กำลังปั่นจักรยานกลับบ้านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ชิดขอบทางด้านซ้าย (คนแถวนี้รู้ดีว่าทางจักรยานนี้อันตรายกว่าบนถนน เพราะรถเข้าออกซอยไม่สนใจคุณอยู่แล้ว) รถชะละตัวก็ปั่นแซงมาเรื่อยๆ จนขนานกับเบนซ์ e-class สีดำ ป้ายแดง กำลังแซงพ้นที่ประตูหน้าซ้าย ผมเห็น blind spot warning light โชว์ขึ้นที่กระจกมองข้าง (จริงๆผมก็ไม่ได้อยู่ใน blind spot ด้วย ผมเห็นหน้าคนขับ) แต่คนขับไม่สนใจ เปิดไฟเลี้ยวและเร่งพยายามจะปาดจักรยานผมเข้าซอยในระยะ 10 m ก่อนเลี้ยว ที่ความเร็ว 20+ km/h

ผมเบรคล้อแทบล็อคแต่บังคับรถให้ทรงตัวอยู่ได้ พี่แกก็ยังบีบแตรใส่

ผม (ฟิวส์ขาด) เฮย ทำไมไม่เปิดไฟเลี้ยวก่อนเลี้ยว ง่อยหรือไงบร๊ะ?
คนขับรถ I ก็เปิดไฟแล้วนี่ไง I fly
ผม U เปิดตอนไหนล่ะ I .I.

แล้วก็แยกย้ายกันไป

สิ่งแรก ต้องขอโทษออกสื่อ ที่ได้กล่าววาจาไม่สุภาพออกไป

อยากบอกต่อคนที่ขับรถบนท้องถนน การเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าเป็นสิ่งจำเป็น ขับรถอย่าเหม่อ ถ้าเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าก่อนผมจะพ้นไฟท้ายรถ ผมยังมองเห็นทันและเบรคให้ แต่ถ้ามาเปิดตอนผมอยู่ข้างๆรถคุณ มันมองแทบไม่เห็น (ไฟรถรุ่นนี้มันมีแค่ที่กระจกข้าง และไม่ได้มีส่วนยื่นเลยกระจกออกมา) อย่าคิดไปเองว่าจักรยานมันหยุดได้ในระยะกระชั้นชิดอย่างนั้น รถไม่ใช่เบาๆ จะเบรคใช้แรงมือจะเร่งใช้แรงขา  มันต่างจากการเหยียบไปบนแป้นเยอะ

อีกอย่างที่ขอสำหรับรถออกจากซอยแล้วเก้ๆกังๆออกมาช้า ถ้าคุณออกมาตัดหน้าจักรยานในระยะใกล้แล้วช่วยเร่งออกไปไวหน่อยครับ อย่าขวางลำ ประตูรถไม่ใช่เบรคฉุกเฉินสำหรับจักรยาน

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวว่ารถจะแพงหรือถูก มันอยู่ที่ตัวคน ต้องมีความเข้าใจเพื่อนร่วมทาง ถ้ามือใหม่ก็พอให้อภัยได้แต่ต้องปรับปรุง
ดูหน้าคนขับไม่น่าจะมือใหม่นะ ท่าทางห้าวๆ คนแรงๆแบบนี้ควรไปปั่นจักรยานดูบ้าง ผมจะให้เป็นหัวลากเลย

ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนผมขับรถยนต์เย็นฉ่ำ คงไม่มีอะไรมากเพราะปกติก็โดนสารพัดยิ่งกว่าตอนปั่นจักรยาน แต่อันนี้มันประมาทเกิน อันตรายเกิน ก็บอกกันตรงนี้ล่ะ