ว่างๆเลยลองเอานิยายฮาเล็มนานาชาติกลับมาอ่านใหม่อีกรอบทวนความจำเพื่อเตรียมอ่านเล่มแปดที่กำหนดจะออกเดือนเมษายนนี้(หากไม่มีอะไรผิดพลาดนะ)
พอลองอ่านๆดูแล้ว เจ๊กระต่ายแกนี่สุดยอดแห่งความเกรียนจริงๆ หากสมมติฐานที่เจ๊จิฟุยุตั้งไว้เป็นความจริงล่ะก็เจ๊กระต่ายนี่มันอาชญากรระดับค่อดๆอันตรายเลยนะ
เริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดจากเหตุการณ์ไวท์ไนท์ซึ่งมีมิซไซล์สองพันกว่าลูกถูกแฮ็กกิ้งจากสิบสี่ประเทศให้ระดมยิงมายังญี่ปุ่น(โดยเจ๊จิฟุยุคาดว่าเป็นฝีมือของทาบาเนะเองเพื่อพรีเซ็นอนุภาพของไอเอสให้ทั่วโลกได้เห็น) ดูจากการที่จิฟุยุไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของทาบาเนะจริงๆหรือเปล่า....จึงคาดได้ว่าจิฟุยุไม่มีส่วนเอี่ยวในคดีนี้ เพียงแต่ถูกบอกว่ามีมิซไซล์พุ่งมาให้ใช้ไอเอสออกไปยิงสกัด จิฟุยุอาจจะพอเดาได้ว่าเป็นฝีมือของทาบาเนะ(เพราะมีแค่คนเดียวนี่แหละที่ทำได้แฮ็กกิ้งคอมสิบสี่ประเทศโดยไม่ทิ้งร่องรอยนี่นะ)แต่ไม่มีทางเลือกเลยต้องยอมใช้ไอเอสออกไปสกัดจรวดตามที่ทาบาเนะวางแผนไว้ นี่เป็นจุดที่ผมคาดว่าเป็นรอยแตกแยกระหว่างเพื่อนรักสองคนนี้เพราะจิฟุยุยังมีสามัญสำนักปกติ แต่ทาบาเนะเป็นอัจฉริยะประเภทที่ทำอะไรตามใจตนเอง มั่นใจว่าจิฟุยุต้องออกไปสกัดจรวดได้หมดแน่ๆ(ตัวทาบาเนะเองก็คงจะกำหนดให้จรวดมาเป็นระลอกๆด้วยแหละ เพราะหากมาพร้อมๆกันหมดต่อให้เป็นจิฟุยุก็คงจะสกัดได้ไม่หมด) นี่อาจจะเป็นเหตุทำให้จิฟุยุตีตัวออกห่างจากทาบาเนะก็ได้(ผมเดานะ)
หลังจากที่ทั่วโลกยอมรับในพลังของไอเอสก็ไม่ผลิตออกมาเรื่อยๆ ผลิตแค่หกร้อยกว่าเครื่องเพื่อดึงคุณค่าของไอเอสให้ขึ้นถึงขีดสุด และครอบครองวิทยาการผลิตคอร์ของไอเอสแต่เพียงผู้เดียว ผมยังซ่อนตัวเพื่อไม่ให้ใครหาตัวได้อีก ทำให้คุณค่าของไอเอสซึ่งมีจำนวนจำกัดในสายตาคนทั้งโลกพุ่งสูงขึ้น
จิฟุยุเดาว่าอิจิกะไม่ได้เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ขับไอเอสได้โดยบังเอิญแต่เป็นความตั้งใจของทาบาเนะ ที่จัดฉากให้แผนที่สอบเข้า ม.ปลายของอิจิกะนำทางไปผิดที่ไปยังสถานที่สอบไอเอส แต่ทำให้ไอเอสเครื่องทดสอบทำงานได้ชั่วขณะที่อิจิกะเข้าไปสัมผัส หลังจากนั้นตอนที่อิจิกะได้ไอเอสส่วนตัว"เบียคุชิกิ"นั้น ทาบาเนะมีบอกว่าตนเองเป็นคนไปดัดแปลงเบียคุชิกิมาก่อนเล็กน้อย ก่อนที่จะมาถึงมืออิจิกะ(ติดตั้งชิ้นส่วนของไอเอสรุ่นสี่ที่ดาบของเบียคุชิกิ) ตอนนั้นทาบาเนะอาจจะดัดแปลงให้เบียคุชิกิสามารถทำเดินเครื่องโดยอิจิกะได้ด้วยก็ได้ หากถามว่าจะให้อิจิกะขับไอเอสได้ไปทำไม? ก็เพื่อให้อิจิกะ โฮกิ และจิฟุยุที่เป็นคนเพียงสามคนบนโลกที่ทาบาเนะแคร์มาอยู่รวมกันที่โรงเรียนไอเอส และเพื่อชักจำให้อิจิกะมาพบกับโฮกิอีกครั้งในรอบหกปีด้วย เป็นของขวัญให้กับน้องสาวของตน
ตอนหลังในเล่มเจ็ดท่านประธานทาเทะนาชิ ได้ตรวจสอบโฮกิแล้วพบว่าโฮกิมีคุณสมบัติการขับไอเอสในระดับ S ซึ่งเป็นระดับที่เทียบเท่ากับจิฟุยุและแร็งกิ้งอันดับหนึ่งของโลกคนปัจจุบัน"วาลคิวเรีย"ด้วย แต่ในตอนเล่มหนึ่งโฮกิบอกว่าคุณสมบัติของตนอยู่ระดับ C ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด(พวกตัวแทนของแต่ละประเทศนั้นอยู่ระดับ A อิจิกะอยู่ระดับ B) ทาเทะนาชิคาดเดาว่าคนเดียวที่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้คือทาบาเนะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม?
