จากกระแสสื่อสังคมออนไลน์ที่มีข่าวว่า ปี ๒๕๕๖ ทางหน่วยงานท่องเที่ยว งดจัดงานประติมากรรมเทียนพรรษานานาชาติอุบลราชธานี และย้ายไปจัดที่จังหวัดอื่นแทน อีกทั้งมอบเงินสนับสนุนให้กับทางจังหวัด ๓๐๐,๐๐๐ บาท ในการจัดงาน ซึ่งนับวันทางหน่วยงานที่ดูแลการท่องเที่ยว ยิ่งให้งบประมาณสนับสนุนน้อยลง
ในปี ๒๕๕๕ ที่ทางจังหวัดอุบลราชธานีจัดงานประเพณีฉลองครบรอบ ๑๑๑ ปี ของการจัดงาน ทางหน่วยงานที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวได้มอบเงินสนับสนุนให้กับทางจังหวัดเป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท เทศบาลนครอุบลราชธานีนคร ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท อบจ สนับสนุน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท และหน่วยงานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างร้าน หน่วยงาน ประชาชนทุกคนได้ร่วมมือกันจัดงานจนประสบผลสำเร็จมาแล้ว
แต่หลังจากที่มีกระแสข่าวลือว่า ปีนี้งบสนับสนุนจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวให้มาจัดงานเพียง ๓๐๐,๐๐๐ บาท และยกเลิกกิจกรรมงานประติมากรรมงานเทียนนานาชาติที่อุบลและย้ายไปจังหวัดอื่นแทน เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงและกว่าถึงของชาวเนตในจังหวัดอุบลราชธานี บ้างก็แสดงความคิดเห็นว่า
" ... แต่สิ่งหนึ่งที่จังหวัด ... ไม่สามารถดึงไปได้คีอจิตวิญญาณของการทำเทียนพรรษาเพราะจังหวัด .... ไม่มีรากเหง้าวัฒนธรรมเทียนพรรษา สิ่งที่เขาทำได้คือแค่แท่งเทียนที่ไปส่งเสริมการท่องเที่ยว อุบลราชธานีต้องกลับมาทบทวนการจัดงาน ที่ผ่านมาภาครัฐมีบทบาทมาก ภาคธุรกิจมีส่วนร่วมน้อยทั้งที่ได้ประโยชน์จากงานแห่เทียนเต็มๆ ถ้าหอการค้าจับมือกับผู้ประกอบการเหมือนอุดรธานี เหมือนโคราช เหมือนขอนแก่นบวกพลังประชาชน ทำไมเราจะจัดงานให้ยิ่งใหญ่ไม่ได้ เพราะอุบลราชธานีคือจุดกำเนิดวัฒนธรรมเทียนพรรษาไม่ใช่หรือ "
"ผมเป็นอีกคนที่ไปทำต้นเทียนที่....ถ้าไม่มีเงินงานเทียนที่.......นี้ก็ตาย...ไม่เหมือนอุบลที่เป็นแกนแท้ของงานเทียนพรรษา..112 ปีแห่การสืบสานตำนานเทียนพรรษาเมืองอุบล.."
"ชาวอุบลฯและชาว .... แผ่(บริจาค) เงินกันดีบ่จะเอาไปสมทบรางวัลต้นเทียนทั้งหมด แอดมินบ่กินหัวคิวดอกครับมีท่อได๋ให้เบิ่ด ขอไปมอบให้เองโลด เอาบ่ครับ....ถ้าเอายกมือขึ้นครับ จะได้เป็นกระแสหน่อยว่าแห่เทียนอุบลฯมันเป็นจิตวิญญาณคนอุบลฯจริงๆ ได้สืบลมหายใจต่อก็เพราะคนอุบลฯโดยแท้จริง"
นี่จะเป็นเพียงกระแสที่เหมือนไฟไหม้ฟาง หรือนี่จะเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่ง ของชาวอุบล ที่จะสืบสานงานศิลป์ ถิ่นสุกลช่างเทียนเมืองอุบล เอาไว้ .....
