วันที่ 08 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10:44:09 น.
(ที่มา:ข่าวหน้า1 มติชนรายวัน 8 มี.ค.56)
"มาร์ค"สั่งทีมกม.สู้ "บุญยอด"ยกกรณีร้อง"ณัฐวุฒิ"ปราศรัยใส่ร้าย ปชป.ช่วงเลือกตั้งใหญ่กดดัน กกต. ด้าน"วรชัย-41ส.ส.พท."ยื่นนิรโทษเข้าสภา
ปชป.จัดทีมกม.สู้ค้านคุณชาย
กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติ 3 ต่อ 1 ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะเลือกตั้งเนื่องจากต้องสืบสวนสอบสวนการร้องคัดค้าน 3 เรื่องก่อนนั้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ณ ที่ทำการพรรคว่า การรับรองล่าช้าไม่มีผลกระทบอะไรกับการทำงาน และไม่ทราบว่ามีประเด็นร้องเรียนอะไรไปยัง กกต.บ้าง แต่เท่าที่ฟังมาจะมีกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ปชป. และนายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการอิสระ ไม่ได้เข้าข่ายใส่ร้ายป้ายสีหรือทำผิดกฎหมาย แต่ ปชป.ได้เตรียมทีมกฎหมายในการต่อสู้เรื่องนี้ไว้พร้อมแล้ว แต่ต้องรอให้ กกต.เรียกให้ไปชี้แจงก่อน ทั้งนี้ ปชป.ได้รวบรวมพฤติกรรมการกระทำผิดกฎหมายของอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะโดยหลัก กกต.จะพิจารณาจากเรื่องที่ร้องเรียนไปก่อนวันเลือกตั้ง
ยกกรณีร้อง"เต้น"บี้กกต.รับรอง
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.แถลงว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เคยร้องคัดค้านการเลือกตั้งต่อ กกต.ใน 6 ประเด็น เป็นกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช.ได้ขึ้นเวทีปราศรัยให้สัมภาษณ์และโพสต์ในเฟซบุ๊กในลักษณะใส่ร้าย กล่าวหา ปชป. โดยเนื้อหาลักษณะคล้ายคลึงกันกับการร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ ดังนั้น จึงหวังว่า กกต.จะพิจารณาในแนวทางเดียวกัน โดยการยกคำร้องว่า ไม่ใช่เป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่เป็นการใช้สิทธิแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย และขอให้รีบรับรองผู้ว่าฯกทม.โดยเร็ว
เผยเหตุไม่รับรอง"ชายหมู"
รายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า หลังจากที่ประชุม กกต.มีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 1 เห็นควรยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะเห็นว่า ยังต้องมีการตรวจสอบคำร้องคัดค้านที่อาจเกี่ยวโยงถึงตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นกรณีคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. ที่ยื่นคำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบใน 3 ประเด็น คือ กรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ปชป. โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเผาบ้านเผาเมือง กรณีที่นายอภิสิทธิ์ปราศรัย และกรณีที่นายเสรี วงษ์มณฑา โพสต์ข้อความใน
เฟซบุ๊กว่า "ใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้เพื่อไทยยึดครองกรุงเทพฯ ปราการด่านสุดท้ายที่เหลืออยู่ เราต้องถามตัวเองว่าจะลงคะแนนให้ใคร ที่จะทำให้ พล.ต.อ.พงศพัศไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ คำตอบก็คือ คุณชายสุขุมพันธุ์หมายเลข 16" ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นนี้อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 57(5) ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและ
ผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 (อ่านคำร้อง น.2) โดย กกต.กทม.ยืนยันว่า จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน จะครบกำหนดวันที่ 18 มีนาคม .................... ( อ่านต่อในมติชนออนไลน์ได้ครับ )
.
.
.
.