....ตรงจุดนี้ผมเดาข้อนี้ได้ว่าทาบาเนะแก้ไขข้อมูลคุณสมบัติของโฮกิให้ต่ำๆเอาไว้เพื่อไม่ให้ประเทศไหนจับตามองโฮกิ เพราะหากคุณสมบัติระดับ S ซึ่งมีจำนวนนับนิ้วได้ถูกเปิดเผย จะต้องมีประเทศไหนเข้าหาโฮกิเพื่อเสนอให้มาเป็นตัวแทนประเทศตนแน่นอน(เหมือนท่านประธานที่เป็นคนญี่ปุ่นแต่เป็นตัวแทนรัสเซีย) อีกทั้งโฮกิยังเป็นน้องสาวของทาบาเนะอีกด้วย หลายๆประเทศจะต้องอยากเชื่อมสัมพันธ์เอาไว้อยู่แล้ว หากเป็นเช่นนั้นโฮกิก็จะได้รับไอเอสส่วนตัวมาไว้ใช้งาน ไม่จำเป็นต้องพึ่งทาบาเนะก็ได้ ตรงส่วนนี้ทาบาเนะได้วางแผนตอกย้ำให้โฮกิได้รู้ว่าหากไม่มีไอเอสส่วนตัวก็จะไม่สามารถต่อสู้เคียงข้างอิจิกะได้ จากที่เห็นได้จากตอนที่อิจิกะปะทะกับริน แล้วมีไอเอสไร้คนบังคับเข้ามาแทรก คนที่ต่อสู้ร่วมกันอิจิกะได้ในตอนนั้นคือริน และเซชิเรีย ซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศซึ่งมีไอเอสส่วนตัวของตัวเอง ส่วนโฮกิก็ได้แต่ยืนมอง และยิ่งเหมือนกับเป็นการตอกย้ำเมื่อโฮกิแพ้ให้กับชาร์ล็อตในการแข่งแท็คแม็ตอย่างราบคาบ(ฝีมือโฮกิไม่ถึงเองด้วยแหละ) แต่ก็เป็นการฝังความคิดให้กับโฮกิอย่างชัดเจนว่าไอเอสรุ่นผลิตจำนวนมากนั้นหากฝีมือไม่แน่จริงจะไม่สามารถต่อกรกับไอเอสส่วนตัวซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของแต่ละประเทศได้
เมื่อเป็นเช่นนั้นโฮกิจะต้องทำยังไง? ฝีมือตัวเองก็ยังไม่ถึงขั้น คุณสมบัติในการขับไอเอสก็ระดับ C ไม่มีประเทศไหนจะมาเสนอไอเอสให้แน่นอนเพราะต่อให้เป็นน้องสาวของทาบาเนะก็เถอะ การลงทุนมอบไอเอสที่เป็นของล้ำค่าของประเทศให้กับคนที่ไม่มีคุณสมบัติมากพอจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มทุน ทางเลือกของโฮกิก็เลยมีทางเดียวคือต้องโทรไปอ้อนทาบาเนะ ซึ่งทาบาเนะก็รู้อยู่แล้วว่าโฮกิไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพึ่งตนจึงได้เตรียมอากะซึบากิเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เท่ากับว่าทั้งหมดนี้คือแผนการของทาบาเนะเพื่อทำให้โฮกิน้องสาวที่ไม่ค่อยถูกกับพี่สาวยอมมาอ้อนวอนขอร้องพี่สาว
เหตุการณ์ที่เป็นเหมือนเหตุผลสบับสนุนความคิดนี้คือซิลเวอร์กอลเปล พอโฮกิได้ไอเอสรุ่นใหม่ล่าสุดของโลกมาปุ๊บก็เปิดเหตุการณ์ที่ฐานทัพของอเมริกากับอิสราเอลโดนแฮ็กกิ้ง ทำให้ซิลเวอร์ฯคลุ้มคลั่ง คนที่มีฝีมือพอจะทำเรื่องแบบนี้ได้ก็น่าจะมีแค่ทาบาเนะอีกนั้่นแหละ ทำไปทำไม? ก็เพื่อสร้างเวทีเดบิวให้กับน้องสาวของตนที่เพิ่งจะได้ไอเอสใหม่มา และยังมีเหตุการณ์ในนิยายเล่มเจ็ดที่ไอเอสไร้คนขับรุ่นสาม GolemIII ซึ่งติดตั้งอาวุธต่อต้านไอเอสโดยเฉพาะถูกส่งมาโจมตีโรงเรียนไอเอสในขณะที่กำลังจะจัดแท็กแมทของพวกคนที่มีไอเอสส่วนตัว จากเหตุการณ์นี้ทำให้โฮกิสามารถพัฒนาความสามารถใหม่ของอากะซึบากิได้ และข้อมูลนี้ก็ได้ถูกส่งไปยังทาบาเนะโดยอัตโนมัติ และมีคำบรรยายว่าคนที่สร้างไอเอสไร้คนบังคับนั้นคือตัวทาบาเนะเองแน่นอน 100% ไม่ผิดแน่นอนแล้ว ไอเอสไร้คนบังคับที่เล่นทาเทะนาชิจนปางตายนั้นทาบาเนะส่งไปก็เพื่อทำให้ความสามารถของอากะซึบากิพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก
ในตอนท้ายของอนิเมะที่จิฟุยุถามทาบาเนะเหมือนว่าทำเรื่องแบบนี้ทำไม....ทาบาเนะก็ถามกลับว่าตอนนี้จิฟุยุรู้สึกว่าโลกนี้มันสนุกหรือเปล่า? นั่นก็เหมือนเป็นคำตอบว่าที่ทาบาเนะทำเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมาก็เพื่อความสนุกของตนเอง หากให้เดาก็คือสำหรับทาบาเนะแล้วโลกนี้อะไรๆมันก็น่าเบื่อไปหมดก็เลยสร้างไอเอสขึ้นมา ก่อเรื่องก่อคดีทั้งหมดขึ้นมาก็เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับตนเอง.....อะไรประมาณนี้ล่ะมั้ง
และยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทาบาเนะคอยก่อเรื่องแถบๆโรงเรียนไอเอสอยู่เรื่อยๆก็เพื่อดึงให้จิฟุยุขึ้นไอเอสอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเรื่องราวระหว่างสองคนนี้ในอดีตเคยเกิดอะไรขึ้นนั้นคงจะเดาได้ยาก มีแต่คนเขียนเท่าน้ันที่รู้ แต่ที่จิฟุยุไม่ยอมขึ้นไอเอสนั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับทาบาเนะแน่นอน ส่วนทาบาเนะก็อยากจะเห็นจิฟุยุขึ้นไอเอสอีกครั้งจึงได้คอยก่อเรื่องกับโรงเรียนไอเอสที่จิฟุยุสอนอยู่เสมอเพื่อที่สักวันจิฟุยุจะขึ้นไอเอสมาจัดการกับปัญหาที่ทาบาเนะก่อขึ้น(ตรงนี้คิดว่าไม่ผิดเพราะทาบาเนะมีบ่นๆว่าทำยังไงๆจิฟุยุก็ไม่ยอมขึ้นไอเอสสักที)
พิมพ์มาเยอะจนถึงตอนนี้ผมเลยรู้สึกเลยว่าเจ๊กระต่ายนี่เป็นพวกอัจฉริยะจนเกินไป ทำให้ขาดแคลนอารมณ์ความรู้สึกของคนทั่วๆไปนะ เพราะเจ๊แกทำอะไรได้ตามใจตนเอง ไม่เคยจะสนใจว่าคนอื่นจะเป็นจะตายร้ายดียังไง จะมีสนใจก็แค่จิฟุยุ โฮกิ และอิจิกะเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเจ๊แกก็เป็นพวกที่มีความมั่นใจในความคิดของตัวเองสูงว่าความคิดของตนนั้นไม่ผิดแน่นอน อย่างตอนยิงจรวดมาญี่ปุ่น เจ๊แกไม่ได้คิดเลยว่าหากจิฟุยุไม่ยอมขึ้นไอเอสจะเป็นยังไง หากจิฟุยุยิงสกัดได้ไม่หมดจะเป็นยังไง ตอนที่ส่งโกเลมมาจู่โจมโรงเรียนไอเอสถึงสองครั้ง หากมีคนตายขึ้นมาจะเป็นยังไง หากอิจิกะกับโฮกิที่เข้าต่อสู้กับโกเลมเจ็บหรือตายขึ้นมาจะเป็นยังไง เพราะเจ๊แกมั่นใจสุดๆว่าอิจิกะกับโฮกิจะต้องจัดการกับโกเลมได้ คือเชื่อมั่นในความคิดของตนแบบสุดๆ
เท่านี้คือการวิเคราะห์ความเกรียนของเจ๊กระต่ายแกหลังจากที่ได้อ่านนิยายอีกรอบวอร์มๆก่อนเล่มแปด ถูกหรือผิดไม่รู้ มันแล้วแต่คนเขียน แต่นี่คือความเห็นของผมในขณะนี้ ไม่แน่คนเขียนอาจเล่นมุขแบบตำนานเทพประยุทธ์ที่ผลิกตัวร้ายมาเป็นนางเอกในตอนท้ายก็ได้ เห็นเจ๊แกทำตัวเกรียนๆแบบนี้ความจริงแล้วอาจจะทำเพื่อให้อิจิกะกับพวกสาวๆพัฒนาฝีมือขึ้นมารับมือกับมนุษย์ต่างดาวที่กำลังจะบุกมายังโลกก็ได้.....ว่าไปนั้น
