15 มีนาคม 2556 (เกาะติดประมูลDigital TV)แหล่งข่าวชี้ ประมูลแน่นอนส.ค.-ต.ค.นี้แน่นอน//สปริงนิวส์พร้อมประมูลช่องข่าว!!กำเม็ดเงินกว่า 800-1,000ลบ.//RSต้องการอีก2ช่อง
ประเด็นหลัก
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในส่วนของราคาตั้งต้นการประมูล มองว่าไม่น่าจะเริ่มนับหนึ่ง เพราะเป็นการใช้วิธีคิด (สูตรเดิม) แต่เปลี่ยนตัวเลขบางอย่างเข้าไปใหม่ โดยคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน หรือภายในเดือน เม.ย.นี้ และการประมูลจะไม่ยืดเยื้อไปถึงปี 2557 แต่จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปี 2556 หรือตามกรอบระยะเวลาการเปิดประมูลในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.นี้แน่นอน
สปริงนิวส์เตรียมระดมทุนลุยดิจิตอลทีวีสนใจช่องข่าวเพียงช่องเดียว เบื้องต้นกำเม็ดเงินกว่า 800-1,000 ล้านบาทไว้รับมือ หากสูงกว่านี้เตรียมระดมทุนเพิ่มพร้อมเปิดรับพันธมิตรร่วมชิง ฟากช่องสปริงนิวส์ปรับผังรายการข่าวใหม่ ดึง “สมเกีรยติ อ่อนวิมล” นั่งแท่นคุมทัพข่าว มั่นใจส่งรายได้รวมทั้งปีแตะ 160 ล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้ไว้ที่ 130 ล้านบาท
นายศุทธิชัย บุนนาค ประธานกรรมการ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแม่ คือ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ 1998 จำกัด (มหาชน) หรือ SLC สนใจจะเข้าประมูลช่องดิจิตอลทีวี 1 ช่อง คือ ช่องข่าว อาจจะใช้บริษัทลูกที่เพิ่งจดทะเบียน 10 ล้านบาท คือ บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ดูแลในส่วนของการขอไลเซ่นต่างๆ เข้าร่วมประมูลช่องดิจิตอลทีวีในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะต้องระดมทุนอีกครั้ง หรืออาจจะใช้บริษัท สปริงนิวส์ จำกัด เข้าร่วมประมูล มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ก็จะต้องระดมทุนเพิ่ม แต่เบื้องต้นบริษัทแม่วางสปริงนิวส์ให้เป็นบริษัทที่บริหารคอนเทนต์เป็นหลัก โดยการประมูลดิจิตอลทีวีที่เป็นช่องข่าว ทางบริษัทจะใช้ช่องสปริงนิวส์สู่แพลตฟอร์มดิจิตอลทีวี
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และกรรมการ บมจ.อาร์เอส จำกัด หรืออาร์เอส เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเข้าประมูลทีวีระบบทีวีดิจิตอล ซึ่งจะเปิดประมูลราวกลางปี เบื้องต้นคาดว่าประมูล 1-2 ช่อง อย่างไรก็ตาม แผนการเข้าร่วมประมูลทีวีระบบดิจิตอลจะขึ้นอยู่กับค่าโครงข่ายด้วย เพราะเป็นต้นทุนหลัก ซึ่งเมื่อเกิดทีวีดิจิตอลแล้ว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ที่ประสบความสำเร็จด้านการผลิตรายการในระบบทีวีดาวเทียมอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้ที่มีความพร้อมด้านการผลิตรายการมากที่สุด ทำให้มีโอกาสในการดึงเม็ดเงินโฆษณาจากผู้ประกอบการได้มากที่สุด และสำหรับผลกระทบโดยรวม เชื่อว่าจะทำให้มีผู้ผลิตและการแข่งขันจะสูงขึ้น แต่ก็จะทำให้เม็ดเงินโฆษณาเข้ามาในธุรกิจทีวีเพิ่มขึ้น และทำให้ราคาค่าโฆษณาปรับลดลงเช่นกัน.
