.....................ถ้าเค้าตาย ผมจะอยู่อย่างไงละ................

กระทู้สนทนา
มีอยู่วันนึงผมหัดทำ ผัดผักบุ้งไฟแดง แล้วทีนี้มันต้องตำพริก กับ กระเทียม ผมเป็นคุณหนูมาตั้งแต่เกิด เอาพริกกระทียมล้างน้ำ แล้วไม่สะเด็ดน้ำ เอาลงครกแล้วตำเลย ผลปรากฎว่า พริกแมร่งกระเด็นเข้าลูกตาผมพอดีเพราะพริกมันแฉะน้ำ ผมว้ากก ลั่นครัว แสบสันต์สุดแสนจะบรรยา เหมือนมีพระอาทิตย์ แปดดวง อยู่ในตา ผมรีบเปิดน้ำเต็มอ่างล้างหน้า แล้วก็เอาหน้าไปจุ่มพร้อมกับลืมตาในน้ำ แต่ปริมาณที่พริกมันเข้าไปเยอะมากก เปลือกตามันไม่ยอมลืม ผมทั้งเจ็บทั้งโมโห แฟนนั่งเล่นคอมอยู่ห้องรับแขก มันก็คุณหนูมาเกิดเหมือนกัน ทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง เอาแต่เสริชคอม จนเจอว่า ให้เอาเกลือป่น ป้ายที่ปลายลิ้นแล้วจะหาย เค้าพยามจะป้ายให้ผมนะ แต่ผมตะคอกใส่

"ตากับลิ้น มันจะไปเกี่ยวอะไรกันวะ มันอยู่ใกล้กันหรือไง ไปหาวิธีมาใหม่"

เค้าก็กลับไปค้น ในเน็ตใหม่ ก็หาวิธีไม่ได้ ผมโมโห ก็เลย เงยหน้าขึ้นมาจากอ่างล้างหน้า แล้วหยิบเกลือ ป้ายกลางลิ้นประชดมัน เอ่อออ หายวะ

คิดในใจกรูไม่น่าไปตะคอกใส่มันเลย


เราสองคน คบกันมาและอยู่ด้วยกันมาร่วมห้าปีแล้วครับ เราจะมีชีวิตแบบนี้ ตัวผมเองมีบ้านส่วนตัวที่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของผม อยู่หนึ่งหลังแยกจากพ่อแม่ ส่วนเค้าเป็นหนุ่มเจียงใหม่ มีบ้านที่อากง ซื้อเอาไว้ให้ลูกหลานทุกคนที่ต้องมาเรียนที่กรุงเทพ อยู่รวมกัน แต่หลังใหญ่ และมีห้องส่วนตัวเป็นสัดเป็นส่วนทุกคน นัยว่า คงจะสะดวกในการดูแลอย่างทั่วถึง

ในหนึ่งสัปดาห์เราจะใช้ชีวิตร่วมกัน ในบ้านของผม 5 วัน ส่วนอีกสองวัน เค้าจะกลับไปนอนบ้านที่สุธิสาร ส่วนผมจะกลับไปนอน บ้านแม่ที่ลาดพร้าว ตัวผมเองไม่ค่อยผูกพันกับครอบครัวมากนัก เพราะผมโดนแยกกับคุณพ่อ คุณแม่ตั้งแต่เด็กด้วยเหตุผลทางด้านการศึกษา ข้อนี้ด้วยละมั้งที่ทำให้ผมไม่ผูกผันกันเท่าไหร่ ผมโตมาคนคนเดียว แต่ผมก็อยู่ได้ไม่แคร์อะไร แต่ก็รักคนในครอบครัวนะ

จนวันนึง ผมมาเจอเค้านี่แหละ ผมขอเรียกเค้าว่า โกโบริละกัน โกโบริ อายุน้อยกว่าผมห้าปี ผมเจอเค้าเพราะเพื่อนรุ่นน้องแนะนำให้รู้จัก ที่สถานที่เที่ยวแห่งนึง ภาพแรกที่ผมเห็น โกโบริ คือ เค้าอยู่บนเวที เมา และ เต้นบีบอย

ไม่ได้มีความสงบเสงี่ยมเลย โถ พ่อมหาจำเริญ ผมไม่ชอบคนที่ไม่รักษาบุคลิก เลยรู้สึกไม่ค่อยชอบเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น พอเต้นเสร็จลงมากินเหล้าต่อ ก็พร่ำแต่เรื่อง เจ็บปวดรวดร้าว เหมือนสาวเครือฟ้ากลับชาติมาเกิด พร่ำอย่างเดียวไม่พอ ดันร้องไห้ น้ำตาไหลออกมาด้วย (ดีนะ ที่ไม่อ้วกออกมาอีก ผมยังไม่อยากกินโจ๊กกลางผับ)


