คนกทม.มีเท่านี้จริง ๆๆ และพรรคนี้สนองตอบมาตลอด

พรรคปลัดประเทศ

วงค์ ตาวัน

ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ตอกย้ำให้สังคมเข้าใจ ในพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนขึ้นว่า เป็นพรรคอนุรักษนิยมทางการเมือง เป็นตัวแทนของชนชั้นกลางและผู้มีรายได้สูงในเมืองหลวงอย่างมั่นคง

การป่าวร้องของประชาธิปัตย์ในโค้งสุดท้ายที่ว่า อย่าให้เสียเมืองหลวง อย่าให้เป็นเมืองขึ้น

ปลุกเร้าฝ่ายขวาให้หวาดผวา เกรงกลัวพลัง อีกฝ่าย อย่างได้ผล!

ทำให้บรรดาชนชั้นกลางและผู้มีรายได้สูงในย่านใจกลางเมือง แห่ออกมารักษาเมืองหลวง ด้วยการเลือกพรรคที่เป็นตัวแทนของเขาคือประชาธิปัตย์

จนชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ

ฝ่ายอนุรักษนิยม หรือที่เรียกว่าขวาจัดล้าหลัง ซึ่งต้องการรักษาโครงสร้างการเมืองเดิมๆ ที่กลุ่มตนเองได้ประโยชน์ ได้แสดงพลังอย่างหนักแน่นในการเลือกผู้ว่าฯครั้งนี้

ทำให้พรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมคือประชาธิปัตย์ ยังรักษาเก้าอี้ผู้ว่าฯ เอาไว้ได้

ตัวตนของประชาธิปัตย์นั้น ชัดเจนมายาวนานแล้ว

ว่าเป็นเด็กดีรับใช้ระบบเดิมๆ อย่างมั่นคง

อดีตหัวหน้าพรรคผู้มีชื่อเสียง ได้รับฉายาจากสื่อไทยว่า"ปลัดประเทศ"

เป็นแค่ปลัดรับใช้ระบบ มากกว่าจะป็นนายกฯ ที่กล้าคิดกล้าเปลี่ยนแปลงใดๆ

ขณะที่สื่อใหญ่ต่างประเทศ ก็สรุปภาพวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ ชัดเจนว่า เป็นการต่อสู้รักษาฐานของฝ่ายอนุรักษนิยมและประชาธิปัตย์

สุดท้ายชัยชนะเป็นของฝ่ายขวา ด้วยการปลุกความหวาดกลัวอย่างงมงายล้าหลัง ให้กลายเป็นพลัง

ชนะไปด้วยคะแนนท่วมท้นกว่า 1.2 ล้านเสียง

แต่ก็น่าคิดว่า พลังอีกฝ่ายก็พัฒนาเติบโตจนเกินกว่า 1 ล้านเสียง

พลังของฝ่ายก้าวหน้า พลังของคนเลือกเพื่อไทย และพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ได้ขยายตัวมากขึ้นในเมืองกรุง

การเลือกตั้งในพื้นที่กทม.หนต่อๆ ไป การต่อสู้ของฝ่ายอนุรักษนิยมกับฝ่ายก้าวหน้า คงจะสูสีมากขึ้นๆ

แน่นอนว่าทุกสังคมย่อมต้องมีความคิดที่แตกต่างหลากหลาย ห้ามหรือปิดกั้นไม่ได้

ฝ่ายอนุรักษนิยม ชนชั้นที่ได้เปรียบในเมืองกรุง ย่อมต่อสู้รักษาโครงสร้างเดิมเอาไว้

แต่พัฒนาการของโลก ย่อมหมายถึงการเคลื่อนไปข้างหน้าของสังคมและการเมือง ซึ่งหยุดยั้ง ไม่ได้

ต่อสู้ขัดแย้งกันไป ผ่านการเลือกตั้ง อันเป็นวิถีทางที่เจริญภายใต้ระบอบประชาธิปไตย

โดยมีพรรคการเมืองเป็นตัวแทนของฝ่ายล้าหลังและฝ่ายก้าวหน้าให้เลือกกันได้ชัดเจน!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่