สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เพราะว่าเมื่อใช้ Alkaline ไปจนเริ่มเยิ้มนั้น มันก็ยังมีแรงดันเพียงพอและสามารถจ่ายกระแสให้อุปกรณ์ที่กินไฟน้อยๆ ทำงานอยู่ได้อีกนาน จนผู้ใช้ไม่ได้นึกว่าถ่านหมด ยังคงใช้ไปเรื่อยๆ ถ่านก็เยิ้มไปเรื่อยๆ กว่าที่มันจะจ่ายแรงดันไม่พอให้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานได้ มันก็เยิ้มไปทั่วแล้ว
แต่ถ้าเป็นถ่าน zinc-carbon แรงดันมันจะตกต่ำกว่าที่อุปกรณ์ต้องการ ก่อนที่มันจะเริ่มเยิ้ม ผู้ใช้ก็จะสังเกตเห็นว่าอุปกรณ์ไม่ทำงาน จึงเปลี่ยนถ่านก่อนที่มันจะเยิ้ม แต่ถ้าไม่เปลี่ยน ปล่อยคาไว้อย่างนั้น ก็จะเยิ้มเละเหมือนกัน
สรุปง่ายๆก็คือว่าสภาพ"ถ่านหมด"ของ Alkaline นั้นถึงมันจะจ่ายกระแสมากๆให้อุปกรณ์โหดๆกินกระแสสูงๆไม่ได้แล้ว แต่มันยังเหลือจ่ายให้อุปกรณ์กินไฟน้อยๆได้อีกนาน ในขณะที่ Zinc-carbon มันหมดตัว เหลือแรงดันต่ำมากจนอุปกรณ์ทำงานไม่ได้
อ้อ...แต่เวลามันเน่าเยิ้มนี่ แบบ Zinc-carbon ดูจะกัดกร่อนมากกว่าแบบ Alkaline แต่ก็ขึ้นกับว่าโลหะในบริเวณนั้นคืออะไร ถ้าเป็นลายทองแดงของแผงวงจรนี่ ไม่รอดทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Zinc-carbon หรือ Alkaline
แต่ถ้าเป็นถ่าน zinc-carbon แรงดันมันจะตกต่ำกว่าที่อุปกรณ์ต้องการ ก่อนที่มันจะเริ่มเยิ้ม ผู้ใช้ก็จะสังเกตเห็นว่าอุปกรณ์ไม่ทำงาน จึงเปลี่ยนถ่านก่อนที่มันจะเยิ้ม แต่ถ้าไม่เปลี่ยน ปล่อยคาไว้อย่างนั้น ก็จะเยิ้มเละเหมือนกัน
สรุปง่ายๆก็คือว่าสภาพ"ถ่านหมด"ของ Alkaline นั้นถึงมันจะจ่ายกระแสมากๆให้อุปกรณ์โหดๆกินกระแสสูงๆไม่ได้แล้ว แต่มันยังเหลือจ่ายให้อุปกรณ์กินไฟน้อยๆได้อีกนาน ในขณะที่ Zinc-carbon มันหมดตัว เหลือแรงดันต่ำมากจนอุปกรณ์ทำงานไม่ได้
อ้อ...แต่เวลามันเน่าเยิ้มนี่ แบบ Zinc-carbon ดูจะกัดกร่อนมากกว่าแบบ Alkaline แต่ก็ขึ้นกับว่าโลหะในบริเวณนั้นคืออะไร ถ้าเป็นลายทองแดงของแผงวงจรนี่ ไม่รอดทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Zinc-carbon หรือ Alkaline
แสดงความคิดเห็น
แบตเตอรี่ ธรรมดา v.s. Alkaline
แต่เขาก็บอกไม่ได้ว่าเพราะเหตุไร และก็ไม่ใช่คนเดียวที่บอก ได้ยินมาหลายแหล่งเหมือนกัน
เท่าที่คิดดูมันก็ก้อนละ 1.5 volt เหมือนกันหมด ถ้าเป็น Alkaline ดีเสียอีกที่ไฟแรงกว่าและทนทานกว่าไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
ใครที่รู้จริงกรุณาให้ความกระจ่ายด้วย ขอบคุณครับ