สวัสดีค่ะ เราเอง (ใครวะ) อ่อ ไม่รู้จักกันหรอกหรอ นึกว่าจะจำกันได้ เรียกเราว่าอ้วนก็ได้ค่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ วันนี้มีเรื่องสำคัญมาเล่าสู่กันฟังอาจจะยาวหน่อยและรู้ว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัด แต่อยากให้อ่านเรื่องเล่านี้ให้จบนะคะ
เรื่องของเรื่องคือคราวก่อนมาตั้งกระทู้เรื่องนังติ๋มมีกลิ่นเหมือนปลาเค็มหนองมนไปนะคะ จะมาบอกว่าตอนนี้รักษาหายแว้ว กลิ่นหายไปหมด ตกขาวก็ไม่ค่อยมีแล้ว รู้สึกดีใจและพอใจมากๆ เพราะเราไม่ต้องกังวลแล้วก็เอามือไปป้ายดมเหมือนเมื่อก่อน (แหวะ..ทำไปได้) แต่พอมันหายแล้วก็ยังมิวายนะคะ เราต้องดูแลกันต่อไปค่ะ ในเมื่อเค้าเป็นส่วนสำคัญส่วนนึงในชีวิตของผู้หญิงเรานะคะ เราจะไม่ทอดทิ้งกันค่ะ เราจึงกลับไปตรวจมะเร็งปากมดลูกหรือ pap smear test นะคะ เพราะคราวก่อนโน้น ประมาณ สองปีที่แล้วตรวจครั้งแรกไปแล้ว ก็ได้เวลานัดตรวจอีกรอบนึงแล้วค่ะ แหม...เวลาผ่านไปไวมาก นี่ยังรู้สึกเหมือนตอน 14 อยู่เลย แต่หน้าไม่ได้แล้วนะคะ
เอาล่ะค่ะ วันนี้ขอนำบทความจากเว็บกระปุกมาอธิบายละกันว่า pap smear เพลียสแมพ มันคืออะไร หากใครมีความรู้เพิ่มเติมสามารถมาบอกกันได้นะคะ เราก็ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่กูรู แค่อยากให้ผู้หญิงทุกคนรู้ว่ามันคืออะไรแบบคร่าวๆ
"Pap Smear ก็คือการตรวจคัดกรองโดยนำเซลล์ไปย้อมสี คำว่า Pap มาจากคำว่า Papanicolaou ชื่อสกุลของคุณ George Papanicolaou ผู้ค้นพบวิธีย้อมสีเซลล์ ทำให้สามารถแยกความแตกต่างของเซลล์ปกติและไม่ปกติได้
อันที่จริง Pap Smear สามารถตรวจเซลล์ได้จากอวัยวะทุกส่วน แต่แพทย์จะนิยมนำไปใช้กับการตรวจเซลล์บริเวณปากมดลูก เพราะเก็บเซลล์ได้ง่าย และเป็นบริเวณที่พบความผิดปกติของเซลล์อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้บ่อยครั้ง
สำหรับการตรวจจะคล้ายกับการตรวจภายใน แพทย์จะใช้เครื่องมือแพทย์ป้ายบริเวณปากมดลูก แล้วนำเครื่องมือดังกล่าวไปป้ายลงบนสไลด์ที่ย้อม Pap รอไว้ รอทำปฏิกิริยาราว 1-2 ชั่วโมง ก็จะสามารถอ่านและแปลผลได้
ส่วนความถี่ของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบ Pap Smear ควรตรวจเป็นประจำทุก ๆ ปี จำเป็นอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 3 ปี แต่อายุไม่เกิน 21 ปี
เมื่อทราบถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรอง Pap Smear แล้ว คุณผู้หญิงก็ไม่ควรมองข้าม เพราะมะเร็งปากมดลูก รู้เร็ว รู้ก่อนสาย รักษาให้หายได้ทัน"
มาถึงตรงนี้อยากจะถามสาวๆทุกคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์ ว่าคุณเคยได้ไปตรวจกันมั่งมั๊ย ไปตรวจครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ถ้าไม่เคย ทำไมถึงไม่ไป คือของเราเนี่ยตรวจครั้งแรกตอนอายุ 26 ปี เพราะหมอถามอายุแล้วถามว่าเราเคยมีเพศสัมพันธ์รึยัง แหม..