สำนักข่าวที่อ้างอิงในประเด็นนี้
http://www.thaipost.net/news/160313/70966
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000031854
______________________________________
ยันไม่เลื่อนประมูลทีวีดิจิตอล ปรับช่องใหม่ไม่กระทบ 'อาร์เอส'พร้อมลงแข่ง
เศรษฐกิจ 16 March 2556 - 00:00
กสทช.ปฏิเสธยืดเวลาการประมูล กรณีปรับสัดส่วนทีวีดิจิตอล ฟุ้งทันกรอบเดิมแน่นอน มั่นใจไม่กระทบความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ มั่นใจเปิดประมูลได้ ส.ค.-ต.ค.56
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า กรณีการปรับสัดส่วนช่องรายการทีวีดิตอลใหม่เป็นช่องเด็กเยาวชนและครอบครัว 3 ช่องมาตรฐาน หรือสแตนดาร์ด (SD) ช่องข่าวสารและสาระ 7 ช่อง (SD) ช่องทั่วไป 7 ช่อง (SD) และช่องทั่วไป 7 ช่อง ในระบบความคมชัดสูง หรือไฮเดฟิเนชั่น (HD) นั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของ กสทช. และความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่จะเข้ามาประมูล เพราะก่อนปรับจำนวนช่องนั้น ได้ทำการศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี และส่วนใหญ่ผู้ประกอบการก็ต้องการช่อง HD มากกว่า
ส่วนตัวเชื่อว่าการปรับสัดส่วนช่องรายการใหม่จะไม่กระทบกับจำนวนผู้ประกอบการที่จะเข้ามาประมูลลดลง ที่คาดการณ์กันว่าจะเหลือเพียง 14 ราย จากเดิม 19 ราย และไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด เพราะการปรับครั้งนี้เป็นการปรับเพื่อให้เกิดความเหมาะสม และจำนวนช่องรายการยังคงอยู่ที่ 24 ช่องเหมือนเดิม
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในส่วนของราคาตั้งต้นการประมูล มองว่าไม่น่าจะเริ่มนับหนึ่ง เพราะเป็นการใช้วิธีคิด (สูตรเดิม) แต่เปลี่ยนตัวเลขบางอย่างเข้าไปใหม่ โดยคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน หรือภายในเดือน เม.ย.นี้ และการประมูลจะไม่ยืดเยื้อไปถึงปี 2557 แต่จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปี 2556 หรือตามกรอบระยะเวลาการเปิดประมูลในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.นี้แน่นอน
ทั้งนี้ ยังกังวลว่าการให้ข่าวของกรรมการแต่ละคนที่ยังไม่มีความชัดเจน อาจส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อน และมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่จะเข้ามาประมูลมากกว่าการปรับสัดส่วนช่องรายการ ขณะที่การลดจำนวนช่องเด็กลงจาก 5 ช่อง เป็น 3 ช่องนั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะจำนวนผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับเด็กในประเทศไทยมีจำนวนน้อยกว่าช่องประเภทอื่น
ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. กล่าวว่า มองว่าการลดจำนวนช่องเด็กลง ส่วนหนึ่งเกรงว่าจะไม่มีผู้เข้ามาร่วมประมูล แต่ขณะเดียวกัน อาจทำให้เกิดการแข่งขันในช่องรายการเด็กมากขึ้น
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และกรรมการ บมจ.อาร์เอส จำกัด หรืออาร์เอส เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเข้าประมูลทีวีระบบทีวีดิจิตอล ซึ่งจะเปิดประมูลราวกลางปี เบื้องต้นคาดว่าประมูล 1-2 ช่อง อย่างไรก็ตาม แผนการเข้าร่วมประมูลทีวีระบบดิจิตอลจะขึ้นอยู่กับค่าโครงข่ายด้วย เพราะเป็นต้นทุนหลัก ซึ่งเมื่อเกิดทีวีดิจิตอลแล้ว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ที่ประสบความสำเร็จด้านการผลิตรายการในระบบทีวีดาวเทียมอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้ที่มีความพร้อมด้านการผลิตรายการมากที่สุด ทำให้มีโอกาสในการดึงเม็ดเงินโฆษณาจากผู้ประกอบการได้มากที่สุด และสำหรับผลกระทบโดยรวม เชื่อว่าจะทำให้มีผู้ผลิตและการแข่งขันจะสูงขึ้น แต่ก็จะทำให้เม็ดเงินโฆษณาเข้ามาในธุรกิจทีวีเพิ่มขึ้น และทำให้ราคาค่าโฆษณาปรับลดลงเช่นกัน.