จากนี้ไปเป็นแค่ลางสังหรณ์ของผมไม่มีหลักฐานหรืออะไรมารองรับ แต่อยากลองถามเพื่อนๆในพันธุ์ทิพว่าคิดยังไงกับข้อสมมติฐานข้างบนกับข้อสมมติฐานเหล่านี้
1. ผมว่าเจ๊สควอล ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของพวกก่อการร้ายที่ชิงไอเอสจากประเทศต่างๆ อาจจะเป็นอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบันนี้"วาลคิวเรีย"ก็ได้ ไม่รู้นะว่าเพราะอะไรแต่ลางสังหรณ์มันบอกแบบนั้น ทั้งผมทองบ้างล่ะ ไอเอสสีทองบ้างล่ะ เป็นระดับผู้นำระดับสูงขององค์กรก็น่าจะมีฝีมือพอๆกับจิฟุยุล่ะนะ....ก็เลยว่าจะมีฝีมือสักอันดับหนึ่งของโลกตอนนี้อะไรแบบเนี้ย
2.โอริมูระ มาโดกะ หรือเอ็ม...เด็กสาวหน้าตาเหมือนจิฟุยุตอน ม.ปลาย ที่บอกว่าตนเป็นน้องสาวของจิฟุยุนนั้น น่าจะเป็นโคลนของจิฟุยุ จิฟุยุเลยไม่รู้ถึงตัวตนของมาโดกะมาก่อน อันนี้ก็แค่เดาๆเอา จากเนื้อเรื่องแบบพื้นฐานจากเรื่องอื่นๆอ่ะนะ ไม่มีอะไรมายืนยันได้ แต่ดูจากนิสัยของมาโดกะที่อยากต่อสู้กับจิฟุยุ อยากทำร้ายจิฟุยุถึงขนาดกรีดหน้าตัวเองให้เป็นแผลเพื่อส่องกระจกดูใบหน้าที่เป็นแผลของตัวเอง เพื่อจินตนาการถึงใบหน้ายามบาดเจ็บของจิฟุยุแล้ว....เหมือนพวกตัวโคลนที่อยากโค่นตัวออริจินัลเพื่อพิสูจน์ตัวตนของตัวเองอยู่นะ
3.คอร์ของเบียคุชิกินั้นเป็นอันเดียวกันกับไวท์ไนท์ที่จิฟุยุเคยใช้ ที่เบียคุชิกิไม่สามารถใช้สล็อตเรียกอาวุธได้เพราะว่าเมโมรี่ในสล็อตนั้นเต็มแล้ว ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพราะคอร์ของไอเอสทำการบันทึกข้อมูลของไวท์ไนท์เอาไว้ และต่อต้านไม่ยอมให้ฟอแมทข้อมูลที่อยู่ในสล็อต พอคอร์นั้นกลายมาเป็นเบียคุชิกิ ก็ยังคงมีข้อมูลของไวท์ไนท์อยู่และข้อมูลของไวท์ไนท์ก็ได้โผล่ออกมาตอนที่อิจิกะโดนซิลเวอกอสเปลยิงร่วงในโลกจิตใต้สำนึกของอิจิกะ โดยข้อมูลของไวท์ไนท์อาจจะมีบุคลิกที่เหมือนกับจิฟุยุซึ่งเป็นคนขับก็ได้ น่าจะเป็นตัวละครที่โผล่มาในจิตใต้สำนึกของอิจิกะเป็นระยะๆเพื่อใช้ในการอัพเกรดรุ่นของเบียคุชิกิ ในตอนท้ายอาจจะรวมร่างกันระหว่างเบียคุชิกิกับไวท์ไนท์จนกลายเป็นไอเอสแบบใหม่ก็ได้
(Spoil Light Novel)Infinite Stratos วิเคราะห์ความเกรียนหลังจากอ่านนิยาย
พอลองอ่านๆดูแล้ว เจ๊กระต่ายแกนี่สุดยอดแห่งความเกรียนจริงๆ หากสมมติฐานที่เจ๊จิฟุยุตั้งไว้เป็นความจริงล่ะก็เจ๊กระต่ายนี่มันอาชญากรระดับค่อดๆอันตรายเลยนะ
เริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดจากเหตุการณ์ไวท์ไนท์ซึ่งมีมิซไซล์สองพันกว่าลูกถูกแฮ็กกิ้งจากสิบสี่ประเทศให้ระดมยิงมายังญี่ปุ่น(โดยเจ๊จิฟุยุคาดว่าเป็นฝีมือของทาบาเนะเองเพื่อพรีเซ็นอนุภาพของไอเอสให้ทั่วโลกได้เห็น) ดูจากการที่จิฟุยุไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของทาบาเนะจริงๆหรือเปล่า....จึงคาดได้ว่าจิฟุยุไม่มีส่วนเอี่ยวในคดีนี้ เพียงแต่ถูกบอกว่ามีมิซไซล์พุ่งมาให้ใช้ไอเอสออกไปยิงสกัด จิฟุยุอาจจะพอเดาได้ว่าเป็นฝีมือของทาบาเนะ(เพราะมีแค่คนเดียวนี่แหละที่ทำได้แฮ็กกิ้งคอมสิบสี่ประเทศโดยไม่ทิ้งร่องรอยนี่นะ)แต่ไม่มีทางเลือกเลยต้องยอมใช้ไอเอสออกไปสกัดจรวดตามที่ทาบาเนะวางแผนไว้ นี่เป็นจุดที่ผมคาดว่าเป็นรอยแตกแยกระหว่างเพื่อนรักสองคนนี้เพราะจิฟุยุยังมีสามัญสำนักปกติ แต่ทาบาเนะเป็นอัจฉริยะประเภทที่ทำอะไรตามใจตนเอง มั่นใจว่าจิฟุยุต้องออกไปสกัดจรวดได้หมดแน่ๆ(ตัวทาบาเนะเองก็คงจะกำหนดให้จรวดมาเป็นระลอกๆด้วยแหละ เพราะหากมาพร้อมๆกันหมดต่อให้เป็นจิฟุยุก็คงจะสกัดได้ไม่หมด) นี่อาจจะเป็นเหตุทำให้จิฟุยุตีตัวออกห่างจากทาบาเนะก็ได้(ผมเดานะ)
หลังจากที่ทั่วโลกยอมรับในพลังของไอเอสก็ไม่ผลิตออกมาเรื่อยๆ ผลิตแค่หกร้อยกว่าเครื่องเพื่อดึงคุณค่าของไอเอสให้ขึ้นถึงขีดสุด และครอบครองวิทยาการผลิตคอร์ของไอเอสแต่เพียงผู้เดียว ผมยังซ่อนตัวเพื่อไม่ให้ใครหาตัวได้อีก ทำให้คุณค่าของไอเอสซึ่งมีจำนวนจำกัดในสายตาคนทั้งโลกพุ่งสูงขึ้น
จิฟุยุเดาว่าอิจิกะไม่ได้เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ขับไอเอสได้โดยบังเอิญแต่เป็นความตั้งใจของทาบาเนะ ที่จัดฉากให้แผนที่สอบเข้า ม.ปลายของอิจิกะนำทางไปผิดที่ไปยังสถานที่สอบไอเอส แต่ทำให้ไอเอสเครื่องทดสอบทำงานได้ชั่วขณะที่อิจิกะเข้าไปสัมผัส หลังจากนั้นตอนที่อิจิกะได้ไอเอสส่วนตัว"เบียคุชิกิ"นั้น ทาบาเนะมีบอกว่าตนเองเป็นคนไปดัดแปลงเบียคุชิกิมาก่อนเล็กน้อย ก่อนที่จะมาถึงมืออิจิกะ(ติดตั้งชิ้นส่วนของไอเอสรุ่นสี่ที่ดาบของเบียคุชิกิ) ตอนนั้นทาบาเนะอาจจะดัดแปลงให้เบียคุชิกิสามารถทำเดินเครื่องโดยอิจิกะได้ด้วยก็ได้ หากถามว่าจะให้อิจิกะขับไอเอสได้ไปทำไม? ก็เพื่อให้อิจิกะ โฮกิ และจิฟุยุที่เป็นคนเพียงสามคนบนโลกที่ทาบาเนะแคร์มาอยู่รวมกันที่โรงเรียนไอเอส และเพื่อชักจำให้อิจิกะมาพบกับโฮกิอีกครั้งในรอบหกปีด้วย เป็นของขวัญให้กับน้องสาวของตน
ตอนหลังในเล่มเจ็ดท่านประธานทาเทะนาชิ ได้ตรวจสอบโฮกิแล้วพบว่าโฮกิมีคุณสมบัติการขับไอเอสในระดับ S ซึ่งเป็นระดับที่เทียบเท่ากับจิฟุยุและแร็งกิ้งอันดับหนึ่งของโลกคนปัจจุบัน"วาลคิวเรีย"ด้วย แต่ในตอนเล่มหนึ่งโฮกิบอกว่าคุณสมบัติของตนอยู่ระดับ C ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด(พวกตัวแทนของแต่ละประเทศนั้นอยู่ระดับ A อิจิกะอยู่ระดับ B) ทาเทะนาชิคาดเดาว่าคนเดียวที่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้คือทาบาเนะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม?
