เราและเพื่อนรวมงาน4คน วางแผนไปเที่ยวเชียงใหม่-อ่างขางตั้งแต่เดือนตุลาคมโดยจะออกเดินทางวันที่25 มกราคม
โดยได้แพลนการเดินทางคราวๆ เราเสนอว่าน่าจะไปรถไฟวิวข้างทางสวยและไปรถนอน ชั้น2JRเพราะนั้ง4คน1ห้องนั่ง-นอน
สดวกสบายกว่าเหมือนนอนอยู่บ้านตื่นเช้ามาออกเที่ยวได้เลย และชอบเดินทางด้วยรถไฟอยู่แล้วแล้วกลับทางเครื่องบินจึงตกลงกัน
โดยเริ่มจอง ตั๋วรถไฟออนไลน์ก่อนเป็นรถนอนJRขบวนที่13ก่อนตั้งแต่เดือน พฦษจิกายน เพราะทราบว่าตั๋วรถไฟเต็มเร็ว
โดยเสียค่าตํ๋ว+ค่าธรรมเนียมจองตั๋วออนไลน์20บาท และ+3%จากcradit cardต่อตั๋ว1ใบทั้งหมด4ใบ แล้วจองที่พักดอยอ่างขาง จองรถเช่า
พร้อมตั่วเครื่องบินขากลับเสร็จสรรพ ก็นอนสบายใจพร้อมนับวันถอยหลังออกเดินทางได้
จนถึงวันเดินทางก็ออกเดินทางสบายใจจากบ้าน ไปรอรถไฟที่สถานี ดอนเมือง รถไฟไทยก็มาตามเวลา คือเลท นิดนึง 21.30
รถไฟจอดสนิทก้เดินขึ้นหาตู้เบอร์10 หาเท่าไรก็ไม่เจอ เพราะปกติ ตู้ท้ายสุด เป็นรถนอน ชั้น1ตู้เบอร์10ก็ต้องรองสุดท้าย
เพราะซื้อตํ๋วออนไลน์ จนเดินทะลุชั้น1มามีอีกตู้เก่าๆมันใช่หรือ เลยถามพนักงานรถไฟ
ใช่ตู้เบอร10ใหม เขาบอกว่าใช่ เราเถียงใช้เหรอจองตู้ JR นะ พนักงานไม่ตอบอะไร ขอตั๋วแล้วบอกนี่คือที่นั่งของท่าน
นำตั๋วไปเขียนๆ ด้านหลังพร้อมบอกขอเงินคืน ที่สถานีปลายทาง เรานิ่งชะงักงันไป10วินาที
ภาพที่ฝันไว้ว่าได้ที่นอนอันเงียบสงบนั่งคุยนอนคุยกันในห้อง4คนมันมลายหายไปสิ้น สภาพความเป็นจริงคือ
รถไฟตู้นอนแอร์เก่าๆเสียงดัง มีทางเดินตรงกลาง พร้อมคนเดินไปมาสนุกสนาน มีทั้งการพนัน ทั้งไพ่ ไฮโล เหล้าเบียร์เต็มไปหมดไปหมด
จึงสอบถาม ได้ความว่า เป็นกรุ๊ปทัวร์ ของบริษัทขายน้ำมันที่มียอดขายอันดับ 1ของเมืองไทยได้เหมาขบวนนี้ไปลงที่ลำปาง
พวกเราเลยกลายเป็นส่วนที่เหลือของการรถไฟพร้อมชาวต่างชาติ ที่จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าก่อนอีก10กว่าคนจึงโดนถีบมาอยู่ตู้สุดท้าย
เพราะจริงๆขบวนนี้ตู้สุดท้ายของขบวนนี้คือรถนอนชั้น1แต่ตอนนี้นำตู้เก่ามาต่อให้พวกเราที่จองล่วงหน้าก่อนทัวร์จอง
ส่วนที่นั่งที่เหลือมีแต่ผู้ชายขี้เมาและไกด์ของกรุปทัวร์ส่วนพวกตู้ดีๆๆเขาให้ผู้หญิงนอน ซึ้งเขาเดินและกินเบียร์เล่นการพนันกันทั้งคืน
และเสียงรถไฟกระแทกรางเข้ามาในตัวรถดังมาก ไม่เหมือนรถjrที่นุ่มสบาย เราบอกขอพนักงานเปลี่ยนตู้ก็ไม่ยอมเขาบอกเต็ม
นอนไม่ได้ก็ลงไปขอเงินคืนที่สถานี งงเลย ดึกขนาดนี้จะไปอย่างไงเนี่ยที่พักเราก็จองไว้หมดแล้วไม่ไปก็เสียเงินไปฟรีเลยต้องทนไม่หลับนอนกันไป