ตอนนั้นผมกำลัง อกหักที่ไปรักน้องสน แต่น้องสนไม่เล่นด้วย ว่ากันง่ายๆก็คือกำลังโสด คิดในใจว่าถ้าผู้ชายหมดโลก แล้วเหลืออีโกโบริ กับ ต้นตะขบ ผมจะเลือกต้นตะขบเป็นคู่ชีวิตแน่นอน แต่เค้าว่าไว้แล้วว่าเกลียดอะไรเมิงจะต้องได้อย่างนั้น

ปัจจุบัน ผมไม่ได้โหน ต้นตะขบ แต่หันมาโหนโกโบริแทน ช่วงเเรกๆ อิไต อิกะ กันลั่นห้องไปหมด บางทีมีซีนที่ต้องวิ่งหลบลูกระเบิด ก็มีเอ้าท์ดอร์กันกลางร่องสวนก็มี ตื่นเต้นจะตายไป ไหนจะลุ้นลูกระเบิด ไม่ก็ลุ้นลูกมะพร้าว ว่าลูกไหนมันจะจะลงมาฝาดกระบาลเอาเลือดชั่วของเราสองคนออกก่อนกัน

รู้ไหมทำไมผมถึงรักเค้า  ไม่ใช่เค้าหล่อ รือเค้ารวย หรือสวย อ๊ายยยย ไม่ช่าย หรืออาจจะเรื่องอย่างว่า สองปีหลังนี้ ยิ่งแล้วใหญ่ เชื่อไหม เราสองคนอายุ เลขสองปลายๆ คนนึง อีกคนเลขสามต้นๆ แต่เรา ช๊อกกะจุ๊บกัน บางทีสองเดือนหนก็มีแต่เราก็โอเคนะ เพราะเคยเปิดใจคุยกันแล้ว เข้าใจกันดี เค้าอนุญาตให้ผมไปแตะบอลได้ ตามสมควรแต่ละกรณีไป เห็นไหม พ่อหนุ่มอาทิตย์อุทัยของผม ใจกว้างประดุจมหาสมุทรจริงๆ

จากแรกที่ผมไม่ชอบ ก็เริ่มชอบและรัก เพราะเค้าคนเดียวเท่านั้น ที่ทนผมได้ตลอดเวลา ผมไม่ใช่คนเจ้าอารมย์ หรือ ขี้โมโห แบบไร้สาระ แต่บางทีเรื่องบางเรื่องมันก็ติดหนึบมาจากที่ทำงาน พ่อดอกมะลิก็โดนหางเลขบางถ้าวันไหนดวงตก แต่สำหรับเค้าตรงกันข้าม เค้าจะหาเรื่องแหย่ผม จนผมขำ หรืออารมย์ดีขึ้นมาได้

มันทำให้ผมรู้ว่า เค้าอดทนกับเราจริงๆ เค้ามีโอกาสที่จะไปหาคนอื่นได้อีกเยอะ หน้าตาเค้าไม่หล่อมากแต่ก็ไม่เก๊ ฐานะของเค้าไม่ต้องพูดถึง ครั้งแรกที่พบกันผมไม่รู้ว่าเค้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร และไม่คิดจะใส่ใจ ไอ้ตี๋เด็กดอยคนนี้จะมาจากไหน แมร่งเมาแล้วรั่วขนาดนี้ ใครเค้าจะเอามัน แต่เพื่อนของผมมันก็บอกว่า มีคนมาไล่จีบเค้าเยอะมาก ผมก็สงสัยว่ามีคนสติดีๆที่ไหนกันมาคบกับคนไม่เต็มบาทแบบนี้ ตอนจีบกันใหม่ๆ ผมก็ไม่ถามนามสกุลนะ รู้แต่ชื่อเล่น กะ ชื่อจริงเท่านั้น เช่นกัน ที่เค้ารับทราบจากผม ก็ชื่อเล่นชื่อจริงของผมเหมือนกันนี่แหละ  แต่พอหลังจากคบกันเป็นแฟนแล้ว ผมบังเอิญเห็นบัตรประจำตัว ผมมึนไปเลย

อยากเลิกกับเค้าไปเลยตอนนั้น เพราะรู้สึกว่าเราต่างกันมาก แต่มาคิดอีกทีถ้าเราเองจริงใจกับเค้า ไม่หวังอะไรจากเค้า ใครๆก็คงว่าเราไม่ได้ และนั่นเป็นเจตณาที่แท้จริงจากใจของผม ผมถึงจะจนกว่าเค้า แต่ผมก็มีของผม ผมไม่เคยขอเค้า เราใช้ชีวิตร่วมกัน แบบแชร์ทุกสิ่งร่วมกัน เราสองคนก็อยู่กันได้ด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราทำงานแล้วทั้งคู่ เรามีรายได้เลี้ยงตัวเองได้พอประมาณไม่ขัดสน

