะบอกว่า “เนี่ย ผมเปลี่ยนมา 2 รอบแล้วนะเมนบอร์ด มันจะเป็นอีกไหมเนี่ย + โครเมี่ยมที่เป็นรอยเคลมได้ไหม” ทางช่างก็บอก “หรอ จริงหรอไม่น่าเชื่อ ส่วนโครเมียมเปลี่ยนไม่ได้นะ ถือว่าเป็นจากการใช้งานของลูกค้า”แล้วก็ต่อด้วยคำพูดอีกว่า “ทางที่ดีอย่าอัพ fw เองนะ เอามาให้ศูนย์อัพให้ … แต่อย่าเอามาให้อัพบ่อยนะ ให้รอ 2-3 เดือนก่อนค่อยเอามา แค่นี้พี่ก็ไม่มีเวลาอยู่แล้ว” … ถึงจุดๆนี้ ผมก็อึ้ง แต่ก็พยายามระงับความโกรธเอาไว้(ต้องขอขอบคุณช่วงเวลา 1.30 ชั่วโมง ที่ให้ผมรอเครื่องมือถือไปอ่านหนังสือธรรมะนะครับ) แล้วก็คิดว่าช่างมัน ไหนๆก็จะขายแล้วนี่
จากนั้นพอออกจากศูนย์ผมก็ไม่รีรอที่จะไปให้ทางร้านที่รับซื้อตีราคาให้ ซึ่งได้ราคามา 8,000 บาท (ในวันที่ 14 มีนาคม 2556 )… อึ้งเล็กน้อย 21,900 บาท กำลังจะเหลือราคา 8,000 บาท แต่แล้วเมื่อใจมันอยากขายอยู่แล้ว วันต่อมาซึ่งเป็นวันที่ s4 เปิดตัว (วันนี้) ผมรีบเอาไปขายด้วยราคานึงซึ่งเป็นราคาที่จำใจต้องขายเพราะคิดว่าคงไม่มีใครให้ราคาดีกว่านี้แล้วอย่างน้อยก็ดีกว่า 8,000 บาท (ยอมขาดทุนยับเพื่อตัดปัญหา)
ความรู้สึกของผมตอนนี้ คือ ลาขาด Ss กลับมาใช้ i-mobile เครื่องละ 400 บาทปลายๆ ซึ่งอายุการใช้งานมีมากกว่าอีกครับ แถมยังต้องมาโกหกท่านแม่อีกว่า ผมขายs3 ไปด้วยราคาที่ดีแสนดี เพื่อให้ท่านสบายใจอีก … เท่านี้แหละครับที่อยากจะแชร์ ใครจะกล่าวหาว่าผมพูดไม่จริงหรืออะไรก็ได้ครับผมไม่ว่า เพราะกว่าที่ผมจะตัดสินใจโพส ผมก็แอบๆดูกระทู้เก่าๆแล้วว่า ผมอาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็น user error ได้ จุ๊บๆ