ผมเชื่อว่า มาร์ค และ ปชป. ที่พลิกคดีการเมืองหลายต่อหลายครั้ง จนหลอนกันว่า มาร์คเป็นเด็กมีเส้นนั้น ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้อง 100% หรือไม่ ที่ผมอยากจะนำเสนอก็คือ มาร์คตั้งทีมสู้หน้าตั้ง ใช้ความได้เปรียบที่ตัวมีทนายหัวหมออยู่เต็มพรรค บดขยี้คู่กรณีจมเขี้ยว โหดร้าย ไม่ละอาย ไม่สำนึกบาปบุญคุณโทษ เวรกรรม นรกอะไรมันก็ไม่สน แถมหน้าด้านหน้าทนเหลือประมาณ ตัวอย่าง จะฟ้องกลับบิ๊กโอ๋บ้างล่ะ หรือ จะฟ้องธาริตให้จมดินบ้างล่ะ เป็นต้น
ดังนั้น พวกเราเป็นคนดีมากเกินไปหรือเปล่า เคสนี้ ( ผู้ว่า กทม. ) เราโดดเดี่ยว ปล่อยวางให้เรืองไกร ทำงานคนเดียวโดยลำพังหรือเปล่า ขณะที่ ปชป.ใช้กลเกมทุกเม็ดทั้งใต้ดินบนดิน บดขยี้ กกต. เช่นเคย ด้วยความกักขฬะฮึกเหิมลำพอง.... เราจะหยุด ปชป. ด้วยคิดว่าความดีจะชนะมันหรือ ทักษิณเป็นตัวอย่าง ทุกวันนี้มาร์คมันยังกัดจมเขี้ยวทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่เคยสมานฉันท์ปรองดองเพื่อชาติประชาชนสักนิด
ผมว่าคุณพงศพัศต้องฟ้องอาญาเอาผิดกับ ปชป. ข้อหาใส่ร้ายให้เสื่อมเกียรติครับ และ พวกเราต้องไม่นิ่งดูดาย เลิกเป็นคนดี เลิกปล่อยวางเสียที ต้องร่วมมือร่วมใจกันปลดแอกกรุงเทพให้พ้นภัยและสงบสุขอย่างแท้จริงเสียที เริ่มง่าย ๆ ด้วยการกดดัน กกต. ให้วินิจฉัยตรงไปตรงมา และให้กำลังใจคุณเรืองไกรมากกว่านี้ ดีไหมครับ ?
มาร์ค เด็กเส้นจริงหรือ ?
(ที่มา:ข่าวหน้า1 มติชนรายวัน 8 มี.ค.56)
"มาร์ค"สั่งทีมกม.สู้ "บุญยอด"ยกกรณีร้อง"ณัฐวุฒิ"ปราศรัยใส่ร้าย ปชป.ช่วงเลือกตั้งใหญ่กดดัน กกต. ด้าน"วรชัย-41ส.ส.พท."ยื่นนิรโทษเข้าสภา
ปชป.จัดทีมกม.สู้ค้านคุณชาย
กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติ 3 ต่อ 1 ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะเลือกตั้งเนื่องจากต้องสืบสวนสอบสวนการร้องคัดค้าน 3 เรื่องก่อนนั้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ณ ที่ทำการพรรคว่า การรับรองล่าช้าไม่มีผลกระทบอะไรกับการทำงาน และไม่ทราบว่ามีประเด็นร้องเรียนอะไรไปยัง กกต.บ้าง แต่เท่าที่ฟังมาจะมีกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ปชป. และนายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการอิสระ ไม่ได้เข้าข่ายใส่ร้ายป้ายสีหรือทำผิดกฎหมาย แต่ ปชป.ได้เตรียมทีมกฎหมายในการต่อสู้เรื่องนี้ไว้พร้อมแล้ว แต่ต้องรอให้ กกต.เรียกให้ไปชี้แจงก่อน ทั้งนี้ ปชป.ได้รวบรวมพฤติกรรมการกระทำผิดกฎหมายของอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะโดยหลัก กกต.จะพิจารณาจากเรื่องที่ร้องเรียนไปก่อนวันเลือกตั้ง
ยกกรณีร้อง"เต้น"บี้กกต.รับรอง
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.แถลงว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เคยร้องคัดค้านการเลือกตั้งต่อ กกต.ใน 6 ประเด็น เป็นกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช.ได้ขึ้นเวทีปราศรัยให้สัมภาษณ์และโพสต์ในเฟซบุ๊กในลักษณะใส่ร้าย กล่าวหา ปชป. โดยเนื้อหาลักษณะคล้ายคลึงกันกับการร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ ดังนั้น จึงหวังว่า กกต.จะพิจารณาในแนวทางเดียวกัน โดยการยกคำร้องว่า ไม่ใช่เป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่เป็นการใช้สิทธิแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย และขอให้รีบรับรองผู้ว่าฯกทม.โดยเร็ว
