มี 2 ข่าวครับ อาจจะยาวไปนิดขออภัยด้วยครับ
'พลังงาน'นัดผู้เกี่ยวข้องประชุมเครียดแก้ปัญหา พบทางออกสามารถผ่านวิกฤตยืนยันไฟไม่ตกแน่ Source - พิมพ์ไทย (Th) Thursday, March 07, 2013 03:39
หลังจากเรียกประชุมหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชนในครึ่งของวันแรก กระทรวงพลังงานพบข้อสรุป เมื่อเกือบทุกหน่วยงานร่วมมือกันประหยัดพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม สามารถบรรเทาความกังวลในช่วงที่พม่าหยุดส่งก๊าซในวันที่ 5-14 ก.พ.ได้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.กล่าวว่า ผลประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานในการรับมือก๊าซฯ พม่าหยุดส่ง 5-14 เม.ย. พบเอกชนหยุดผลิตเอสพีพีส่งไฟฟ้าเพิ่ม ทำให้ไฟฟ้าสำรองเพิ่มเป็น 1,424 เมกะวัตต์ และส่งผลให้ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) อาจไม่ปรับเพิ่ม เพราะเอสพีพีต้นทุนถูกกว่าการใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้า จากเดิมที่คาดว่าเอฟทีอาจปรับเพิ่มขึ้น 0.48 สตางค์ต่อหน่วย รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สำรองไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในวันที่ 5 เม.ย. จากเดิม 767 เมกะวัตต์ เป็น 1,424 เมกะวัตต์ มาจากความร่วมมือของโรงงานสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่ร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้าถึง 408 เมกะวัตต์ 13 กลุ่มอุตสาหกรรม ส่วนการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรายงานว่านิคมฯ ช่วยลดได้ถึง 83 เมกะวัตต์ ในขณะที่ 4 โรงงานตามสัญญารับซื้อไฟฟ้าประเภทหยุดส่งได้จะลดไฟฟ้าได้อีก 56 เมกะวัตต์ ส่วนเอสพีพีพร้อมผลิตเพิ่มอีก110 เมกะวัตต์ ในส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซีย 200 เมกะวัตต์แล้วเพราะต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงตั้งแต่ 5-15 บาทต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณทั้งมาเลเซียที่พร้อมช่วยเหลือ และขอบคุณภาคเอกชนที่ร่วมมือลดการใช้พลังงาน จนเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นวิกฤตพลังงานไปได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานจะรณรงค์ประหยัดพลังงานต่อเนื่อง โดยหากประชาชนและห้างสรรพสินค้าร่วมลดใช้พลังงานก็คาดว่าจะลดได้อีก 250 เมกะวัตต์ สำรองไฟฟ้าจะเพิ่มเป็น 1,674 เมกะวัตต์ ทำให้โล่งใจสำรองเพียงพอผ่านพ้นวิกฤตไปได้" รมว.พลังงาน กล่าว สำหรับ ส.อ.ท.ได้ประสานกลุ่มอุตสาหกรรม 13 กลุ่มลดใช้ไฟฟ้าลงได้ 408 เมกะวัตต์ อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ 137 เมกะวัตต์ ปูนซีเมนต์ 126 เมกะวัตต์ ปิโตรเคมี 18 เมกะวัตต์ สิ่งทอ 3.4 เมกะวัตต์ อาหาร 21 เมกะวัตต์แก้วและกระจก 1 เมกะวัตต์ ยา 15 เมกะวัตต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้า 7 เมกะวัตต์ และยานยนต์ 1 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม การหยุดผลิตชั่วคราวของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือและพระนครใต้ทำให้สายส่งต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีปัญหาแรงดันต่ำ ซึ่งทั้ง 3 การไฟฟ้าจะเป็นผู้ดูแลสายส่งให้มีเสถียรภาพซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาไฟตกแน่นอน
ด้านพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมจะลดใช้ไฟฟ้าทุกระบบ เช่น ระบบอากาศอัด หรือคอมเพรสเซอร์ และใช้อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ รวมทั้งสามารถหยุดเครื่องจักรที่ไม่สำคัญบางประเภท เช่น โรงปูนซีเมนต์ที่จะลดใช้ไฟของตัวหม้อบดดินได้ ซึ่งจะไม่ส่งผลเสียหายต่อระบบผลิต ส่วนภาคยานยนต์ทุกค่ายตั้งใจจะช่วยลดการใช้ไฟ แต่เนื่องจากมีซัพพลายเชนมากจึงต้องใช้เวลาวางแผนการลดการใช้ไฟซึ่งเชื่อว่าต่อไปจะสามารถประหยัดได้มากกว่าในปัจจุบัน--จบ--
