ก่อนอื่นต้องขอเล่าที่มาที่ไปก่อนนะครับ คือเมื่อวันพฤหัสฯที่ 7 มี.ค. 56 ที่ผ่านมา ผมได้ไปผ่าฟันคุดมาครับ ซึ่งเป็นการปวดฟันคุดและผ่าฟันคุดครั้งแรกในชีวิต โดยก่อนที่จะตัดสินใจผ่าฟันคุด ผมมีอาการปวดกรามอย่างรุนแรง เคี้ยวอาหารไม่ได้โดยไม่รู้สาเหตุ และอาการได้ลุกลามถึงขั้นปวดหัวหน่วงๆอยู่ตลอดเวลา ผมทนปวดอยู่ประมาณ 5 - 6 วัน จนอาการปวดเริ่มลดลง จนผมเริ่มสังเกตุได้ว่าต้นเหตุของอาการปวดน่าจะมาจากฟันกรามด้านบนซี่สุดท้าย เลยไปปรึกษาหมอฟันที่คลินิกทำฟันแถวบ้าน
คุณหมอจึงได้ทำการเอ็กเรย์ตรวจดูแล้วพบว่าเกิดจากฟันกรามด้านบนซี่สุดท้ายคุดอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดทั้งหมด และคุณหมอ
แนะนำให้ผ่าฟันคุดออก ซึ่งผมก็ตกลงผ่าในวันนั้นเลย
ช่วงที่ผ่าฟันคุดใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาที ฉีดยาชาไป 2 เข็ม แต่ในช่วงที่ทรมานที่สุด คือช่วงระหว่างการผ่าฟันคุด คือหมอให้อ้าปากกว้างๆค้างอยู่อย่างนั้นตลอด 30 นาที มีพักเบรคให้บ้วนปาก 1 ครั้ง ช่วงระหว่างที่ทำการผ่าฟันคุดนั้นรู้สึกได้ถึงแรงกดและเสียดสีของเครื่องมือที่มุมปาก รู้สึกแสบมากๆแต่พูดไม่ได้ ได้แต่อดทนไว้อยากให้มันเสร็จไวๆ แต่ความรุนแรงก็ยังถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุด ทั้งแรงกด แรงงัด ซึ่งรู้สึกได้ถึงแรงกดทับที่บริเวณหัวของตัวเอง
ผมมีอาการเกร็งคอและขืนตอบสนองจากแรงที่คุณหมอได้กดลงมา ผลปรากฎว่าหลังจากที่ถอดฟันคุดจนสำเร็จ รู้สึกได้ว่าปวดกรามมากและคอเคล็ดแถมยังมีอาการแสบที่มุมปากอย่างรุนแรง พอไปดูที่กระจกปรากฎว่า มุมปากด้านที่ผ่าฟันคุดฉีกและมีเลือดไหลซึมอยู่
ตลอดเวลา แต่ตอนนั้นก็พูดไม่ได้แล้ว เพราะกัดผ้าก๊อซอยู่ แล้วหมอก็ให้ดูฟันคุดที่ถอนออกมา ซึ่งซี่ใหญ่มาก และรากฟันก็ยาวมาก จึงคิดในใจว่ามันน่าจะเป็นฟันซี่ยาก ทำให้เวลาถอนต้องใช้ความรุนแรงขนาดนี้ ยอมรับว่ามีขุ่นเคืองใจบ้างแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จ่ายเงินเสร็จแล้วก็กลับบ้าน
พอตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้น มีอาการปวดและอักเสบแผลฟันคุด รวมถึงอาการเจ็บแผลปากฉีกมาก แถมด้วยอาการมีไข้ จึงได้ลางาน
สรุปผมเป็นไข้ต่อเนื่องหลังจากผ่าฟันคุดอีก 3 วัน คือ ศุกร์- อาทิตย์ วันจันทร์อาการถึงจะดีขึ้นแล้วกลับมาทำงานได้ตามปกติ ส่วนยาที่คุณหมอให้มารับประทานคือ ยาแก้ปวด I-Profen และยาฆ่าเชื้อเม็ดสีเขียว
