เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า
แฟนเราเขาไปค้ำประกันให้เพื่อนที่กู้สินเชื่อข้าราชการของธนาคารกรุงไทยค่ะ แล้วเพื่อนลาออกจากงาน จึงเป็นเหตุให้เพื่อนแฟนไม่มีกำลังที่จะส่งเงินสำหรับผ่อนชำระต่อเดือนได้
เหตุการณ์ไปถึงการขึ้นศาลเพื่อทำการประนอมหนี้ วันที่ไปประนอมหนี้ศาลแจ้งว่าจะทำการลดดอกเบี้ยให้ ให้เรารอเอกสารจากศาลเพื่อที่จะไปคุยกับธนาคารกรุงไทย
ณ วันนี้ผ่านมาจะ 3 เดือนหลังจากไปขึ้นศาลเพื่อประนอมหนี้ เรายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ จากศาล แต่เราได้มีการโทรถามกับทนายความของธนาคารอยูเรื่อยๆ ผลปรากฎเท่าที่เรารับฟังจากทนายความว่า อันนี้เราฟังแล้วไม่ค่อยแน่ใจนะค่ะ อาจจะฟังตกหล่นไปบ้าง แต่จับใจความได้ประมาณว่า ศาลพิจารณาออกมาแล้วว่าให้มีการฟ้องร้องยอดเดิม ให้เรารอเอกสารเพื่อนำไปคุยกับธนาคาร หลังจากนั้นเราจึงถามทนายความต่อไปว่า ถ้าไปคุยกับธนาคารแล้วตกลงกันไม่ได้ เราต้องขึ้นศาลอีกใช่มั้ย ทนายความตอบมาว่า ไม่ต้องขึ้นศาล แต่จะมีบังคับคดีเลย เพื่อยึดทรัพย์สิน แล้วเมื่อยอดหนี้เกิน 1 ล้านบาท จะถูกฟ้องล้มละลาย อันนี้คือเท่าที่จับใจความได้นะค่ะ
จากที่ได้คุยกับทนายความคือเรางงมากๆ เลยมาขอถามทุกคนหน่อยนะค่ะว่า
1. บังคับคดียึดทรัพย์ =>> คนกู้ไม่มีทรัพย์สินใดๆ แต่มีได้รับเงินบำนาญทุกเดือน , คนค้ำประกัน มีทรัพย์สินเป็นรถหนึ่งคัน ที่คุณพ่อเป็นคนซื้อให้ ซึ่งตอนนี้ยังติดไฟแนนซ์อยู่ โอกาสมากแค่ไหนที่คนค้ำประกันจะโดนยึดรถค่ะ
2. ในกรณีที่ยอดหนี้เกิน 1 ล้านบาท โอกาสเป็นไปได้สูงว่าอาจจะเกินยอดภายในไม่เกิน 3 - 6 เดือน เพราะ ดอกเบี้ย เบี้ยปรับวิ่งเป็นเงาตามตัว ในกรณีคนค้ำมีโอกาสที่จะถูกฟ้องล้มละลายไปด้วยมั้ยค่ะ และ ถ้าโดนฟ้องล้มละลาย เราจะโดนอะไรบ้างค่ะ ภรรยาคนค้ำประกัน ( จดทะเบียนสมรส ) จะมีโอกาสโดนล้มละลายด้วยมั้ยค่ะ
3. ถ้าหากโดนบังคับคดี เราสามารถยื่นอุทธรณ์ได้มั้ยค่ะ
4. รบกวนทุกคนช่วนแนะนำหน่อยค่ะ ว่าเราจะทำยังไงต่อไปดี เราให้แฟนคุยกับคนกู้แล้ว แต่เขามีความสามารถในการผ่อนชำระเดือนละ 1,000 บาท ( ยอดเงินต้น ประมาณ 660,000 บาท )
ขอบคุณทุกๆคำตอบมากค่ะ