http://www.thaipost.net/news/160313/70966
______________________________________
สปริงนิวส์ดึง “สมเกียรติ อ่อนวิมล” เตรียมพันล้านลุยดิจิตอลช่องข่าว
ASTVผู้จัดการรายวัน - สปริงนิวส์เตรียมระดมทุนลุยดิจิตอลทีวีสนใจช่องข่าวเพียงช่องเดียว เบื้องต้นกำเม็ดเงินกว่า 800-1,000 ล้านบาทไว้รับมือ หากสูงกว่านี้เตรียมระดมทุนเพิ่มพร้อมเปิดรับพันธมิตรร่วมชิง ฟากช่องสปริงนิวส์ปรับผังรายการข่าวใหม่ ดึง “สมเกีรยติ อ่อนวิมล” นั่งแท่นคุมทัพข่าว มั่นใจส่งรายได้รวมทั้งปีแตะ 160 ล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้ไว้ที่ 130 ล้านบาท
นายศุทธิชัย บุนนาค ประธานกรรมการ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแม่ คือ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ 1998 จำกัด (มหาชน) หรือ SLC สนใจจะเข้าประมูลช่องดิจิตอลทีวี 1 ช่อง คือ ช่องข่าว อาจจะใช้บริษัทลูกที่เพิ่งจดทะเบียน 10 ล้านบาท คือ บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ดูแลในส่วนของการขอไลเซ่นต่างๆ เข้าร่วมประมูลช่องดิจิตอลทีวีในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะต้องระดมทุนอีกครั้ง หรืออาจจะใช้บริษัท สปริงนิวส์ จำกัด เข้าร่วมประมูล มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ก็จะต้องระดมทุนเพิ่ม แต่เบื้องต้นบริษัทแม่วางสปริงนิวส์ให้เป็นบริษัทที่บริหารคอนเทนต์เป็นหลัก โดยการประมูลดิจิตอลทีวีที่เป็นช่องข่าว ทางบริษัทจะใช้ช่องสปริงนิวส์สู่แพลตฟอร์มดิจิตอลทีวี
บริษัทฯ เตรียมงบประมาณสำหรับดิจิตอลทีวีไว้ 800-1,000 ล้านบาท ซึ่งหากราคาประมูลช่องดิจิตอลทีวีสูงกว่านี้จะต้องมีการระดมทุนเพิ่ม รวมถึงจับมือกับพันธมิตรในรูปแบบของการใช้คอนเทนต์ร่วมกันในการเข้าไปประมูลช่องดิจิตอลทีวี ซึ่งได้พูดคุยกับพันธมิตรด้านคอนเทนต์โพไวเดอร์ไว้แล้ว 2-3 ราย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของช่องสปริงนิวส์นั้น ปีนี้มีการปรับผังรายการใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มรายการข่าว ได้นายสมเกียรติ อ่อนวิมล เข้ามาร่วมทำงานในตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหารสายงานข่าวและรายการ ดูแลกลุ่มรายการข่าวโดยเฉพาะ มีการปรับรายการข่าวใหม่กว่า 10 รายการ และมีรายการข่าวใหม่เข้ามา 1 รายการ คือ สปริงรีพอร์ต ส่งผลให้ต่อวันมีรายการข่าวรวมกว่า 4-5 ชม.ต่อวัน จากบุคลากรด้านข่าวรวมกว่า 200 คน เป็นผู้สื่อข่าว 10 กว่าคน และทีมกล้อง 20 ทีม ภายใต้ราคาโฆษณา สปอตไพรม์ A ราคา 40,000 บาทต่อนาที และสปอตไพรม์ B ราคา 30,000 บาทต่อนาที
นายศุทธิชัยกล่าวต่อว่า เดิมสปริงนิวส์วางเป้าหมายคุ้มทุนไว้ที่ 3 ปี ซึ่งในปีที่ 3 ที่จบไปเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมายังไม่สามารถคุ้มทุนได้ แต่ในแง่ของรายได้ถือว่าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาปิดรายได้ที่ 130 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 4 จากการปรับผังรายการข่าวใหม่ที่จะเริ่มในวันที่ 18 มี.ค.นี้เป็นต้นไป ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ภายใต้สโลแกน “เรื่องจริง สปริงนิวส์” มั่นใจว่าปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 30-35% หรือน่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 160 ล้านบาท
