ชนะในความพ่ายแพ้!
ภาพบ่งบอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
กับช็อตที่ “คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย บรรจงสวมกอดแสดงความขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการ
งานนี้ไม่มีเสแสร้ง ทั้งสีหน้าแววตา ขอบคุณกันจากใจจริงๆ
นั่นก็เพราะชัยชนะของคุณชายสุขุมพันธุ์ ได้มาจากแต้มส่วนตัวของ “อภิสิทธิ์” แทบจะล้วนๆก็ว่าได้
และที่ลึกไปกว่านั้น โดยคุณูปการต้องยกความดีความชอบให้เซียนรุ่นเก๋าลายครามอย่าง “ปู่พิชัย” นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาเปิดเกมลึก รับส่งลูกกับ “น้าชวน” นายชวน หลีกภัย ประธานสภากุนซือของพรรค
วางเดิมพันแบบ “จัดหนัก” ประกาศมัดคอล่วงหน้า ถ้าเสียแชมป์ผู้ว่าฯ กทม.ให้พรรคเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์ ในฐานะแม่ทัพ ต้องรับผิดชอบด้วยการแสดงสปิริตลาออก
เหมือนตอกย้ำอาการร้าวใน
แต่จริงๆ มันคือเหลี่ยมโคตรเซียนการเมือง แกล้ง “แทงซ้าย” ตั้งใจให้ “ออกขวา”
ตามจังหวะ “ปู่พิชัย” กับ “น้าชวน” ต้องงัดวิทยายุทธ์ขั้นสุดยอดมากระตุกแม่ยก พ่อยก วัดใจบรรดาแฟนคลับของ “อภิสิทธิ์” ให้ออกมาช่วยกันลงคะแนนให้คุณชายสุขุมพันธุ์
เพื่อปกป้องขวัญใจอย่าง “อภิสิทธิ์” ให้อยู่รอดปลอดภัย
กระตุกกระแสที่กำลังร่อแร่ๆให้กลับมาชนะได้ในนาทีสุดท้าย
จากสถานะของแชมป์เก่าที่ผูกขาดเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.มา 2–3 สมัย ครองเกมบริหารเมืองหลวงมา 8–9 ปี ได้เปรียบจากจำนวน ส.ส.ที่มากกว่า เพียบพร้อมไปด้วย ส.ก. ส.ข. รวมไปถึงเครือข่ายเจ้าหน้าที่ กทม.
แต่ชนะแบบหืดขึ้นคอ ต้องออกแรงหนัก โดดลงมาเล่นกันหมดไม่เว้นรุ่นเดอะลายคราม
ประชาธิปัตย์เข้าวิน แต่ก็มีการบ้านข้อใหญ่
ในขณะที่พรรคเพื่อไทย แม้จะพ่ายแพ้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นได้แค่ผู้ว่าฯ กทม.โพล
แต่เทียบตัวเลขที่ขยับไปถึง 1 ล้าน 7 หมื่นกว่าคะแนน โดดจากฐานเสียงจัดตั้งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.4–5 รอบที่ผ่านมา จะอยู่แค่ประมาณ 6 แสนกว่าคะแนน
แต้มพุ่งขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว
บีบช่องว่างจากที่โดนประชาธิปัตย์ทิ้งห่าง 3–4 แสนเสียง เหลือแพ้ไปแค่ 1.7 แสนเสียง
อย่างน้อยตัวเลขที่ออกมามันแสดงให้เห็นว่า พื้นที่ใน กทม.ได้เปิดกว้างให้พรรคเพื่อไทยมากกว่าที่ผ่านมา ความพยายามกลับมาชิงพื้นที่เมืองกรุงคืน เริ่มขยับเข้าใกล้ความจริง
เป็นพลังขับดันให้ขยายผลต่อยอดไปถึงการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคต
และแน่นอน นี่คือผลงานหลักๆของ “นางกวักเรียกแต้ม” อย่างนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับมือยุทธศาสตร์ระดับ “เดอะอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทย
แพ้เกมเลือกตั้ง แต่ “ยิ่งลักษณ์” ชนะในมุมของการโชว์ภาวะความเป็นผู้นำ
