เรื่องดี ๆ จากแมวจร ใน Office

เรื่องดี ๆ จากแมวจร ใน Office
เรื่องมันเริ่มในช่วงเที่ยงของวันที่อากาศร้อน พนักงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งต่างกันขวักไขว่ เพื่อมุ่งหน้าไปทานอาหารกลางวัน มีบางกลุ่มหยุดยืนสนทนาอยู่ตรงหน้าร้านขายของหน้าตึก จนบางคนสงสัยหยุดฟังว่าคุยเรื่องอะไรกัน จับใจความได้ว่า


“แมวจรที่อาศัยอยู่แถวสำนักงาน ไปทำความเดือนร้อน ข่วนเบาะรถมอเตอร์ไซด์ ทำแจกันศาลพระภูมิแตก และทำความเดือนร้อนอื่น ๆ จนมีคำสั่งออกมาว่า แมวจรเหล่านี้จะต้องถูกนำไปปล่อยที่อื่น ซึ่งตอนนี้บางส่วนถูกนำไปปล่อยแล้ว เหลือแมวแม่ลูกอ้วนถ้วน 2 ตัว ที่ร้านค้าให้อาหารกินตลอด แต่ก็จะถูกนำไปปล่อยที่อื่นภายในอาทิตย์นี้”


เหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เกิดขึ้นให้ได้ยินข่าวกันบ่อย ๆ ในอาคารหลายแห่ง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าความเดือนร้อนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสัตว์จรเหล่านี้ไม่ว่าจะแมวหรือหมา ความรู้สึกของคนที่ได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน ถ้าคนที่มีจิตใจเมตตารักสัตว์จะไม่รู้สึกเป็นเรื่องใหญ่ หรือไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่กับคนที่ไม่รัก หรือเฉย ๆ ไม่ใช่คนเหล่านั้นไม่มีเมตตา แต่ความสนใจกับความเตตาของเขาเหล่านั้นมุ่งไปทางอื่นที่ไม่ใช่กับพวกเหล่าสัตว์จร ความคิดทัศนคติไม่เหมือนกัน ความอดทนต่อความเดือนร้อนเสียหายที่เกิดขึ้นจากสัตว์จรจึงให้ความรู้สึกที่ต่างกัน สำหรับอาคารสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้มีข้อยกเว้น


ข่าวเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับแมวอ้วน 2 แม่ลูกถูกบอกกันปากต่อปากในเวลารวดเร็วไม่กี่นาที บางคนหยุดยืนคุยกันหน้าร้านค้าเกี่ยวกับแมว ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักไม่เคยคุยกันมาก่อน บางคนก็ได้รู้ว่า คนที่เคยร่วมงานด้วยผิวเผิน อ้าว ชอบแมว รักแมวเหมือนกันนี่ หลายคนที่แปลกหน้าทั้งที่ทำงานในที่เดียวกันกำลังต่างคนต่างหาทางช่วยเหลือแมวแม่ลูก ไม่ว่าจะเป็นบางคนทำป้ายไปติดหาคนอุปการะ หรือแม้แต่การ E-mail ให้กับคนทั้งบริษัทเพื่อแจ้งข่าวและหาคนอุปการะ จนในที่สุดก็มีข่าวดี มีผู้ที่สนใจอุปการะแมวแม่ลูกทั้ง 2 ตัวพร้อมกัน และเตรียมเคลื่อนย้ายไปสู่เจ้าของใหม่ ในวันต่อมา


ในสังคมเมืองที่ดูเหมือนน้ำใจหาได้ยากเต็มที ต่างคนต่างเร่งรีบ ต่างคนต่างต้องทำงานเพื่อหาเงิน ยิ่งบริษัทระดับกลางถึงใหญ่แล้วล่ะก็ บางคนแทบไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ เดินสวนกันเราก็ไม่เคยแม้แต่จะยิ้มให้กัน ไม่เว้นแม้แต่สถานทำงานแห่งนี้ที่มีตึกตระหง่านระฟ้าเป็นของตัวเอง พนักงานมากมายรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองอยู่ตามชั้นต่าง ๆ ไปจนถึงพนักงานที่ต้องทำงานจากนอกบริษัทรวมแล้วนับได้เป็นพัน  บางครั้งเราเจอกันตามป้ายรถเมล์ BTS หรือสถานที่ต่าง ๆ ใส่เสื้อบริษัทเดียวกัน แต่พวกเราก็ไม่เคยยิ้มให้กัน อย่าว่าแต่คนที่ทำงานต่างชั้นกันเลย แม้แต่คนที่นั่งทำงานชั้นเดียวกัน บางคนเราก็ไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำไป


แต่แมวจรกลุ่มหนึ่ง ทำให้ได้รู้ว่า ในหมู่พนักงานนับพัน มีคนจำนวนหนึ่งที่เราเคยเดินผ่านกันโดยไม่ได้ทักทาย หรือทำงานร่วมกันโดยหน้าที่ พวกเขาเหล่านั้นมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีเมตตา และรักสัตว์เหมือนกัน น้ำใจความเมตตา ยังไม่ได้หายไปจากสังคมเมืองหลวง เพียงแต่พวกเราอาจจะยังไม่เคยได้พูดคุยกัน หรือสังเกตถึงสิ่งที่เป็นความสนใจของกันและกันเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่