*** แก้ไขตัวเลขเป็น ๓๐๐,๐๐๐ บาท ***
อุบลดิ้น ... จัดแห่เทียน ๒๕๕๖ ยิ่งใหญ่ ด้วยงบประมาณจัดงานจากส่วนกลางกว่า 3 แสนบาท!!!
ในปี ๒๕๕๕ ที่ทางจังหวัดอุบลราชธานีจัดงานประเพณีฉลองครบรอบ ๑๑๑ ปี ของการจัดงาน ทางหน่วยงานที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวได้มอบเงินสนับสนุนให้กับทางจังหวัดเป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท เทศบาลนครอุบลราชธานีนคร ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท อบจ สนับสนุน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท และหน่วยงานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างร้าน หน่วยงาน ประชาชนทุกคนได้ร่วมมือกันจัดงานจนประสบผลสำเร็จมาแล้ว
แต่หลังจากที่มีกระแสข่าวลือว่า ปีนี้งบสนับสนุนจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวให้มาจัดงานเพียง ๓๐๐,๐๐๐ บาท และยกเลิกกิจกรรมงานประติมากรรมงานเทียนนานาชาติที่อุบลและย้ายไปจังหวัดอื่นแทน เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงและกว่าถึงของชาวเนตในจังหวัดอุบลราชธานี บ้างก็แสดงความคิดเห็นว่า
" ... แต่สิ่งหนึ่งที่จังหวัด ... ไม่สามารถดึงไปได้คีอจิตวิญญาณของการทำเทียนพรรษาเพราะจังหวัด .... ไม่มีรากเหง้าวัฒนธรรมเทียนพรรษา สิ่งที่เขาทำได้คือแค่แท่งเทียนที่ไปส่งเสริมการท่องเที่ยว อุบลราชธานีต้องกลับมาทบทวนการจัดงาน ที่ผ่านมาภาครัฐมีบทบาทมาก ภาคธุรกิจมีส่วนร่วมน้อยทั้งที่ได้ประโยชน์จากงานแห่เทียนเต็มๆ ถ้าหอการค้าจับมือกับผู้ประกอบการเหมือนอุดรธานี เหมือนโคราช เหมือนขอนแก่นบวกพลังประชาชน ทำไมเราจะจัดงานให้ยิ่งใหญ่ไม่ได้ เพราะอุบลราชธานีคือจุดกำเนิดวัฒนธรรมเทียนพรรษาไม่ใช่หรือ "
"ผมเป็นอีกคนที่ไปทำต้นเทียนที่....ถ้าไม่มีเงินงานเทียนที่.......นี้ก็ตาย...ไม่เหมือนอุบลที่เป็นแกนแท้ของงานเทียนพรรษา..112 ปีแห่การสืบสานตำนานเทียนพรรษาเมืองอุบล.."
"ชาวอุบลฯและชาว .... แผ่(บริจาค) เงินกันดีบ่จะเอาไปสมทบรางวัลต้นเทียนทั้งหมด แอดมินบ่กินหัวคิวดอกครับมีท่อได๋ให้เบิ่ด ขอไปมอบให้เองโลด เอาบ่ครับ....ถ้าเอายกมือขึ้นครับ จะได้เป็นกระแสหน่อยว่าแห่เทียนอุบลฯมันเป็นจิตวิญญาณคนอุบลฯจริงๆ ได้สืบลมหายใจต่อก็เพราะคนอุบลฯโดยแท้จริง"
นี่จะเป็นเพียงกระแสที่เหมือนไฟไหม้ฟาง หรือนี่จะเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่ง ของชาวอุบล ที่จะสืบสานงานศิลป์ ถิ่นสุกลช่างเทียนเมืองอุบล เอาไว้ .....
*** แก้ไขตัวเลขเป็น ๓๐๐,๐๐๐ บาท ***