แฟนเป็นคนค้ำประกันให้เพื่อนที่กู้สินเชื่อข้าราชการของธนาคารกรุงไทยค่ะ อยากทราบเรื่องบังคับคดีค่ะ
แฟนเราเขาไปค้ำประกันให้เพื่อนที่กู้สินเชื่อข้าราชการของธนาคารกรุงไทยค่ะ แล้วเพื่อนลาออกจากงาน จึงเป็นเหตุให้เพื่อนแฟนไม่มีกำลังที่จะส่งเงินสำหรับผ่อนชำระต่อเดือนได้
เหตุการณ์ไปถึงการขึ้นศาลเพื่อทำการประนอมหนี้ วันที่ไปประนอมหนี้ศาลแจ้งว่าจะทำการลดดอกเบี้ยให้ ให้เรารอเอกสารจากศาลเพื่อที่จะไปคุยกับธนาคารกรุงไทย
ณ วันนี้ผ่านมาจะ 3 เดือนหลังจากไปขึ้นศาลเพื่อประนอมหนี้ เรายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ จากศาล แต่เราได้มีการโทรถามกับทนายความของธนาคารอยูเรื่อยๆ ผลปรากฎเท่าที่เรารับฟังจากทนายความว่า อันนี้เราฟังแล้วไม่ค่อยแน่ใจนะค่ะ อาจจะฟังตกหล่นไปบ้าง แต่จับใจความได้ประมาณว่า ศาลพิจารณาออกมาแล้วว่าให้มีการฟ้องร้องยอดเดิม ให้เรารอเอกสารเพื่อนำไปคุยกับธนาคาร หลังจากนั้นเราจึงถามทนายความต่อไปว่า ถ้าไปคุยกับธนาคารแล้วตกลงกันไม่ได้ เราต้องขึ้นศาลอีกใช่มั้ย ทนายความตอบมาว่า ไม่ต้องขึ้นศาล แต่จะมีบังคับคดีเลย เพื่อยึดทรัพย์สิน แล้วเมื่อยอดหนี้เกิน 1 ล้านบาท จะถูกฟ้องล้มละลาย อันนี้คือเท่าที่จับใจความได้นะค่ะ
จากที่ได้คุยกับทนายความคือเรางงมากๆ เลยมาขอถามทุกคนหน่อยนะค่ะว่า
1. บังคับคดียึดทรัพย์ =>> คนกู้ไม่มีทรัพย์สินใดๆ แต่มีได้รับเงินบำนาญทุกเดือน , คนค้ำประกัน มีทรัพย์สินเป็นรถหนึ่งคัน ที่คุณพ่อเป็นคนซื้อให้ ซึ่งตอนนี้ยังติดไฟแนนซ์อยู่ โอกาสมากแค่ไหนที่คนค้ำประกันจะโดนยึดรถค่ะ
2. ในกรณีที่ยอดหนี้เกิน 1 ล้านบาท โอกาสเป็นไปได้สูงว่าอาจจะเกินยอดภายในไม่เกิน 3 - 6 เดือน เพราะ ดอกเบี้ย เบี้ยปรับวิ่งเป็นเงาตามตัว ในกรณีคนค้ำมีโอกาสที่จะถูกฟ้องล้มละลายไปด้วยมั้ยค่ะ และ ถ้าโดนฟ้องล้มละลาย เราจะโดนอะไรบ้างค่ะ ภรรยาคนค้ำประกัน ( จดทะเบียนสมรส ) จะมีโอกาสโดนล้มละลายด้วยมั้ยค่ะ
3. ถ้าหากโดนบังคับคดี เราสามารถยื่นอุทธรณ์ได้มั้ยค่ะ
4. รบกวนทุกคนช่วนแนะนำหน่อยค่ะ ว่าเราจะทำยังไงต่อไปดี เราให้แฟนคุยกับคนกู้แล้ว แต่เขามีความสามารถในการผ่อนชำระเดือนละ 1,000 บาท ( ยอดเงินต้น ประมาณ 660,000 บาท )
ขอบคุณทุกๆคำตอบมากค่ะ