....ตรงจุดนี้ผมเดาข้อนี้ได้ว่าทาบาเนะแก้ไขข้อมูลคุณสมบัติของโฮกิให้ต่ำๆเอาไว้เพื่อไม่ให้ประเทศไหนจับตามองโฮกิ เพราะหากคุณสมบัติระดับ S ซึ่งมีจำนวนนับนิ้วได้ถูกเปิดเผย จะต้องมีประเทศไหนเข้าหาโฮกิเพื่อเสนอให้มาเป็นตัวแทนประเทศตนแน่นอน(เหมือนท่านประธานที่เป็นคนญี่ปุ่นแต่เป็นตัวแทนรัสเซีย) อีกทั้งโฮกิยังเป็นน้องสาวของทาบาเนะอีกด้วย หลายๆประเทศจะต้องอยากเชื่อมสัมพันธ์เอาไว้อยู่แล้ว หากเป็นเช่นนั้นโฮกิก็จะได้รับไอเอสส่วนตัวมาไว้ใช้งาน ไม่จำเป็นต้องพึ่งทาบาเนะก็ได้ ตรงส่วนนี้ทาบาเนะได้วางแผนตอกย้ำให้โฮกิได้รู้ว่าหากไม่มีไอเอสส่วนตัวก็จะไม่สามารถต่อสู้เคียงข้างอิจิกะได้ จากที่เห็นได้จากตอนที่อิจิกะปะทะกับริน แล้วมีไอเอสไร้คนบังคับเข้ามาแทรก คนที่ต่อสู้ร่วมกันอิจิกะได้ในตอนนั้นคือริน และเซชิเรีย ซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศซึ่งมีไอเอสส่วนตัวของตัวเอง ส่วนโฮกิก็ได้แต่ยืนมอง และยิ่งเหมือนกับเป็นการตอกย้ำเมื่อโฮกิแพ้ให้กับชาร์ล็อตในการแข่งแท็คแม็ตอย่างราบคาบ(ฝีมือโฮกิไม่ถึงเองด้วยแหละ) แต่ก็เป็นการฝังความคิดให้กับโฮกิอย่างชัดเจนว่าไอเอสรุ่นผลิตจำนวนมากนั้นหากฝีมือไม่แน่จริงจะไม่สามารถต่อกรกับไอเอสส่วนตัวซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของแต่ละประเทศได้
เมื่อเป็นเช่นนั้นโฮกิจะต้องทำยังไง? ฝีมือตัวเองก็ยังไม่ถึงขั้น คุณสมบัติในการขับไอเอสก็ระดับ C ไม่มีประเทศไหนจะมาเสนอไอเอสให้แน่นอนเพราะต่อให้เป็นน้องสาวของทาบาเนะก็เถอะ การลงทุนมอบไอเอสที่เป็นของล้ำค่าของประเทศให้กับคนที่ไม่มีคุณสมบัติมากพอจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มทุน ทางเลือกของโฮกิก็เลยมีทางเดียวคือต้องโทรไปอ้อนทาบาเนะ ซึ่งทาบาเนะก็รู้อยู่แล้วว่าโฮกิไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพึ่งตนจึงได้เตรียมอากะซึบากิเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เท่ากับว่าทั้งหมดนี้คือแผนการของทาบาเนะเพื่อทำให้โฮกิน้องสาวที่ไม่ค่อยถูกกับพี่สาวยอมมาอ้อนวอนขอร้องพี่สาว
เหตุการณ์ที่เป็นเหมือนเหตุผลสบับสนุนความคิดนี้คือซิลเวอร์กอลเปล พอโฮกิได้ไอเอสรุ่นใหม่ล่าสุดของโลกมาปุ๊บก็เปิดเหตุการณ์ที่ฐานทัพของอเมริกากับอิสราเอลโดนแฮ็กกิ้ง ทำให้ซิลเวอร์ฯคลุ้มคลั่ง คนที่มีฝีมือพอจะทำเรื่องแบบนี้ได้ก็น่าจะมีแค่ทาบาเนะอีกนั้่นแหละ ทำไปทำไม? ก็เพื่อสร้างเวทีเดบิวให้กับน้องสาวของตนที่เพิ่งจะได้ไอเอสใหม่มา และยังมีเหตุการณ์ในนิยายเล่มเจ็ดที่ไอเอสไร้คนขับรุ่นสาม GolemIII