ไปตู้เสบียงอาหารก็หมดในตู้รถปกติมีน้ำร้อนชงมาม่าก็ไม่มีลองขอพนักงานประจำรถ ก็บอกเป็นหน้าที่ของรถเสบียงนำมาให้
พอขอเจ้าหน้ารถเสบียงก็ทำหน้าเหวี่ยงไม่พูดจาเดินหนีเลย เสียความรู้สึกมาก ก็ทนนอนหลับๆตื่นๆ จนเช้าเห็นเขากินอาหารเช้าเลยสั่งมั่ง พนักงานเสบียงบอกว่า ทัวร์จองหมดแล้ว ตายละกว่าจะถึงก็เที่ยงดีที่พกขนมขบเคี้ยวมาแยะ จนถึงลำปางทัวร์ลง หมดแล้วรถก็โล่ง
อาหารไม่มี พนักงานไม่มีโผล่หัวมาดูแลเลย จนถึงเชียงใหม่ นำตั๋วไปขอเงินคืนได้มา 35บาท จริงๆ ไม่รู้จะด่าอย่างไรเลย
ถึงที่พักก็สลบนอนก่อนดีกว่าไม่ได้เที่ยวไป1วัน
สรุป เราจ่ายแพงกว่าเขาแต่ได้รับบริการเป็นชนชั้น2ไป ซึ้งเครื่องบินมีแต่อับเกรดขึ้น คิดแล้วมันน่าเจ็บใจ จริงๆ
เห็นลูกค้ารายใหญ่จองมันถีบเราลงเลย ไม่คิดถึงคนที่จองล่วงหน้าเขาคิดแพลนไว้นานแล้ว ถ้าบอกก่อนล่วงหน้าจะได้เปลี่ยนแผนไปเครื่องบินหรือรถทัวร์ได้ทันการณ์
แต่นี่ไม่มีอะไรเลยครับปล่อยไปตามยถากรรมช่างหัวผู้โดยสารมัน บางคนอาจบอกว่าชั้น3เขาลำบากกว่าอีก แต่เราไม่ใช่ไปเที่ยวต้องสบายไม่มีสิ่งกวนใจ เราถึงไปรถขบวนนี้ ซึ้งจ่ายแพงกว่ามากพอๆกับเครื่องบิน เขาไม่คิดถึงผู้โดยสารที่จองตั๋วระยะเวลานานเลย แค่เปลี่ยนตู้เขายังไม่ทำเลย เป็นการท่องเที่ยวที่เซ็งมากๆ แต่ดีที่ว่าวันรุ่งขึ้นไปเที่ยว ดอยอ่างขาง เห็นดอกซากุระ ทำให้อารมณ์ดีขึ้นบ้าง
ประสบการณ์สุดแย่ กับการท่องเที่ยวรถไฟ
โดยได้แพลนการเดินทางคราวๆ เราเสนอว่าน่าจะไปรถไฟวิวข้างทางสวยและไปรถนอน ชั้น2JRเพราะนั้ง4คน1ห้องนั่ง-นอน
สดวกสบายกว่าเหมือนนอนอยู่บ้านตื่นเช้ามาออกเที่ยวได้เลย และชอบเดินทางด้วยรถไฟอยู่แล้วแล้วกลับทางเครื่องบินจึงตกลงกัน
โดยเริ่มจอง ตั๋วรถไฟออนไลน์ก่อนเป็นรถนอนJRขบวนที่13ก่อนตั้งแต่เดือน พฦษจิกายน เพราะทราบว่าตั๋วรถไฟเต็มเร็ว
โดยเสียค่าตํ๋ว+ค่าธรรมเนียมจองตั๋วออนไลน์20บาท และ+3%จากcradit cardต่อตั๋ว1ใบทั้งหมด4ใบ แล้วจองที่พักดอยอ่างขาง จองรถเช่า
พร้อมตั่วเครื่องบินขากลับเสร็จสรรพ ก็นอนสบายใจพร้อมนับวันถอยหลังออกเดินทางได้
จนถึงวันเดินทางก็ออกเดินทางสบายใจจากบ้าน ไปรอรถไฟที่สถานี ดอนเมือง รถไฟไทยก็มาตามเวลา คือเลท นิดนึง 21.30
รถไฟจอดสนิทก้เดินขึ้นหาตู้เบอร์10 หาเท่าไรก็ไม่เจอ เพราะปกติ ตู้ท้ายสุด เป็นรถนอน ชั้น1ตู้เบอร์10ก็ต้องรองสุดท้าย
เพราะซื้อตํ๋วออนไลน์ จนเดินทะลุชั้น1มามีอีกตู้เก่าๆมันใช่หรือ เลยถามพนักงานรถไฟ
ใช่ตู้เบอร10ใหม เขาบอกว่าใช่ เราเถียงใช้เหรอจองตู้ JR นะ พนักงานไม่ตอบอะไร ขอตั๋วแล้วบอกนี่คือที่นั่งของท่าน
นำตั๋วไปเขียนๆ ด้านหลังพร้อมบอกขอเงินคืน ที่สถานีปลายทาง เรานิ่งชะงักงันไป10วินาที