“นายกฯปู” ทำให้เห็นเลยว่า กระตุกเรตติ้งได้ด้วยตัวเอง
ก่อนอื่นเลย โดยสถานะจากนี้ต่อไป นายกฯยิ่งลักษณ์และทีมงาน “ไทยคู่ฟ้า” จะเคลม 6 แสนเสียงที่เพิ่มขึ้นของพรรคเพื่อไทยในสนามเมืองกรุง ดันคะแนนนิยมศึกผู้ว่าฯ กทม.ขึ้นมาแตะระดับ 1 ล้านกว่า
กระชับอำนาจการบริหารในพรรคเพื่อไทยได้อย่างชอบธรรม
ตรงกันข้ามบรรดากลุ่มของมวยรุ่นใหญ่ที่ทำผลงานพลาดเป้า ทั้ง “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองหลวง ที่ปล่อยให้แพ้ในพื้นที่เก่งอย่างบางกะปิ บึงกุ่ม ไม่เว้นแม้แต่เขตผูกขาดอย่างมีนบุรี ฟ้องอาการช่วยกันไม่เต็มไม้เต็มมือ เช่นเดียวกันกับฝั่งของ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขุนศึกฝั่งธนฯ ก็พลาดท่าในบ้านตัวเอง เขตบางบอน
งานนี้เสียงอ่อนลงไปเยอะเลยก็แล้วกัน.
ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยอมรับในเกมการการเมืองของ พรรคๆ นี้ครับว่า มันเก่ง จิง จิง...แต่เก่งอย่างนี้ น่าจะคงอยู่อีกได้ไม่นาน เมื่อประชาชนรู้ทันมากขึ้น...แ้ล้วก็ใช้ได้แค่เลือกตั้งในกรุงเทพฯแค่นั้น...ถ้าจะชนะระดับชาติ ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เท่านั้น อิ อิ....
***********...ชนะในความพ่ายแพ้...******************
ภาพบ่งบอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
กับช็อตที่ “คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย บรรจงสวมกอดแสดงความขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการ
งานนี้ไม่มีเสแสร้ง ทั้งสีหน้าแววตา ขอบคุณกันจากใจจริงๆ
นั่นก็เพราะชัยชนะของคุณชายสุขุมพันธุ์ ได้มาจากแต้มส่วนตัวของ “อภิสิทธิ์” แทบจะล้วนๆก็ว่าได้
และที่ลึกไปกว่านั้น โดยคุณูปการต้องยกความดีความชอบให้เซียนรุ่นเก๋าลายครามอย่าง “ปู่พิชัย” นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาเปิดเกมลึก รับส่งลูกกับ “น้าชวน” นายชวน หลีกภัย ประธานสภากุนซือของพรรค
วางเดิมพันแบบ “จัดหนัก” ประกาศมัดคอล่วงหน้า ถ้าเสียแชมป์ผู้ว่าฯ กทม.ให้พรรคเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์ ในฐานะแม่ทัพ ต้องรับผิดชอบด้วยการแสดงสปิริตลาออก
เหมือนตอกย้ำอาการร้าวใน
แต่จริงๆ มันคือเหลี่ยมโคตรเซียนการเมือง แกล้ง “แทงซ้าย” ตั้งใจให้ “ออกขวา”
ตามจังหวะ “ปู่พิชัย” กับ “น้าชวน” ต้องงัดวิทยายุทธ์ขั้นสุดยอดมากระตุกแม่ยก พ่อยก วัดใจบรรดาแฟนคลับของ “อภิสิทธิ์” ให้ออกมาช่วยกันลงคะแนนให้คุณชายสุขุมพันธุ์
เพื่อปกป้องขวัญใจอย่าง “อภิสิทธิ์” ให้อยู่รอดปลอดภัย
กระตุกกระแสที่กำลังร่อแร่ๆให้กลับมาชนะได้ในนาทีสุดท้าย
จากสถานะของแชมป์เก่าที่ผูกขาดเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.มา 2–3 สมัย ครองเกมบริหารเมืองหลวงมา 8–9 ปี ได้เปรียบจากจำนวน ส.ส.ที่มากกว่า เพียบพร้อมไปด้วย ส.ก. ส.ข. รวมไปถึงเครือข่ายเจ้าหน้าที่ กทม.