ซึ่งติดตั้งอาวุธต่อต้านไอเอสโดยเฉพาะถูกส่งมาโจมตีโรงเรียนไอเอสในขณะที่กำลังจะจัดแท็กแมทของพวกคนที่มีไอเอสส่วนตัว จากเหตุการณ์นี้ทำให้โฮกิสามารถพัฒนาความสามารถใหม่ของอากะซึบากิได้ และข้อมูลนี้ก็ได้ถูกส่งไปยังทาบาเนะโดยอัตโนมัติ และมีคำบรรยายว่าคนที่สร้างไอเอสไร้คนบังคับนั้นคือตัวทาบาเนะเองแน่นอน 100% ไม่ผิดแน่นอนแล้ว ไอเอสไร้คนบังคับที่เล่นทาเทะนาชิจนปางตายนั้นทาบาเนะส่งไปก็เพื่อทำให้ความสามารถของอากะซึบากิพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก
ในตอนท้ายของอนิเมะที่จิฟุยุถามทาบาเนะเหมือนว่าทำเรื่องแบบนี้ทำไม....ทาบาเนะก็ถามกลับว่าตอนนี้จิฟุยุรู้สึกว่าโลกนี้มันสนุกหรือเปล่า? นั่นก็เหมือนเป็นคำตอบว่าที่ทาบาเนะทำเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมาก็เพื่อความสนุกของตนเอง หากให้เดาก็คือสำหรับทาบาเนะแล้วโลกนี้อะไรๆมันก็น่าเบื่อไปหมดก็เลยสร้างไอเอสขึ้นมา ก่อเรื่องก่อคดีทั้งหมดขึ้นมาก็เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับตนเอง.....อะไรประมาณนี้ล่ะมั้ง
และยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทาบาเนะคอยก่อเรื่องแถบๆโรงเรียนไอเอสอยู่เรื่อยๆก็เพื่อดึงให้จิฟุยุขึ้นไอเอสอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเรื่องราวระหว่างสองคนนี้ในอดีตเคยเกิดอะไรขึ้นนั้นคงจะเดาได้ยาก มีแต่คนเขียนเท่าน้ันที่รู้ แต่ที่จิฟุยุไม่ยอมขึ้นไอเอสนั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับทาบาเนะแน่นอน ส่วนทาบาเนะก็อยากจะเห็นจิฟุยุขึ้นไอเอสอีกครั้งจึงได้คอยก่อเรื่องกับโรงเรียนไอเอสที่จิฟุยุสอนอยู่เสมอเพื่อที่สักวันจิฟุยุจะขึ้นไอเอสมาจัดการกับปัญหาที่ทาบาเนะก่อขึ้น(ตรงนี้คิดว่าไม่ผิดเพราะทาบาเนะมีบ่นๆว่าทำยังไงๆจิฟุยุก็ไม่ยอมขึ้นไอเอสสักที)
พิมพ์มาเยอะจนถึงตอนนี้ผมเลยรู้สึกเลยว่าเจ๊กระต่ายนี่เป็นพวกอัจฉริยะจนเกินไป ทำให้ขาดแคลนอารมณ์ความรู้สึกของคนทั่วๆไปนะ เพราะเจ๊แกทำอะไรได้ตามใจตนเอง ไม่เคยจะสนใจว่าคนอื่นจะเป็นจะตายร้ายดียังไง จะมีสนใจก็แค่จิฟุยุ โฮกิ และอิจิกะเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเจ๊แกก็เป็นพวกที่มีความมั่นใจในความคิดของตัวเองสูงว่าความคิดของตนนั้นไม่ผิดแน่นอน อย่างตอนยิงจรวดมาญี่ปุ่น เจ๊แกไม่ได้คิดเลยว่าหากจิฟุยุไม่ยอมขึ้นไอเอสจะเป็นยังไง หากจิฟุยุยิงสกัดได้ไม่หมดจะเป็นยังไง ตอนที่ส่งโกเลมมาจู่โจมโรงเรียนไอเอสถึงสองครั้ง หากมีคนตายขึ้นมาจะเป็นยังไง หากอิจิกะกับโฮกิที่เข้าต่อสู้กับโกเลมเจ็บหรือตายขึ้นมาจะเป็นยังไง เพราะเจ๊แกมั่นใจสุดๆว่าอิจิกะกับโฮกิจะต้องจัดการกับโกเลมได้ คือเชื่อมั่นในความคิดของตนแบบสุดๆ
