เปิดคำพิพากษาศาลแพ่ง เผาเซ็นทรัลเวิลด์"ไม่ใช่ก่อการร้าย"...ศาลชี้ชัดเพียงนี้ คนที่คิดว่าตัวเองมีการศึกษาก็ยัง"ตื้น"เห็นๆ

กระทู้สนทนา
เปิดคำพิพากษาศาลแพ่ง เผาเซ็นทรัลเวิลด์ "ไม่ใช่ก่อการร้าย"

เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา  ที่ห้องพิจารณา 403 ศาลแพ่ง ถ. รัชดาภิเษก ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ ผบ.4326/54 ที่กองทุนรวมธุรกิจไทยสี่ โจทก์ที่่ 1 กับพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ที่่ 2 ,บริษัทเซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด ที่่ 3 และบริษัทห้างเซ็นทรัล ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จำกัด ที่่ 4 ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทเทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยในความ ผิดสัญญาประกันวินาศภัย จากกรณีเหตุไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ระหว่างการกระชับพื้นที่เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ในการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการณ์แห่งชาติ(นปช.)

โดยคำฟ้องระบุว่าโจทก์ทั้งสี่่่ ได้ทำกรมธรรม์ประกันภัยไว้กับจำเลย เมื่อมีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงและยุติลง มีการบุกรุกเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเซน ใช้ไฟเผาตามจุดต่าง ๆ ด้วยความคึกคะนอง เปลวไฟที่ลุกไหม้ได้ผ่านเข้าไปยังศุนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เป็นเหตุให้ทรัพย์สินที่โจทก์ทั้งสี่เอาประกันไว้ได้รับความเสียหาย ขอให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด ให้โจทก์ทั้งสี่่่ และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นเงิน 2,848,448,119.08บาท ให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยธุรกิจหยุดชงักให้โจทก์ที่ 1และ 3เป็นเงิน 989,848,850.01 บาทและให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของค่าเสียหายทั้งสอง

ศาลมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าความเสียหายที่โจทก์ได้รับเป็นข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทางนำสืบของจำเลยไม่ปรากฏชัดว่าเป็น การกระทำของผู้เข้าร่วมชุมนุมคนใด หรือสั่งการจากแกนนำ ส่วนที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงปราศรัยมีเนื้อหาส่งเสริมความรุนแรงนั้น ถ้ามีการทำร้ายคนเสื้อแดงก็จะเกิดความรุนแรงขึ้น แต่ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุมเมื่อใดการปราศรัยจึงเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการสลายการชุมนุม ส่วนเรื่องที่รัฐบาลประกาศให้ยุติการชุมนุมแต่ผู้ชุมนุมไม่ได้ยุติและก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น จะมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายใดย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และจะเห็นว่ากลุ่มคนร้ายที่บุกรุกและเผาทรัพย์ในห้างสรรสินค้าเซนมีจำนวนไม่มาก ใช้วิธีการไม่สลับซับซ้อน ไม่ได้ใช้ทักษะพิเศษใด ๆ ที่เป็นความชำนาญ สำหรับถังแก๊ส น้ำมัน ยางรถยนต์ ก็หยิบฉวยได้ในบริเวณใกล้เคียง ความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ ที่สำคัญขณะมีการเผาห้างเซน แกนนำก็ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว คนร้ายที่เผาห้างสรรพสินค้าเซน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็มิได้ต้องการให้ข่มขู่รัฐบาลยุบสภาหรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่เป็นการประทำที่หวังผลการทางเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟังไม่ได้ว่าเป็นการก่อการร้าย

อย่างไรก็ดี การกระทำดังกล่าวเป็นการไม่นำพาต่อคำสั่งรัฐบาล ก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่มีระเบียบ จนไม่สามารถควบคุมได้ ถือได้ว่าอยู่ในความหมายของคำว่า “จลาจล” เมื่อความเสียหายที่โจทก์ได้รับเป็นภัยที่เกิดจากการจลาจลซึ่งเป็นภัยที่ได้รับการคุ้มครองจากกรมธรรม์ จำเลยจึงต้องชดใช้ค่าเสียหายทดแทนแก่โจทก์ทั้งสี่ พิพากษาให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงทุกชนิดให้แก่โจทก์ทั้งสี่ หรือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นเงิน 2,719,734,975.29 บาท และให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักให้แก่โจทก์ที่1และ 3 เป็นจำนวนเงิน 989,848,850.01 บาทและให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของค่าเสียหายทั้งสองแก่โจทก์ทั้งสี่และหรือสำนักงานส่วนทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ กับโจทก์ที่1และ3ตามลำดับ นับแต่วันที่ 31 มี.ค. 2554 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมต่อศาลในนามโจทก์กำหนดค่าทนายความให้ 60,000 บาท


(ที่มา:ข่าวสดรายวัน 3 มีนาคม 2556)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1362290077&grpid=&catid=03&subcatid=0305

                                   ???????????????????????????????


"....ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทางนำสืบของจำเลยไม่ปรากฏชัดว่าเป็น การกระทำของผู้เข้าร่วมชุมนุมคนใด หรือสั่งการจากแกนนำ

ส่วนที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงปราศรัยมีเนื้อหาส่งเสริมความรุนแรงนั้น ถ้ามีการทำร้ายคนเสื้อแดงก็จะเกิดความรุนแรงขึ้น แต่ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุมเมื่อใดการปราศรัยจึงเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการสลายการชุมนุม


ขณะมีการเผาห้างเซน แกนนำก็ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว คนร้ายที่เผาห้างสรรพสินค้าเซน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็มิได้ต้องการให้ข่มขู่รัฐบาลยุบสภาหรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่เป็นการประทำที่หวังผลการทางเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟังไม่ได้ว่าเป็นการก่อการร้าย


หมดกันคนมีการศึกษา

ศาลชี้ชัดถึงเพียงนี้ก็ยังหลุดจากกรอบความดักดานไม่ได้
ปล่อยให้เขาสนตะพายต่อไปโดยไม่รู้สึกรู้สา
ด่าว่าคนเสื้อแดงเป็นควาย  แต่ฝ่ายตัวเองนั้นกลับเป็นยิ่งกว่า
แล้วก็โก่งคออ้างว่าตัวเองเป็นคนมีการศึกษา "สูงกว่า" ต่อไป
แล้วจะอ้างอะไรเป็นเกณฑ์กับคนพวกนี้ดี  เมื่อคำชี้ของศาลก็ไม่นำพาเสียแล้ว

เผาบ้าน...เผาเมือง....เผาบ้าน...เผาเมือง....
แล้วจะเอาคำตัดสินของศาลไปทิ้งที่ไหนดี ?????
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่