เผยเหตุไม่รับรอง"ชายหมู"
รายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า หลังจากที่ประชุม กกต.มีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 1 เห็นควรยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะเห็นว่า ยังต้องมีการตรวจสอบคำร้องคัดค้านที่อาจเกี่ยวโยงถึงตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นกรณีคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. ที่ยื่นคำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบใน 3 ประเด็น คือ กรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ปชป. โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเผาบ้านเผาเมือง กรณีที่นายอภิสิทธิ์ปราศรัย และกรณีที่นายเสรี วงษ์มณฑา โพสต์ข้อความใน
เฟซบุ๊กว่า "ใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้เพื่อไทยยึดครองกรุงเทพฯ ปราการด่านสุดท้ายที่เหลืออยู่ เราต้องถามตัวเองว่าจะลงคะแนนให้ใคร ที่จะทำให้ พล.ต.อ.พงศพัศไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ คำตอบก็คือ คุณชายสุขุมพันธุ์หมายเลข 16" ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นนี้อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 57(5) ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและ
ผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 (อ่านคำร้อง น.2) โดย กกต.กทม.ยืนยันว่า จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน จะครบกำหนดวันที่ 18 มีนาคม .................... ( อ่านต่อในมติชนออนไลน์ได้ครับ )
.
.
.
.
ผมเชื่อว่า มาร์ค และ ปชป. ที่พลิกคดีการเมืองหลายต่อหลายครั้ง จนหลอนกันว่า มาร์คเป็นเด็กมีเส้นนั้น ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้อง 100% หรือไม่ ที่ผมอยากจะนำเสนอก็คือ มาร์คตั้งทีมสู้หน้าตั้ง ใช้ความได้เปรียบที่ตัวมีทนายหัวหมออยู่เต็มพรรค บดขยี้คู่กรณีจมเขี้ยว โหดร้าย ไม่ละอาย ไม่สำนึกบาปบุญคุณโทษ เวรกรรม นรกอะไรมันก็ไม่สน แถมหน้าด้านหน้าทนเหลือประมาณ ตัวอย่าง จะฟ้องกลับบิ๊กโอ๋บ้างล่ะ หรือ จะฟ้องธาริตให้จมดินบ้างล่ะ เป็นต้น
ดังนั้น พวกเราเป็นคนดีมากเกินไปหรือเปล่า เคสนี้ ( ผู้ว่า กทม. ) เราโดดเดี่ยว ปล่อยวางให้เรืองไกร ทำงานคนเดียวโดยลำพังหรือเปล่า ขณะที่ ปชป.ใช้กลเกมทุกเม็ดทั้งใต้ดินบนดิน บดขยี้ กกต. เช่นเคย ด้วยความกักขฬะฮึกเหิมลำพอง.... เราจะหยุด ปชป. ด้วยคิดว่าความดีจะชนะมันหรือ ทักษิณเป็นตัวอย่าง ทุกวันนี้มาร์คมันยังกัดจมเขี้ยวทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่เคยสมานฉันท์ปรองดองเพื่อชาติประชาชนสักนิด
ผมว่าคุณพงศพัศต้องฟ้องอาญาเอาผิดกับ ปชป. ข้อหาใส่ร้ายให้เสื่อมเกียรติครับ และ พวกเราต้องไม่นิ่งดูดาย เลิกเป็นคนดี เลิกปล่อยวางเสียที ต้องร่วมมือร่วมใจกันปลดแอกกรุงเทพให้พ้นภัยและสงบสุขอย่างแท้จริงเสียที เริ่มง่าย ๆ ด้วยการกดดัน กกต. ให้วินิจฉัยตรงไปตรงมา และให้กำลังใจคุณเรืองไกรมากกว่านี้ ดีไหมครับ ?