เท่านี้คือการวิเคราะห์ความเกรียนของเจ๊กระต่ายแกหลังจากที่ได้อ่านนิยายอีกรอบวอร์มๆก่อนเล่มแปด ถูกหรือผิดไม่รู้ มันแล้วแต่คนเขียน แต่นี่คือความเห็นของผมในขณะนี้ ไม่แน่คนเขียนอาจเล่นมุขแบบตำนานเทพประยุทธ์ที่ผลิกตัวร้ายมาเป็นนางเอกในตอนท้ายก็ได้ เห็นเจ๊แกทำตัวเกรียนๆแบบนี้ความจริงแล้วอาจจะทำเพื่อให้อิจิกะกับพวกสาวๆพัฒนาฝีมือขึ้นมารับมือกับมนุษย์ต่างดาวที่กำลังจะบุกมายังโลกก็ได้.....ว่าไปนั้น
จากนี้ไปเป็นแค่ลางสังหรณ์ของผมไม่มีหลักฐานหรืออะไรมารองรับ แต่อยากลองถามเพื่อนๆในพันธุ์ทิพว่าคิดยังไงกับข้อสมมติฐานข้างบนกับข้อสมมติฐานเหล่านี้
1. ผมว่าเจ๊สควอล ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของพวกก่อการร้ายที่ชิงไอเอสจากประเทศต่างๆ อาจจะเป็นอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบันนี้"วาลคิวเรีย"ก็ได้ ไม่รู้นะว่าเพราะอะไรแต่ลางสังหรณ์มันบอกแบบนั้น ทั้งผมทองบ้างล่ะ ไอเอสสีทองบ้างล่ะ เป็นระดับผู้นำระดับสูงขององค์กรก็น่าจะมีฝีมือพอๆกับจิฟุยุล่ะนะ....ก็เลยว่าจะมีฝีมือสักอันดับหนึ่งของโลกตอนนี้อะไรแบบเนี้ย
2.โอริมูระ มาโดกะ หรือเอ็ม...เด็กสาวหน้าตาเหมือนจิฟุยุตอน ม.ปลาย ที่บอกว่าตนเป็นน้องสาวของจิฟุยุนนั้น น่าจะเป็นโคลนของจิฟุยุ จิฟุยุเลยไม่รู้ถึงตัวตนของมาโดกะมาก่อน อันนี้ก็แค่เดาๆเอา จากเนื้อเรื่องแบบพื้นฐานจากเรื่องอื่นๆอ่ะนะ ไม่มีอะไรมายืนยันได้ แต่ดูจากนิสัยของมาโดกะที่อยากต่อสู้กับจิฟุยุ อยากทำร้ายจิฟุยุถึงขนาดกรีดหน้าตัวเองให้เป็นแผลเพื่อส่องกระจกดูใบหน้าที่เป็นแผลของตัวเอง เพื่อจินตนาการถึงใบหน้ายามบาดเจ็บของจิฟุยุแล้ว....เหมือนพวกตัวโคลนที่อยากโค่นตัวออริจินัลเพื่อพิสูจน์ตัวตนของตัวเองอยู่นะ
3.คอร์ของเบียคุชิกินั้นเป็นอันเดียวกันกับไวท์ไนท์ที่จิฟุยุเคยใช้ ที่เบียคุชิกิไม่สามารถใช้สล็อตเรียกอาวุธได้เพราะว่าเมโมรี่ในสล็อตนั้นเต็มแล้ว ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพราะคอร์ของไอเอสทำการบันทึกข้อมูลของไวท์ไนท์เอาไว้ และต่อต้านไม่ยอมให้ฟอแมทข้อมูลที่อยู่ในสล็อต พอคอร์นั้นกลายมาเป็นเบียคุชิกิ ก็ยังคงมีข้อมูลของไวท์ไนท์อยู่และข้อมูลของไวท์ไนท์ก็ได้โผล่ออกมาตอนที่อิจิกะโดนซิลเวอกอสเปลยิงร่วงในโลกจิตใต้สำนึกของอิจิกะ โดยข้อมูลของไวท์ไนท์อาจจะมีบุคลิกที่เหมือนกับจิฟุยุซึ่งเป็นคนขับก็ได้ น่าจะเป็นตัวละครที่โผล่มาในจิตใต้สำนึกของอิจิกะเป็นระยะๆเพื่อใช้ในการอัพเกรดรุ่นของเบียคุชิกิ ในตอนท้ายอาจจะรวมร่างกันระหว่างเบียคุชิกิกับไวท์ไนท์จนกลายเป็นไอเอสแบบใหม่ก็ได้