นักล่าแห่งรัตติกาล ภาค สัญลักษณ์เลือด บทที่ 15 หุ่นเชิด (และปกภาคสี่ที่จะวางงานหนังสือนี้ค่ะ)

กระทู้สนทนา
บทที่ 15 หุ่นเชิด

กีพาร์ดนอนพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมาอยู่ภายในท่อระบายน้ำแห่งหนึ่งไม่ห่างจากเขตชุมชนเท่าใดนัก ความเหน็ดเหนื่อยจากการตระเวณรอบเมืองทำให้เขาอยากจะหลับสักงีบแต่พอปิดเปลือกตาลงมโนภาพบางอย่างก็ปรากฏขึ้นภายในจิตใจ มันเป็นภาพของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งหยอกล้อกันอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะกับกลิ่นหอมอบอวลของอาหารบนโต๊ะสร้างความหงุดหงิดต่อกีพาร์ดเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อเห็นหน้าของทั้งคู่แล้วจิตสำนึกของเขาก็ยิ่งดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมาน เพราะแม้จะเป็นใบหน้าหล่อเหลาสวยงามแบบมนุษย์แต่ลึกลงไปภายในสมองกลับเต็มไปด้วยพยาธิอันน่ารังเกียจ พวกมันชอนไชอยู่ในก้อนเนื้อสีเทาเหม็นเน่าเหลวเละและทวีจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นทะลักออกมาจากปาก จมูก ใบหูหรือแม้กระทั่งดวงตาของคนทั้งสอง มันเป็นภาพที่น่าชิงชังอย่างยิ่งในสายตาของมนุษย์ครึ่งเสือ ยิ่งกอปรกับกลิ่นที่โชยมาจากร่างของชายหญิงตรงหน้า ก็สุดที่กีพาร์ดจะระงับโทสะเอาไว้ได้ เขาเงื้อมีดในมือขึ้นและกระหน่ำแทงคนทั้งสองจนนับไม่ถ้วน เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปจนทั่วส่งกลิ่นเหม็นคาวน่าคลื่นไส้ เมื่อจัดการเหยื่อทั้งสองจนหนำใจแล้วมนุษย์เสือจึงเหวี่ยงมีดเฉาะลงบนศีรษะแบะกะโหลกคู่รักออกเป็นสองซีกจากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมกับร้องตะโกนก้องอย่างบ้าคลั่ง

“ฆ่า!”

ร่างที่กำลังนอนอยู่ทะลึ่งพรวดขึ้น มือคว้ามีดประจำตัวและกำแน่น ดวงตาสีเหลืองอำพันกวาดมองไปโดยรอบอย่างระวังทั้งที่ยังคงหอบหายใจ เมื่อรู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหนแล้วกีพาร์ดจึงถอนใจอย่างแรง

“ฝัน” เขาพึมพำพลางเสยผมสีทองยาวรุงรังไปด้านหลังและคำรามออกมาอย่างหงุดหงิดเพราะถึงจะลืมตาตื่นแต่ใบหน้าของชายหญิงคู่นั้นยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ ภาพพยาธิที่กำลังไต่ยั้วเยี้ยอยู่ในเนื้อสมองรบกวนจิตใจประหนึ่งพวกมันอยู่ในหัวของเขาเอง แต่สิ่งที่สร้างความทรมานให้กับกีพาร์ดมากที่สุดก็คือกลิ่น แม้จะอยู่ในความฝันแต่เขากลับรู้สึกเหมือนมันฝังอยู่ในจมูก มันไม่ใช่กลิ่นหอมหวาน เหม็นเน่าหรือคาวจัด หากแต่เป็นกลิ่นที่เมื่อใดได้สัมผัส จะสร้างความคั่งแค้นให้กับเขามากที่สุด

กลิ่นของห้องทดลอง ยาฆ่าเชื้อ สารเคมี

กลิ่นของวิคเตอร์

กรงเล็บแหลมคมดุจเหล็กกล้ากรีดไปบนกำแพงอย่างคุ้มคลั่ง หากเป็นไปได้เขาอยากจะย้อนกลับไปที่ห้องทดลองของไรซินอีกครั้งและถล่มมันให้ราบกับมือ แต่ที่ไม่ทำเพราะเขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างคอยยับยั้งความคิดเหล่านั้นเอาไว้ สิ่งที่ว่านั่นมักจะคอยกระซิบข้างหูว่า เขามีงานสำคัญกว่าที่ต้องทำ

“ฆ่าปรสิต”

กีพาร์ดคว้ามีดอีกครั้งและกระโจนพรวดออกจากที่ซ่อน ด้วยพันธุกรรมของเสือชีต้าร์ทำให้เขามีฝีเท้าเร็วเหนือมนุษย์ แม้จะไม่รู้ว่าตนเองกำลังวิ่งไปไหนแต่มนุษย์ครึ่งยิ้มลับแน่ใจว่ามันเป็นทิศทางที่ถูกต้อง มันเป็นความรู้สึกเหมือนถูกกำหนดเอาไว้ในหัวซึ่งจะปรากฏขึ้นทุกครั้งที่เขาฝันถึงเหยื่อ

ความมืดมิดยามค่ำคืนทำให้กีพาร์ดไม่ต้องกังวลเรื่องถูกพบเห็น ประกอบกับเส้นทางที่อุดมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า เขาจึงหาที่ซ่อนตัวได้ไม่ยากนัก หลังจากวิ่งไปได้ราวครึ่งชั่วโมงมนุษย์เสือจึงหยุด นั่นเองที่เขาพบว่าตนเองกำลังอยู่บนเนินเขาขนาดย่อมเมื่อมองลงไปด้านล่างจึงเห็นหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตอนแรกกีพาร์ดยังยืนลังเลว่าควรไปที่นั่นดีหรือไม่แต่เสียงหนึ่งกลับดังก้องขึ้น