ขั้นตอนการดูแลรักษาและทำความสะอาดหลังจากผ่าฟันคุด ผมก็การดูแลรักษาตามคำแนะนำคุณหมอทุกอย่าง คือวันแรกประคบเย็น วันต่อมาประคบอุ่น ทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัด แล้วทำความสะอาดฟันโดยการแปรงฟันเบาๆ หลีกเลี่ยงบริเวณแผลอย่าไปรบกวน แล้วให้บ้วนปากด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือหลังอาหารทุกครั้ง วันละ 3 - 4 ครั้ง ซึ่งผมก็ทำตามที่คุณหมอแนะนำทุกอย่าง
ตอนนี้ผ่านมา 5 วันแล้ว อาการเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ แผลปากฉีกเริ่มตกสะเก็ด สามารถอ้าปากได้มากขึ้น ส่วนแผลฟันคุดก็ปวดตุบๆเป็นพักๆหลังจากหมดฤทธ์ยา
***แต่อาการข้างเคียงที่ตามมาคือ ทุกครั้งที่ทำการบ้วนปากโดยน้ำอุ่นผสมเกลือ โดยบ้วนแบบเบาๆแต่เน้นๆไปที่แผลผ่าฟันคุด จะรู้สึกได้ว่าน้ำส่วนหนึ่งจะไหลซึมผ่านแผลผ่าฝันคุดที่เป็นรูโบ๋ๆอยู่บริเวณฟันกรามด้านบนซี่สุดท้าย แล้วน้ำดังกล่าวจะไหลขึ้นมาออกทางรูจมูกด้านที่ผ่าฟันคุด หรือในบางครั้งน้ำจะไหลออกมาทางรูจมูกทั้ง 2 ด้าน พร้อมกับมีน้ำช้ำเลือดช้ำหนองไหลปะปนออกมาด้วยทุกครั้ง และมีกลิ่นเหม็น ซึ่งน้ำช้ำเลือดช้ำหนองจะไหลปะปนออกมาในการบ้วนปากครั้งที่ 1 - 2 เยอะหน่อย ผมจะต้องบ้วนปากซ้ำอย่างน้อยประมาณ 3 - 4 ครั้ง ถึงจะหมดไป ผลที่ตามมาก็คือจะรู้สึกแสบโพรงจมูกทุกครั้งหลังจากที่บ้วนปากเสร็จเพราะน้ำเกลืออุ่นๆจะไหลผ่าน แต่ผลดีที่ได้รับก็คือจะรู้สึกโล่งและสะอาดบริเวณแผลผ่าฟัดคุดทุกครั้งหลังจากการบ้วนปากด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ
คำถาม :
1.แผลผ่าฟันคุดของผมเกิดการติดเชื้อใช่ไหมครับ ถึงได้มีน้ำช้ำเลือดช้ำหนองไหลออกมา และ มีกลิ่นเหม็น
2.รู้สึกไม่มั่นใจเรื่องกลิ่นปาก พยายามจะบ้วนปากทุกครั้งที่รู้สึกว่ามีกลิ่น บางวันบ้วนปากถี่มาก จะเป็นการรบกวนทำให้แผลหายช้าไหมครับ
3.อยากทราบว่าอาการน้ำที่ไหลซึมผ่านแผลผ่าฟันคุดไปออกที่จมูก เป็นอาการผิดปกติหรือไม่ ควรไปให้หมอฟันตรวจดูอาการไหมครับ ซึ่งตอนนี้เหลือเวลาอีก 2 วัน ก็จะถึงเวลาที่นัดตัดไหมแล้ว
4.ผมควรกลับไปตัดไหมที่คลินิกเดิมไหม หรือ ควรไปคลินิกใหม่ดี โดยส่วนตัวค่อนข้างเข็ดกับคลินิกเดิมที่ทำให้ผมปากฉีกแถมมาด้วย จนถึงวันนี้แผลปากฉีกของผมก็ยังระบมไม่หายเลยครับ
ขอขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าสำหรับคำตอบ และ คำแนะนำนะครับ
ปล.ผมเล่าเหตุการณ์ค่อนข้างละเอียดนึดนึงซึ่งมันอาจจะยาวไปซักหน่อย ทั้งนี้เผื่อข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะผ่าฟันคุดต่อไปครับ
ผ่าฟันคุดแผลอักเสบติดเชื้อ ควรทำอย่างไร?