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000031854 
(เกาะติดประมูลDigital TV)แหล่งข่าวชี้ ประมูลแน่นอนส.ค.-ต.ค.นี้แน่นอน//สปริงนิวส์กำเม็ด800-1,000ลบ.//RSต้องการอีก2ช่อง
ประเด็นหลัก
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในส่วนของราคาตั้งต้นการประมูล มองว่าไม่น่าจะเริ่มนับหนึ่ง เพราะเป็นการใช้วิธีคิด (สูตรเดิม) แต่เปลี่ยนตัวเลขบางอย่างเข้าไปใหม่ โดยคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน หรือภายในเดือน เม.ย.นี้ และการประมูลจะไม่ยืดเยื้อไปถึงปี 2557 แต่จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปี 2556 หรือตามกรอบระยะเวลาการเปิดประมูลในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.นี้แน่นอน
สปริงนิวส์เตรียมระดมทุนลุยดิจิตอลทีวีสนใจช่องข่าวเพียงช่องเดียว เบื้องต้นกำเม็ดเงินกว่า 800-1,000 ล้านบาทไว้รับมือ หากสูงกว่านี้เตรียมระดมทุนเพิ่มพร้อมเปิดรับพันธมิตรร่วมชิง ฟากช่องสปริงนิวส์ปรับผังรายการข่าวใหม่ ดึง “สมเกีรยติ อ่อนวิมล” นั่งแท่นคุมทัพข่าว มั่นใจส่งรายได้รวมทั้งปีแตะ 160 ล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้ไว้ที่ 130 ล้านบาท
นายศุทธิชัย บุนนาค ประธานกรรมการ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแม่ คือ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ 1998 จำกัด (มหาชน) หรือ SLC สนใจจะเข้าประมูลช่องดิจิตอลทีวี 1 ช่อง คือ ช่องข่าว อาจจะใช้บริษัทลูกที่เพิ่งจดทะเบียน 10 ล้านบาท คือ บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ดูแลในส่วนของการขอไลเซ่นต่างๆ เข้าร่วมประมูลช่องดิจิตอลทีวีในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะต้องระดมทุนอีกครั้ง หรืออาจจะใช้บริษัท สปริงนิวส์ จำกัด เข้าร่วมประมูล มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ก็จะต้องระดมทุนเพิ่ม แต่เบื้องต้นบริษัทแม่วางสปริงนิวส์ให้เป็นบริษัทที่บริหารคอนเทนต์เป็นหลัก โดยการประมูลดิจิตอลทีวีที่เป็นช่องข่าว ทางบริษัทจะใช้ช่องสปริงนิวส์สู่แพลตฟอร์มดิจิตอลทีวี
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และกรรมการ บมจ.อาร์เอส จำกัด หรืออาร์เอส เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเข้าประมูลทีวีระบบทีวีดิจิตอล ซึ่งจะเปิดประมูลราวกลางปี เบื้องต้นคาดว่าประมูล 1-2 ช่อง อย่างไรก็ตาม แผนการเข้าร่วมประมูลทีวีระบบดิจิตอลจะขึ้นอยู่กับค่าโครงข่ายด้วย เพราะเป็นต้นทุนหลัก ซึ่งเมื่อเกิดทีวีดิจิตอลแล้ว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ที่ประสบความสำเร็จด้านการผลิตรายการในระบบทีวีดาวเทียมอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้ที่มีความพร้อมด้านการผลิตรายการมากที่สุด ทำให้มีโอกาสในการดึงเม็ดเงินโฆษณาจากผู้ประกอบการได้มากที่สุด และสำหรับผลกระทบโดยรวม เชื่อว่าจะทำให้มีผู้ผลิตและการแข่งขันจะสูงขึ้น แต่ก็จะทำให้เม็ดเงินโฆษณาเข้ามาในธุรกิจทีวีเพิ่มขึ้น และทำให้ราคาค่าโฆษณาปรับลดลงเช่นกัน.