ภาพที่ฝันไว้ว่าได้ที่นอนอันเงียบสงบนั่งคุยนอนคุยกันในห้อง4คนมันมลายหายไปสิ้น สภาพความเป็นจริงคือ
รถไฟตู้นอนแอร์เก่าๆเสียงดัง มีทางเดินตรงกลาง พร้อมคนเดินไปมาสนุกสนาน มีทั้งการพนัน ทั้งไพ่ ไฮโล เหล้าเบียร์เต็มไปหมดไปหมด
จึงสอบถาม ได้ความว่า เป็นกรุ๊ปทัวร์ ของบริษัทขายน้ำมันที่มียอดขายอันดับ 1ของเมืองไทยได้เหมาขบวนนี้ไปลงที่ลำปาง
พวกเราเลยกลายเป็นส่วนที่เหลือของการรถไฟพร้อมชาวต่างชาติ ที่จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าก่อนอีก10กว่าคนจึงโดนถีบมาอยู่ตู้สุดท้าย
เพราะจริงๆขบวนนี้ตู้สุดท้ายของขบวนนี้คือรถนอนชั้น1แต่ตอนนี้นำตู้เก่ามาต่อให้พวกเราที่จองล่วงหน้าก่อนทัวร์จอง
ส่วนที่นั่งที่เหลือมีแต่ผู้ชายขี้เมาและไกด์ของกรุปทัวร์ส่วนพวกตู้ดีๆๆเขาให้ผู้หญิงนอน ซึ้งเขาเดินและกินเบียร์เล่นการพนันกันทั้งคืน
และเสียงรถไฟกระแทกรางเข้ามาในตัวรถดังมาก ไม่เหมือนรถjrที่นุ่มสบาย เราบอกขอพนักงานเปลี่ยนตู้ก็ไม่ยอมเขาบอกเต็ม
นอนไม่ได้ก็ลงไปขอเงินคืนที่สถานี งงเลย ดึกขนาดนี้จะไปอย่างไงเนี่ยที่พักเราก็จองไว้หมดแล้วไม่ไปก็เสียเงินไปฟรีเลยต้องทนไม่หลับนอนกันไป
ไปตู้เสบียงอาหารก็หมดในตู้รถปกติมีน้ำร้อนชงมาม่าก็ไม่มีลองขอพนักงานประจำรถ ก็บอกเป็นหน้าที่ของรถเสบียงนำมาให้
พอขอเจ้าหน้ารถเสบียงก็ทำหน้าเหวี่ยงไม่พูดจาเดินหนีเลย เสียความรู้สึกมาก ก็ทนนอนหลับๆตื่นๆ จนเช้าเห็นเขากินอาหารเช้าเลยสั่งมั่ง พนักงานเสบียงบอกว่า ทัวร์จองหมดแล้ว ตายละกว่าจะถึงก็เที่ยงดีที่พกขนมขบเคี้ยวมาแยะ จนถึงลำปางทัวร์ลง หมดแล้วรถก็โล่ง
อาหารไม่มี พนักงานไม่มีโผล่หัวมาดูแลเลย จนถึงเชียงใหม่ นำตั๋วไปขอเงินคืนได้มา 35บาท จริงๆ ไม่รู้จะด่าอย่างไรเลย
ถึงที่พักก็สลบนอนก่อนดีกว่าไม่ได้เที่ยวไป1วัน
สรุป เราจ่ายแพงกว่าเขาแต่ได้รับบริการเป็นชนชั้น2ไป ซึ้งเครื่องบินมีแต่อับเกรดขึ้น คิดแล้วมันน่าเจ็บใจ จริงๆ
เห็นลูกค้ารายใหญ่จองมันถีบเราลงเลย ไม่คิดถึงคนที่จองล่วงหน้าเขาคิดแพลนไว้นานแล้ว ถ้าบอกก่อนล่วงหน้าจะได้เปลี่ยนแผนไปเครื่องบินหรือรถทัวร์ได้ทันการณ์
แต่นี่ไม่มีอะไรเลยครับปล่อยไปตามยถากรรมช่างหัวผู้โดยสารมัน บางคนอาจบอกว่าชั้น3เขาลำบากกว่าอีก แต่เราไม่ใช่ไปเที่ยวต้องสบายไม่มีสิ่งกวนใจ เราถึงไปรถขบวนนี้ ซึ้งจ่ายแพงกว่ามากพอๆกับเครื่องบิน เขาไม่คิดถึงผู้โดยสารที่จองตั๋วระยะเวลานานเลย แค่เปลี่ยนตู้เขายังไม่ทำเลย เป็นการท่องเที่ยวที่เซ็งมากๆ แต่ดีที่ว่าวันรุ่งขึ้นไปเที่ยว ดอยอ่างขาง เห็นดอกซากุระ ทำให้อารมณ์ดีขึ้นบ้าง