“ปรสิต”

มนุษย์เสือคำรามในลำคอก่อนจะเบนสายตามองหาบ้านเป้าหมาย โชคเข้าข้างเขาที่บ้านหลังนั้นอยู่ห่างจากชุมชนพอสมควร กีพาร์ดยิ้มในความมืดก่อนจะพุ่งปราดลงไปยังด้านล่างอย่างรวดเร็ว

แสงไฟที่ลอดผ่านออกมาจากตัวบ้านทำให้รู้ว่าคนข้างในยังไม่หลับ กีพาร์ดจึงย่องไปยังด้านหลังและเปิดประตูเข้าไปในบ้านอย่างเงียบกริบ เสียงพูดคุยเบาๆทำให้รู้ว่าเหยื่อทั้งสองอยู่ในห้องนั่งเล่น ตอนแรกกีพาร์ดคิดจะบุกเข้าไปแล้วลงมือสังหารให้เสร็จในครั้งเดียวแต่เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจ มีดถูกดึงออกจากฝักขณะที่เจ้าของตั้งท่าจู่โจม เมื่อหญิงสาวโผล่เข้าไปในครัวก็ถูกคมมีดเสียบทะลุคอหอยทันที เธอล้มลงนอนสิ้นใจโดยไม่มีเสียงร้องสักคำ เมื่อจัดการเหยื่อรายแรกเสร็จแล้วมนุษย์เสือจึงจ้องชายหนุ่มซึ่งยังคงนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องพลางคิดหาวิธีบุกเข้าไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว

ความคิดทั้งหมดถูกโยนทิ้งเมื่อเหยื่อร้องเรียกหาคู่รัก เมื่อไม่มีเสียงตอบเขาจึงเดินมายังห้องครัวและหยุดชะงักเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างหญิงสาวนอนจมกองเลือด ชายหนุ่มหันไปคว้าโทรศัพท์เพื่อจะเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ต้องหยุดค้างไว้แค่นั้นเมื่อทรวงอกของเขามีอะไรบางอย่างพุ่งทะลุมาจากทางด้านหลังแต่ยังไม่ทันจะได้ก้มหน้าลงมอง อาวุธชิ้นนั้นก็ถูกดึงออกจากร่างและเปลี่ยนมาฟันลงบนศีรษะของเขาแทน

“ปรสิต”

กีพาร์ดพึมพำพลางหันไปทางเหยื่อรายแรกและใช้มีดแบะกะโหลกของเธอออกเป็นสองซีก ของเหลวสีแดงสดไหลปรี่ออกจากร่าง มนุษย์เสือยืนมองเลือดที่ไหลนองพื้นด้วยความรู้สึกสาแก่ใจ หากเป็นคนธรรมดามันเป็นแค่เลือดแต่สำหรับนัยน์ตาที่ถูกสร้างมาอย่างดี กีพาร์ดจึงสามารถเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจิ๋วจำนวนมากกำลังแหวกว่ายอยู่ในของเหลวสีแดงข้น แต่ก็เพียงไม่นานเพราะพอเจ้าของร่างสิ้นชีวิต พวกมันก็ค่อยๆแตกสลายกลายเป็นเมือกไปจนหมด มนุษย์เสือมองด้วยความรังเกียจก่อนจะเดินออกจากบ้านและวิ่งหายไปในความมืดอย่างเงียบงันแต่ก่อนจะถึงท่อระบายน้ำอันเป็นที่ซ่อนเขาต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงโหยหวนของสุนัข กีพาร์ดหรี่ตาลงเล็กน้อยเพราะรู้ดีว่าเสียงที่ได้ยินคืออะไร

“ตัวประหลาดเสร็จไปอีกหนึ่ง”

เขาพูดพึมพำก่อนจะเดินไปล้างเนื้อตัวยังก๊อกน้ำสาธารณะจนสะอาดหมดจดจึงกลับไปที่ซ่อนและเอนกายลงนอนพักผ่อนจากการวิ่งเป็นระยะทางไกล แต่พอดวงตาทั้งสองปิดลง ภาพครอบครัวหนึ่งก็ผุดขึ้นมา เช่นเดียวกับทุกครั้งที่กีพาร์ดเห็นตัวเองลงมือฆ่าทุกคนอย่างโหดเหี้ยม ดวงตาของเหยื่อที่เหลือกลานด้วยความหวาดกลัว กลิ่นคาวเลือดน่าสะอิดสะเอียนกับกลิ่นสารเคมีฉุนจนแทบสำลักพุ่งเข้าจมูก มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก มนุษย์เสือดิ้นทุทรนทุรายด้วยความทรมานกระทั่งเสียงกรีดร้องของเหยื่อตัวน้อยดังลั่น มันปลุกเขาให้สะดุ้งตื่นจากความฝัน
กีพาร์ดลุกพรวดขึ้นนั่งหอบหายใจ แม้จะตื่นแต่ภาพของเหยื่อยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ มันบีบคั้นอารมณ์ของเขาจนสุดจะทน เป็นครั้งแรกที่มนุษย์ครึ่งเสือรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดแปลกไป บางอย่างที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น มันช่างแตกต่างจากตอนไล่สังหารพวก
โฟริดอย่างสิ้นเชิง และต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น กีพาร์ดแทบคลั่งด้วยความแค้น เขาลุกขึ้นยืนกำมือแน่นและร้องตะโกน

    “นายทำอะไรฉัน วิคเตอร์”     

*/*/*/*/*
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่