คุณหมอจึงได้ทำการเอ็กเรย์ตรวจดูแล้วพบว่าเกิดจากฟันกรามด้านบนซี่สุดท้ายคุดอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดทั้งหมด และคุณหมอ
แนะนำให้ผ่าฟันคุดออก ซึ่งผมก็ตกลงผ่าในวันนั้นเลย
ช่วงที่ผ่าฟันคุดใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาที ฉีดยาชาไป 2 เข็ม แต่ในช่วงที่ทรมานที่สุด คือช่วงระหว่างการผ่าฟันคุด คือหมอให้อ้าปากกว้างๆค้างอยู่อย่างนั้นตลอด 30 นาที มีพักเบรคให้บ้วนปาก 1 ครั้ง ช่วงระหว่างที่ทำการผ่าฟันคุดนั้นรู้สึกได้ถึงแรงกดและเสียดสีของเครื่องมือที่มุมปาก รู้สึกแสบมากๆแต่พูดไม่ได้ ได้แต่อดทนไว้อยากให้มันเสร็จไวๆ แต่ความรุนแรงก็ยังถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุด ทั้งแรงกด แรงงัด ซึ่งรู้สึกได้ถึงแรงกดทับที่บริเวณหัวของตัวเอง
ผมมีอาการเกร็งคอและขืนตอบสนองจากแรงที่คุณหมอได้กดลงมา ผลปรากฎว่าหลังจากที่ถอดฟันคุดจนสำเร็จ รู้สึกได้ว่าปวดกรามมากและคอเคล็ดแถมยังมีอาการแสบที่มุมปากอย่างรุนแรง พอไปดูที่กระจกปรากฎว่า มุมปากด้านที่ผ่าฟันคุดฉีกและมีเลือดไหลซึมอยู่
ตลอดเวลา แต่ตอนนั้นก็พูดไม่ได้แล้ว เพราะกัดผ้าก๊อซอยู่ แล้วหมอก็ให้ดูฟันคุดที่ถอนออกมา ซึ่งซี่ใหญ่มาก และรากฟันก็ยาวมาก จึงคิดในใจว่ามันน่าจะเป็นฟันซี่ยาก ทำให้เวลาถอนต้องใช้ความรุนแรงขนาดนี้ ยอมรับว่ามีขุ่นเคืองใจบ้างแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จ่ายเงินเสร็จแล้วก็กลับบ้าน
พอตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้น มีอาการปวดและอักเสบแผลฟันคุด รวมถึงอาการเจ็บแผลปากฉีกมาก แถมด้วยอาการมีไข้ จึงได้ลางาน
สรุปผมเป็นไข้ต่อเนื่องหลังจากผ่าฟันคุดอีก 3 วัน คือ ศุกร์- อาทิตย์ วันจันทร์อาการถึงจะดีขึ้นแล้วกลับมาทำงานได้ตามปกติ ส่วนยาที่คุณหมอให้มารับประทานคือ ยาแก้ปวด I-Profen และยาฆ่าเชื้อเม็ดสีเขียว
ขั้นตอนการดูแลรักษาและทำความสะอาดหลังจากผ่าฟันคุด ผมก็การดูแลรักษาตามคำแนะนำคุณหมอทุกอย่าง คือวันแรกประคบเย็น วันต่อมาประคบอุ่น ทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัด แล้วทำความสะอาดฟันโดยการแปรงฟันเบาๆ หลีกเลี่ยงบริเวณแผลอย่าไปรบกวน แล้วให้บ้วนปากด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือหลังอาหารทุกครั้ง วันละ 3 - 4 ครั้ง ซึ่งผมก็ทำตามที่คุณหมอแนะนำทุกอย่าง