แต่ชนะแบบหืดขึ้นคอ ต้องออกแรงหนัก โดดลงมาเล่นกันหมดไม่เว้นรุ่นเดอะลายคราม
ประชาธิปัตย์เข้าวิน แต่ก็มีการบ้านข้อใหญ่
ในขณะที่พรรคเพื่อไทย แม้จะพ่ายแพ้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นได้แค่ผู้ว่าฯ กทม.โพล
แต่เทียบตัวเลขที่ขยับไปถึง 1 ล้าน 7 หมื่นกว่าคะแนน โดดจากฐานเสียงจัดตั้งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.4–5 รอบที่ผ่านมา จะอยู่แค่ประมาณ 6 แสนกว่าคะแนน
แต้มพุ่งขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว
บีบช่องว่างจากที่โดนประชาธิปัตย์ทิ้งห่าง 3–4 แสนเสียง เหลือแพ้ไปแค่ 1.7 แสนเสียง
อย่างน้อยตัวเลขที่ออกมามันแสดงให้เห็นว่า พื้นที่ใน กทม.ได้เปิดกว้างให้พรรคเพื่อไทยมากกว่าที่ผ่านมา ความพยายามกลับมาชิงพื้นที่เมืองกรุงคืน เริ่มขยับเข้าใกล้ความจริง
เป็นพลังขับดันให้ขยายผลต่อยอดไปถึงการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคต
และแน่นอน นี่คือผลงานหลักๆของ “นางกวักเรียกแต้ม” อย่างนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับมือยุทธศาสตร์ระดับ “เดอะอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทย
แพ้เกมเลือกตั้ง แต่ “ยิ่งลักษณ์” ชนะในมุมของการโชว์ภาวะความเป็นผู้นำ
“นายกฯปู” ทำให้เห็นเลยว่า กระตุกเรตติ้งได้ด้วยตัวเอง
ก่อนอื่นเลย โดยสถานะจากนี้ต่อไป นายกฯยิ่งลักษณ์และทีมงาน “ไทยคู่ฟ้า” จะเคลม 6 แสนเสียงที่เพิ่มขึ้นของพรรคเพื่อไทยในสนามเมืองกรุง ดันคะแนนนิยมศึกผู้ว่าฯ กทม.ขึ้นมาแตะระดับ 1 ล้านกว่า
กระชับอำนาจการบริหารในพรรคเพื่อไทยได้อย่างชอบธรรม
ตรงกันข้ามบรรดากลุ่มของมวยรุ่นใหญ่ที่ทำผลงานพลาดเป้า ทั้ง “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองหลวง ที่ปล่อยให้แพ้ในพื้นที่เก่งอย่างบางกะปิ บึงกุ่ม ไม่เว้นแม้แต่เขตผูกขาดอย่างมีนบุรี ฟ้องอาการช่วยกันไม่เต็มไม้เต็มมือ เช่นเดียวกันกับฝั่งของ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขุนศึกฝั่งธนฯ ก็พลาดท่าในบ้านตัวเอง เขตบางบอน
งานนี้เสียงอ่อนลงไปเยอะเลยก็แล้วกัน.
ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยอมรับในเกมการการเมืองของ พรรคๆ นี้ครับว่า มันเก่ง จิง จิง...แต่เก่งอย่างนี้ น่าจะคงอยู่อีกได้ไม่นาน เมื่อประชาชนรู้ทันมากขึ้น...แ้ล้วก็ใช้ได้แค่เลือกตั้งในกรุงเทพฯแค่นั้น...ถ้าจะชนะระดับชาติ ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เท่านั้น อิ อิ....