สวยขนาดนี้มันก็ต้องมีบ้างสิคะ ฟงแฟน หมอถามอะรุยก็ไม่รู้ เขิน อีบร้าาาา หมอเค้าไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแต่เค้าสนใจสุขภาพเรามากกว่า แต่คือผู้หญิงจากตอนที่ตั้งกระทู้เรื่องก่อนโน้นไป ส่วนใหญ่จะอายหมอ อายทำไม ถ้าอายก็ถามหาหมอผู้หญิง แต่ถ้าเจอผู้ชายก็ไม่น่าจะอาย คิดซะว่าเค้ามาช่วยเรา ถึงตอนเราคลอดลูกหมอก็ต้องเห็นอยู่ดี วินาทีนั้น คุณจะอายมั๊ย จะเอามือมาปิดไว้มั๊ย อย่าไปอายค่ะ อย่างที่เคยบอกว่า คนที่จะเห็นคุณโป๊ได้ในชีวิตนี้ ควรจะรวมหมอเข้าไปด้วย ขนาดให้แฟนเห็นยังได้เลย แภมบางทีแฟนก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากลูบๆคลำๆ แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติ เค้าก็บอกให้เราไปหาหมออยู่ดี นอกจากใครมีแฟนเป็นหมอ อาจจะโดนตรวจเดี๋ยวนั้น 555
เราไปตรวจมาสองรอบแล้ว อยากจะบอกว่า มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ ใช้เวลาแค่แป๊ปเดียว ไม่รวมเวลารอหมอ อันนั้นน๊าน นาน คือ พอถึงเวลาแค่ถอดกางเกงใน นอนชันเข่า หมอเอาปากเป็ดสอดเข้าไป แล้วก็เอาที่ตรวจใส่เข้าไป เอาตัวอย่างออกมาตรวจ รอซักสามวัน หรือ อาทิตย์นึง ก็รู้ผลแล้ว เนี่ยตรวจแค่ ห้า นาที คือ หมอเค้าเห็นแค่ ห้านาที บางทีหมอ ยังจำไม่ได้เลยว่าของใครรูปร่างยังไง ขอยกตัวอย่างกรณีเพื่อนเราอีกกรณี
เพื่อนเรามีอาการปกติ คือ ประจำเดือนมาเดือนนึงสองครั้ง ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วก็มีตกขาวบางทีมีสีคล้ำๆแต่มาเยอะ ต้องเปลี่ยนแผ่นอนามัยบ่อย ( บอกแล้ว่าอย่าใส่อีนี่นิ) พอดีเธอๆปตรวจสุขภาพประจำปี ( ยังดีที่ไป) แล้วทีนี้ประกันที่ทำไว้มีรวมการตรวจ pap smear เข้าไปด้วย เธอเลย เออ ตรวจก็ได้วะ ก็ไปตรวจ ปรากฎว่า เจอเลยค่ะ จังๆ เธอมีเชื้อที่สามารถทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ทีนี้ก็งานเข้า ต้องไปรักษา สอดยา แล้วก็ต้องไปตรวจดูว่าเชื้อมันหายไปรึยัง ต้องไปตรวจบ่อยๆ เนี่ยค่ะ เพราะเพื่อนไม่เคยคิดไปตรวจเลย พอเจออะไรผิดปกติก็คิดว่ามันคงไม่เป็นไร ลองคิดดูนะคะถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้แล้วเชื้อมันลาม จะเป็นยังไง
ทั้งหมดที่เล่ามา จุดประสงค์คือ อยากให้ทุกคนได้ไปตรวจเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง ถ้าหากมีอะไรผิดปกติจะได้แก้ไขได้ทัน มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องตรวจทุกเดือน แต่แบบ ปีล่ะครั้ง หรือ สองปีครั้ง แค่นั้นเอง ยังไงก็ฝากไว้ให้คิดนะคะ
ขอบคุณทุกคนมากที่สละเวลามาอ่านค่ะ
ไปตรวจมะเร็งปากมดลูก (pap smear test) ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันคะ ถ้ายังไม่เคยไปตรวจกันดีกว่าค่ะ
เรื่องของเรื่องคือคราวก่อนมาตั้งกระทู้เรื่องนังติ๋มมีกลิ่นเหมือนปลาเค็มหนองมนไปนะคะ จะมาบอกว่าตอนนี้รักษาหายแว้ว กลิ่นหายไปหมด ตกขาวก็ไม่ค่อยมีแล้ว รู้สึกดีใจและพอใจมากๆ เพราะเราไม่ต้องกังวลแล้วก็เอามือไปป้ายดมเหมือนเมื่อก่อน (แหวะ..ทำไปได้) แต่พอมันหายแล้วก็ยังมิวายนะคะ เราต้องดูแลกันต่อไปค่ะ ในเมื่อเค้าเป็นส่วนสำคัญส่วนนึงในชีวิตของผู้หญิงเรานะคะ เราจะไม่ทอดทิ้งกันค่ะ เราจึงกลับไปตรวจมะเร็งปากมดลูกหรือ pap smear test นะคะ เพราะคราวก่อนโน้น ประมาณ สองปีที่แล้วตรวจครั้งแรกไปแล้ว ก็ได้เวลานัดตรวจอีกรอบนึงแล้วค่ะ แหม...เวลาผ่านไปไวมาก นี่ยังรู้สึกเหมือนตอน 14 อยู่เลย แต่หน้าไม่ได้แล้วนะคะ