มีเรื่องประทับใจอีกเรื่องที่ผม อยากเล่า

วันนั้นผมห่าม อยากแกล้งโกโบริเหลือเกิน วันนั้นเป็นวันศุกษ์ พรุ่งนี้เป็นวันหยุด และเค้าก็ต้องมานอนบ้านผมที่รามคำแหงอยู่แล้ว วันนั้นผมไม่คิดจะเป็นอังศุมาลินตีขิม หรือ ทำสวน  แต่ เลือกจะเป็นเรยาแทน ผมโทรหาเค้าตอนสามทุ่ม ตอนนั้นเค้าถึงบ้านเค้าที่สุธิสารแล้ว ผมโทรไปหาด้วยน้ำเสียงทีแหบมากกว่าปกติ แหบแบบไงอะ แบบเหมือนคนหายใจขัดๆ หายใจไม่ออก แล้วบอกเค้าว่าผมล้มหน้ามืด อยู่บนห้องนอนใหญ่ ลุกไม่ได้ หายใจไม่ออก เสียงเค้าตอนแรก เค้าไม่เชื่อ แล้วพยายามแหย่ให้ผมขำให้ได้

แต่ไม่มีซะหรอก ทั้ง แม่มุตตามุนินทร์ เรยา น้ำหวาน อีพริ้ง ตลอดจน แม่ทองไพรำ หรือ แม้แต่ คุณบุณเลื่อน ก็พร้อมใจกันเข้าสิงสู่ในตัวผมทั้งหมด พ่อโกโบริผู้ใสซื่อ มีหรือจะทันเล่ห์เหลี่ยมผม ณ.ตอนนั้น จากน้ำเสียงตลกของเค้า ก็เริ่มไม่ตลก แล้วกลายเป็นลนลาน บอกว่าเดี๋ยวจะโทรเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้ แล้วให้ตั้งสติดีๆ เค้าจะรีบไปหา เร็วปานสายฟ้าผมรีบสารภาพเสียสิ้นว่าผมสะตอเบอรี่ให้เค้าป่วนเล่น และ เช่นกันแบบไม่ต้องเดาถึงผลลัพท์ พ่อโกโบริกลายร่างเป็นซานตานทันใด ด่าผมซะ และเลยยยย 555555555555555555555555555555555555555555

ผมไม่โกรธเค้าเลย ขำเสียมากกว่า แล้วก็รักเค้ามากขึ้นด้วย สิ่งที่ผมต้องการจากเหตุการณ์ทั้งหมด ของดราม่าอันนี้คืออะไรรู้ไหมครับ

" ที่หน้าทีหลัง อย่ามาล้อเล่นกันแบบนี้ ไม่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ใครเค้าเอาเรื่องเป็น เรื่องตายมาล้อเล่นกัน แล้วถ้าต่อไปมันเป็นจริงขึ้นขึ้นมา จะทำอย่างไง"

" ก็นอน เป็นศพอืดอยู่ในห้องนอนไง รอปอเต็กตึ๋งมารับศพ ไงละ"

"ยังจะมาตลกอีก หน้าเป็นไม่รู้กาละเทศะเลย โตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ คิดซะก่อนเวลาจะทำอะไรนะ เล่นไม่เข้าเรื่อง"

"ปุ่น ก็คิดนะ ไม่ใช่ปุ่นไม่คิด"

"คิด อะไร "

"คิดว่า เจมส์จะห่วง ปุ่นหรือเปล่า"

"เราไม่ได้แค่ห่วง แต่เรา รักเธอมากนะ"



เห็นสิ่งที่ผมปรารถนา ไหมครับ มันก็เรื่องง่ายๆนะ แค่คำว่ารัก คำเดียวเท่านั้นแหละ ที่ผมต้องการจากปากเจมส์ เจมส์มันเป็นคนปากดีนะ พูดอะไร พูดได้หมดพูดไปเรื่อย แต่แปลก คำว่ารัก เค้าไม่ค่อยอยากจะพูดจากปากเลย ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่า มันยากมันเย็นอะไรนักหนาวะ ไอ้คำคำเนี่ยะ ตรงกันข้ามกับผม ผมชอบบอกรักเค้าบ่อยมากกก มากจนบางทีก็ดูพร่ำเพรื่อไปเลย ก็เอ๊าทำไมอะ ผมรักเจมส์นิไม่ได้รักคนอื่นผมก็บอกของผมไปสิ


รักเจมส์  รักเจมส์  รักเจมส์  รักเจมส์  รักเจมส์ รักเจมส์   รักเจมส์  รักเจมส์  รักเจมส์ ..................................................................

ห้าปีที่ผ่านมา ผมรักเค้ามากขึ้นเรื่อยๆเลย เหมือนประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ได้ทุนคืน แถม มีดอกด้วย  แต่ผมไม่อยากได้ทุนประกันคืนหรอก ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน


ไม่มีเจมส์ แล้ว ปุ่นจะอยู่ได้ยังไงละครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่