สำนักข่าวที่อ้างอิงในประเด็นนี้
http://www.thaipost.net/news/160313/70966
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000031854
______________________________________
ยันไม่เลื่อนประมูลทีวีดิจิตอล ปรับช่องใหม่ไม่กระทบ 'อาร์เอส'พร้อมลงแข่ง
เศรษฐกิจ 16 March 2556 - 00:00
กสทช.ปฏิเสธยืดเวลาการประมูล กรณีปรับสัดส่วนทีวีดิจิตอล ฟุ้งทันกรอบเดิมแน่นอน มั่นใจไม่กระทบความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ มั่นใจเปิดประมูลได้ ส.ค.-ต.ค.56
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า กรณีการปรับสัดส่วนช่องรายการทีวีดิตอลใหม่เป็นช่องเด็กเยาวชนและครอบครัว 3 ช่องมาตรฐาน หรือสแตนดาร์ด (SD) ช่องข่าวสารและสาระ 7 ช่อง (SD) ช่องทั่วไป 7 ช่อง (SD) และช่องทั่วไป 7 ช่อง ในระบบความคมชัดสูง หรือไฮเดฟิเนชั่น (HD) นั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของ กสทช. และความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่จะเข้ามาประมูล เพราะก่อนปรับจำนวนช่องนั้น ได้ทำการศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี และส่วนใหญ่ผู้ประกอบการก็ต้องการช่อง HD มากกว่า
ส่วนตัวเชื่อว่าการปรับสัดส่วนช่องรายการใหม่จะไม่กระทบกับจำนวนผู้ประกอบการที่จะเข้ามาประมูลลดลง ที่คาดการณ์กันว่าจะเหลือเพียง 14 ราย จากเดิม 19 ราย และไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด เพราะการปรับครั้งนี้เป็นการปรับเพื่อให้เกิดความเหมาะสม และจำนวนช่องรายการยังคงอยู่ที่ 24 ช่องเหมือนเดิม
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในส่วนของราคาตั้งต้นการประมูล มองว่าไม่น่าจะเริ่มนับหนึ่ง เพราะเป็นการใช้วิธีคิด (สูตรเดิม) แต่เปลี่ยนตัวเลขบางอย่างเข้าไปใหม่ โดยคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน หรือภายในเดือน เม.ย.นี้ และการประมูลจะไม่ยืดเยื้อไปถึงปี 2557 แต่จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปี 2556 หรือตามกรอบระยะเวลาการเปิดประมูลในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.นี้แน่นอน
ทั้งนี้ ยังกังวลว่าการให้ข่าวของกรรมการแต่ละคนที่ยังไม่มีความชัดเจน อาจส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อน และมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่จะเข้ามาประมูลมากกว่าการปรับสัดส่วนช่องรายการ ขณะที่การลดจำนวนช่องเด็กลงจาก 5 ช่อง เป็น 3 ช่องนั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะจำนวนผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับเด็กในประเทศไทยมีจำนวนน้อยกว่าช่องประเภทอื่น
ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. กล่าวว่า มองว่าการลดจำนวนช่องเด็กลง ส่วนหนึ่งเกรงว่าจะไม่มีผู้เข้ามาร่วมประมูล แต่ขณะเดียวกัน อาจทำให้เกิดการแข่งขันในช่องรายการเด็กมากขึ้น
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และกรรมการ บมจ.อาร์เอส จำกัด หรืออาร์เอส เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเข้าประมูลทีวีระบบทีวีดิจิตอล ซึ่งจะเปิดประมูลราวกลางปี เบื้องต้นคาดว่าประมูล 1-2 ช่อง อย่างไรก็ตาม แผนการเข้าร่วมประมูลทีวีระบบดิจิตอลจะขึ้นอยู่กับค่าโครงข่ายด้วย เพราะเป็นต้นทุนหลัก ซึ่งเมื่อเกิดทีวีดิจิตอลแล้ว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ที่ประสบความสำเร็จด้านการผลิตรายการในระบบทีวีดาวเทียมอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้ที่มีความพร้อมด้านการผลิตรายการมากที่สุด ทำให้มีโอกาสในการดึงเม็ดเงินโฆษณาจากผู้ประกอบการได้มากที่สุด และสำหรับผลกระทบโดยรวม เชื่อว่าจะทำให้มีผู้ผลิตและการแข่งขันจะสูงขึ้น แต่ก็จะทำให้เม็ดเงินโฆษณาเข้ามาในธุรกิจทีวีเพิ่มขึ้น และทำให้ราคาค่าโฆษณาปรับลดลงเช่นกัน.