ตอนนี้ผ่านมา 5 วันแล้ว อาการเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ แผลปากฉีกเริ่มตกสะเก็ด สามารถอ้าปากได้มากขึ้น ส่วนแผลฟันคุดก็ปวดตุบๆเป็นพักๆหลังจากหมดฤทธ์ยา
***แต่อาการข้างเคียงที่ตามมาคือ ทุกครั้งที่ทำการบ้วนปากโดยน้ำอุ่นผสมเกลือ โดยบ้วนแบบเบาๆแต่เน้นๆไปที่แผลผ่าฟันคุด จะรู้สึกได้ว่าน้ำส่วนหนึ่งจะไหลซึมผ่านแผลผ่าฝันคุดที่เป็นรูโบ๋ๆอยู่บริเวณฟันกรามด้านบนซี่สุดท้าย แล้วน้ำดังกล่าวจะไหลขึ้นมาออกทางรูจมูกด้านที่ผ่าฟันคุด หรือในบางครั้งน้ำจะไหลออกมาทางรูจมูกทั้ง 2 ด้าน พร้อมกับมีน้ำช้ำเลือดช้ำหนองไหลปะปนออกมาด้วยทุกครั้ง และมีกลิ่นเหม็น ซึ่งน้ำช้ำเลือดช้ำหนองจะไหลปะปนออกมาในการบ้วนปากครั้งที่ 1 - 2 เยอะหน่อย ผมจะต้องบ้วนปากซ้ำอย่างน้อยประมาณ 3 - 4 ครั้ง ถึงจะหมดไป ผลที่ตามมาก็คือจะรู้สึกแสบโพรงจมูกทุกครั้งหลังจากที่บ้วนปากเสร็จเพราะน้ำเกลืออุ่นๆจะไหลผ่าน แต่ผลดีที่ได้รับก็คือจะรู้สึกโล่งและสะอาดบริเวณแผลผ่าฟัดคุดทุกครั้งหลังจากการบ้วนปากด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ
คำถาม :
1.แผลผ่าฟันคุดของผมเกิดการติดเชื้อใช่ไหมครับ ถึงได้มีน้ำช้ำเลือดช้ำหนองไหลออกมา และ มีกลิ่นเหม็น
2.รู้สึกไม่มั่นใจเรื่องกลิ่นปาก พยายามจะบ้วนปากทุกครั้งที่รู้สึกว่ามีกลิ่น บางวันบ้วนปากถี่มาก จะเป็นการรบกวนทำให้แผลหายช้าไหมครับ
3.อยากทราบว่าอาการน้ำที่ไหลซึมผ่านแผลผ่าฟันคุดไปออกที่จมูก เป็นอาการผิดปกติหรือไม่ ควรไปให้หมอฟันตรวจดูอาการไหมครับ ซึ่งตอนนี้เหลือเวลาอีก 2 วัน ก็จะถึงเวลาที่นัดตัดไหมแล้ว
4.ผมควรกลับไปตัดไหมที่คลินิกเดิมไหม หรือ ควรไปคลินิกใหม่ดี โดยส่วนตัวค่อนข้างเข็ดกับคลินิกเดิมที่ทำให้ผมปากฉีกแถมมาด้วย จนถึงวันนี้แผลปากฉีกของผมก็ยังระบมไม่หายเลยครับ
ขอขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าสำหรับคำตอบ และ คำแนะนำนะครับ
ปล.ผมเล่าเหตุการณ์ค่อนข้างละเอียดนึดนึงซึ่งมันอาจจะยาวไปซักหน่อย ทั้งนี้เผื่อข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะผ่าฟันคุดต่อไปครับ