'พลังงาน'นัดผู้เกี่ยวข้องประชุมแก้ปัญหา พบทางออกสามารถผ่านวิกฤตยืนยันไฟไม่ตกแน่
'พลังงาน'นัดผู้เกี่ยวข้องประชุมเครียดแก้ปัญหา พบทางออกสามารถผ่านวิกฤตยืนยันไฟไม่ตกแน่ Source - พิมพ์ไทย (Th) Thursday, March 07, 2013 03:39
หลังจากเรียกประชุมหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชนในครึ่งของวันแรก กระทรวงพลังงานพบข้อสรุป เมื่อเกือบทุกหน่วยงานร่วมมือกันประหยัดพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม สามารถบรรเทาความกังวลในช่วงที่พม่าหยุดส่งก๊าซในวันที่ 5-14 ก.พ.ได้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.กล่าวว่า ผลประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานในการรับมือก๊าซฯ พม่าหยุดส่ง 5-14 เม.ย. พบเอกชนหยุดผลิตเอสพีพีส่งไฟฟ้าเพิ่ม ทำให้ไฟฟ้าสำรองเพิ่มเป็น 1,424 เมกะวัตต์ และส่งผลให้ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) อาจไม่ปรับเพิ่ม เพราะเอสพีพีต้นทุนถูกกว่าการใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้า จากเดิมที่คาดว่าเอฟทีอาจปรับเพิ่มขึ้น 0.48 สตางค์ต่อหน่วย รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สำรองไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในวันที่ 5 เม.ย. จากเดิม 767 เมกะวัตต์ เป็น 1,424 เมกะวัตต์ มาจากความร่วมมือของโรงงานสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่ร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้าถึง 408 เมกะวัตต์ 13 กลุ่มอุตสาหกรรม ส่วนการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรายงานว่านิคมฯ ช่วยลดได้ถึง 83 เมกะวัตต์ ในขณะที่ 4 โรงงานตามสัญญารับซื้อไฟฟ้าประเภทหยุดส่งได้จะลดไฟฟ้าได้อีก 56 เมกะวัตต์ ส่วนเอสพีพีพร้อมผลิตเพิ่มอีก110 เมกะวัตต์ ในส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซีย 200 เมกะวัตต์แล้วเพราะต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงตั้งแต่ 5-15 บาทต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณทั้งมาเลเซียที่พร้อมช่วยเหลือ และขอบคุณภาคเอกชนที่ร่วมมือลดการใช้พลังงาน จนเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นวิกฤตพลังงานไปได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานจะรณรงค์ประหยัดพลังงานต่อเนื่อง โดยหากประชาชนและห้างสรรพสินค้าร่วมลดใช้พลังงานก็คาดว่าจะลดได้อีก 250 เมกะวัตต์ สำรองไฟฟ้าจะเพิ่มเป็น 1,674 เมกะวัตต์ ทำให้โล่งใจสำรองเพียงพอผ่านพ้นวิกฤตไปได้" รมว.พลังงาน กล่าว สำหรับ ส.อ.ท.ได้ประสานกลุ่มอุตสาหกรรม 13 กลุ่มลดใช้ไฟฟ้าลงได้ 408 เมกะวัตต์ อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ 137 เมกะวัตต์ ปูนซีเมนต์ 126 เมกะวัตต์ ปิโตรเคมี 18 เมกะวัตต์ สิ่งทอ 3.4 เมกะวัตต์ อาหาร 21 เมกะวัตต์แก้วและกระจก 1 เมกะวัตต์ ยา 15 เมกะวัตต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้า 7 เมกะวัตต์ และยานยนต์ 1 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม การหยุดผลิตชั่วคราวของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือและพระนครใต้ทำให้สายส่งต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีปัญหาแรงดันต่ำ ซึ่งทั้ง 3 การไฟฟ้าจะเป็นผู้ดูแลสายส่งให้มีเสถียรภาพซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาไฟตกแน่นอน
ด้านพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมจะลดใช้ไฟฟ้าทุกระบบ เช่น ระบบอากาศอัด หรือคอมเพรสเซอร์ และใช้อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ รวมทั้งสามารถหยุดเครื่องจักรที่ไม่สำคัญบางประเภท เช่น โรงปูนซีเมนต์ที่จะลดใช้ไฟของตัวหม้อบดดินได้ ซึ่งจะไม่ส่งผลเสียหายต่อระบบผลิต ส่วนภาคยานยนต์ทุกค่ายตั้งใจจะช่วยลดการใช้ไฟ แต่เนื่องจากมีซัพพลายเชนมากจึงต้องใช้เวลาวางแผนการลดการใช้ไฟซึ่งเชื่อว่าต่อไปจะสามารถประหยัดได้มากกว่าในปัจจุบัน--จบ--