http://www.thaipost.net/news/160313/70966
______________________________________
สปริงนิวส์ดึง “สมเกียรติ อ่อนวิมล” เตรียมพันล้านลุยดิจิตอลช่องข่าว
ASTVผู้จัดการรายวัน - สปริงนิวส์เตรียมระดมทุนลุยดิจิตอลทีวีสนใจช่องข่าวเพียงช่องเดียว เบื้องต้นกำเม็ดเงินกว่า 800-1,000 ล้านบาทไว้รับมือ หากสูงกว่านี้เตรียมระดมทุนเพิ่มพร้อมเปิดรับพันธมิตรร่วมชิง ฟากช่องสปริงนิวส์ปรับผังรายการข่าวใหม่ ดึง “สมเกีรยติ อ่อนวิมล” นั่งแท่นคุมทัพข่าว มั่นใจส่งรายได้รวมทั้งปีแตะ 160 ล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้ไว้ที่ 130 ล้านบาท
นายศุทธิชัย บุนนาค ประธานกรรมการ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแม่ คือ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ 1998 จำกัด (มหาชน) หรือ SLC สนใจจะเข้าประมูลช่องดิจิตอลทีวี 1 ช่อง คือ ช่องข่าว อาจจะใช้บริษัทลูกที่เพิ่งจดทะเบียน 10 ล้านบาท คือ บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ดูแลในส่วนของการขอไลเซ่นต่างๆ เข้าร่วมประมูลช่องดิจิตอลทีวีในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะต้องระดมทุนอีกครั้ง หรืออาจจะใช้บริษัท สปริงนิวส์ จำกัด เข้าร่วมประมูล มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ก็จะต้องระดมทุนเพิ่ม แต่เบื้องต้นบริษัทแม่วางสปริงนิวส์ให้เป็นบริษัทที่บริหารคอนเทนต์เป็นหลัก โดยการประมูลดิจิตอลทีวีที่เป็นช่องข่าว ทางบริษัทจะใช้ช่องสปริงนิวส์สู่แพลตฟอร์มดิจิตอลทีวี
บริษัทฯ เตรียมงบประมาณสำหรับดิจิตอลทีวีไว้ 800-1,000 ล้านบาท ซึ่งหากราคาประมูลช่องดิจิตอลทีวีสูงกว่านี้จะต้องมีการระดมทุนเพิ่ม รวมถึงจับมือกับพันธมิตรในรูปแบบของการใช้คอนเทนต์ร่วมกันในการเข้าไปประมูลช่องดิจิตอลทีวี ซึ่งได้พูดคุยกับพันธมิตรด้านคอนเทนต์โพไวเดอร์ไว้แล้ว 2-3 ราย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของช่องสปริงนิวส์นั้น ปีนี้มีการปรับผังรายการใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มรายการข่าว ได้นายสมเกียรติ อ่อนวิมล เข้ามาร่วมทำงานในตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหารสายงานข่าวและรายการ ดูแลกลุ่มรายการข่าวโดยเฉพาะ มีการปรับรายการข่าวใหม่กว่า 10 รายการ และมีรายการข่าวใหม่เข้ามา 1 รายการ คือ สปริงรีพอร์ต ส่งผลให้ต่อวันมีรายการข่าวรวมกว่า 4-5 ชม.ต่อวัน จากบุคลากรด้านข่าวรวมกว่า 200 คน เป็นผู้สื่อข่าว 10 กว่าคน และทีมกล้อง 20 ทีม ภายใต้ราคาโฆษณา สปอตไพรม์ A ราคา 40,000 บาทต่อนาที และสปอตไพรม์ B ราคา 30,000 บาทต่อนาที
นายศุทธิชัยกล่าวต่อว่า เดิมสปริงนิวส์วางเป้าหมายคุ้มทุนไว้ที่ 3 ปี ซึ่งในปีที่ 3 ที่จบไปเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมายังไม่สามารถคุ้มทุนได้ แต่ในแง่ของรายได้ถือว่าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาปิดรายได้ที่ 130 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 4 จากการปรับผังรายการข่าวใหม่ที่จะเริ่มในวันที่ 18 มี.ค.นี้เป็นต้นไป ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ภายใต้สโลแกน “เรื่องจริง สปริงนิวส์” มั่นใจว่าปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 30-35% หรือน่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 160 ล้านบาท
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000031854