คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
การให้ทาน เป็นการเสียสละ เป็นการตัดใจเอาชนะความตระหนี่ถี่เหนียวของตนเองเพื่อให้ทรัพย์เป็นทานแก่ผู้อื่น....เมื่อเราเอาชนะความตระหนี่ถี่เหนียวในใจตนได้แล้ว เราจะรู้สึกภาคภูมิใจในชัยชนะเหนือกิเลสของตนเอง
การบูชา เป็นการนอบน้อมสักการะต่อสิ่งที่ตนเคารพบูชา....อาจแสดงออกได้หลายวิธีตั้งแต่การกราบไหว้บูชา การนำดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องสักการะไปบวงสรวงบูชาอันเป็นอามิส หรือจะแสดงออกโดยการประพฤติตนตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอันเป็นการปฎิบัติบูชาก็ได้....เมื่อเราได้แสดงออกซึ่งความเคารพบูชาแล้วเราจะรู้สึกปลาบปลื้มใจ ปิติใจ จิตใจเราจะอ่อนน้อมต่อสิ่งที่ตนบูชา เหมือนกับตอนที่ญาติโยมปรี่เข้าไปกราบเช็ดเท้าให้กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ตนเคารพบูชา จิตใจในขณะนั้นจะอ่อนยวบเป็นความสุภาพอ่อนน้อมอย่างถึงที่สุด เป็นการถวายเศียนเกล้านอบน้อมแด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพบูชาอย่างสุดใจ
การกระทำทั้งสองอย่างฐานที่ตั้งของใจจึงยังต่างกันอยู่ อันหนึ่งเป็นเรื่องของการเอาชนะกิเลส อีกอันหนึ่งเป็นเรื่องของความนอบน้อมต่อสิ่งที่ตนเคารพบูชา.....แต่ก็อาจจะปะปนระคนกันไปได้ตามแต่กรณี เช่น การที่ญาติโยมบางคนสละสร้อยทองเครื่องประดับเพื่อถวายแด่หลวงตามหาบัวในโครงการผ้าป่าช่วยชาติ....ฐานที่ตั้งของใจในเวลานั้นเป็นทั้งการเอาชนะกิเลสตัวตระหนี่หวงทรัพย์ และเป็นทั้งความนอบน้อมบูชาต่อองค์หลวงตาผู้เป็นดั่งพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยความเคารพสุดใจ....ความรู้สึกมันจึงระคนปนกันไป แต่ผลที่ได้รับย่อมเป็นความภาคภูมิใจ เป็นความปิติสุขในใจอย่างเปรี่ยมล้นแน่นอน
อนึ่ง...การนำดอกไม้มาบูชาพระ...สำหรับผมจะถือเป็นการทำทานก็ยังไม่ถนัดใจนัก เพราะเป็นทรัพย์ที่ราคาไม่แพง(ในความรู้สึกของผม) ไม่ได้รู้สึกตัดใจเอาชนะความตระหนี่ของตนสักเท่าไหร่ (เพราะตอนซื้อดอกไม้แจกสาวๆ ก็ยังไม่รู้สึกเสียดายอะไร) สำหรับผมดอกไม้จึงเป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบในการแสดงออกซึ่งความเคารพบูชาเสียมากกว่า....หากจะไปกราบไหว้บูชาสถานที่สำคัญๆ หรือพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์สำคัญๆ ก็จะพยายามเลือกซื้อดอกไม้ที่สวยสดปราณีตงดงาม เพื่อให้ควรค่าแก่การนำไปถวายแด่สิ่งเคารพบูชาหรือพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือ
ลองพิจารณาดูครับ
การบูชา เป็นการนอบน้อมสักการะต่อสิ่งที่ตนเคารพบูชา....อาจแสดงออกได้หลายวิธีตั้งแต่การกราบไหว้บูชา การนำดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องสักการะไปบวงสรวงบูชาอันเป็นอามิส หรือจะแสดงออกโดยการประพฤติตนตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอันเป็นการปฎิบัติบูชาก็ได้....เมื่อเราได้แสดงออกซึ่งความเคารพบูชาแล้วเราจะรู้สึกปลาบปลื้มใจ ปิติใจ จิตใจเราจะอ่อนน้อมต่อสิ่งที่ตนบูชา เหมือนกับตอนที่ญาติโยมปรี่เข้าไปกราบเช็ดเท้าให้กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ตนเคารพบูชา จิตใจในขณะนั้นจะอ่อนยวบเป็นความสุภาพอ่อนน้อมอย่างถึงที่สุด เป็นการถวายเศียนเกล้านอบน้อมแด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพบูชาอย่างสุดใจ
การกระทำทั้งสองอย่างฐานที่ตั้งของใจจึงยังต่างกันอยู่ อันหนึ่งเป็นเรื่องของการเอาชนะกิเลส อีกอันหนึ่งเป็นเรื่องของความนอบน้อมต่อสิ่งที่ตนเคารพบูชา.....แต่ก็อาจจะปะปนระคนกันไปได้ตามแต่กรณี เช่น การที่ญาติโยมบางคนสละสร้อยทองเครื่องประดับเพื่อถวายแด่หลวงตามหาบัวในโครงการผ้าป่าช่วยชาติ....ฐานที่ตั้งของใจในเวลานั้นเป็นทั้งการเอาชนะกิเลสตัวตระหนี่หวงทรัพย์ และเป็นทั้งความนอบน้อมบูชาต่อองค์หลวงตาผู้เป็นดั่งพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยความเคารพสุดใจ....ความรู้สึกมันจึงระคนปนกันไป แต่ผลที่ได้รับย่อมเป็นความภาคภูมิใจ เป็นความปิติสุขในใจอย่างเปรี่ยมล้นแน่นอน
อนึ่ง...การนำดอกไม้มาบูชาพระ...สำหรับผมจะถือเป็นการทำทานก็ยังไม่ถนัดใจนัก เพราะเป็นทรัพย์ที่ราคาไม่แพง(ในความรู้สึกของผม) ไม่ได้รู้สึกตัดใจเอาชนะความตระหนี่ของตนสักเท่าไหร่ (เพราะตอนซื้อดอกไม้แจกสาวๆ ก็ยังไม่รู้สึกเสียดายอะไร) สำหรับผมดอกไม้จึงเป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบในการแสดงออกซึ่งความเคารพบูชาเสียมากกว่า....หากจะไปกราบไหว้บูชาสถานที่สำคัญๆ หรือพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์สำคัญๆ ก็จะพยายามเลือกซื้อดอกไม้ที่สวยสดปราณีตงดงาม เพื่อให้ควรค่าแก่การนำไปถวายแด่สิ่งเคารพบูชาหรือพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือ
ลองพิจารณาดูครับ
แสดงความคิดเห็น
เวลาเรานำดอกไม้มาบูชาพระ นับเป็นการให้ทานหรือเปล่าครับ?