เอาล่ะค่ะ วันนี้ขอนำบทความจากเว็บกระปุกมาอธิบายละกันว่า pap smear เพลียสแมพ มันคืออะไร หากใครมีความรู้เพิ่มเติมสามารถมาบอกกันได้นะคะ เราก็ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่กูรู แค่อยากให้ผู้หญิงทุกคนรู้ว่ามันคืออะไรแบบคร่าวๆ
"Pap Smear ก็คือการตรวจคัดกรองโดยนำเซลล์ไปย้อมสี คำว่า Pap มาจากคำว่า Papanicolaou ชื่อสกุลของคุณ George Papanicolaou ผู้ค้นพบวิธีย้อมสีเซลล์ ทำให้สามารถแยกความแตกต่างของเซลล์ปกติและไม่ปกติได้
อันที่จริง Pap Smear สามารถตรวจเซลล์ได้จากอวัยวะทุกส่วน แต่แพทย์จะนิยมนำไปใช้กับการตรวจเซลล์บริเวณปากมดลูก เพราะเก็บเซลล์ได้ง่าย และเป็นบริเวณที่พบความผิดปกติของเซลล์อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้บ่อยครั้ง
สำหรับการตรวจจะคล้ายกับการตรวจภายใน แพทย์จะใช้เครื่องมือแพทย์ป้ายบริเวณปากมดลูก แล้วนำเครื่องมือดังกล่าวไปป้ายลงบนสไลด์ที่ย้อม Pap รอไว้ รอทำปฏิกิริยาราว 1-2 ชั่วโมง ก็จะสามารถอ่านและแปลผลได้
ส่วนความถี่ของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบ Pap Smear ควรตรวจเป็นประจำทุก ๆ ปี จำเป็นอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 3 ปี แต่อายุไม่เกิน 21 ปี
เมื่อทราบถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรอง Pap Smear แล้ว คุณผู้หญิงก็ไม่ควรมองข้าม เพราะมะเร็งปากมดลูก รู้เร็ว รู้ก่อนสาย รักษาให้หายได้ทัน"
มาถึงตรงนี้อยากจะถามสาวๆทุกคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์ ว่าคุณเคยได้ไปตรวจกันมั่งมั๊ย ไปตรวจครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ถ้าไม่เคย ทำไมถึงไม่ไป คือของเราเนี่ยตรวจครั้งแรกตอนอายุ 26 ปี เพราะหมอถามอายุแล้วถามว่าเราเคยมีเพศสัมพันธ์รึยัง แหม..สวยขนาดนี้มันก็ต้องมีบ้างสิคะ ฟงแฟน หมอถามอะรุยก็ไม่รู้ เขิน อีบร้าาาา หมอเค้าไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแต่เค้าสนใจสุขภาพเรามากกว่า แต่คือผู้หญิงจากตอนที่ตั้งกระทู้เรื่องก่อนโน้นไป ส่วนใหญ่จะอายหมอ อายทำไม ถ้าอายก็ถามหาหมอผู้หญิง แต่ถ้าเจอผู้ชายก็ไม่น่าจะอาย คิดซะว่าเค้ามาช่วยเรา ถึงตอนเราคลอดลูกหมอก็ต้องเห็นอยู่ดี วินาทีนั้น คุณจะอายมั๊ย จะเอามือมาปิดไว้มั๊ย อย่าไปอายค่ะ อย่างที่เคยบอกว่า คนที่จะเห็นคุณโป๊ได้ในชีวิตนี้ ควรจะรวมหมอเข้าไปด้วย ขนาดให้แฟนเห็นยังได้เลย แภมบางทีแฟนก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากลูบๆคลำๆ แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติ เค้าก็บอกให้เราไปหาหมออยู่ดี นอกจากใครมีแฟนเป็นหมอ อาจจะโดนตรวจเดี๋ยวนั้น 555
เราไปตรวจมาสองรอบแล้ว อยากจะบอกว่า มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ ใช้เวลาแค่แป๊ปเดียว ไม่รวมเวลารอหมอ อันนั้นน๊าน นาน คือ พอถึงเวลาแค่ถอดกางเกงใน นอนชันเข่า หมอเอาปากเป็ดสอดเข้าไป แล้วก็เอาที่ตรวจใส่เข้าไป เอาตัวอย่างออกมาตรวจ รอซักสามวัน หรือ อาทิตย์นึง ก็รู้ผลแล้ว เนี่ยตรวจแค่ ห้า นาที คือ หมอเค้าเห็นแค่ ห้านาที บางทีหมอ ยังจำไม่ได้เลยว่าของใครรูปร่างยังไง ขอยกตัวอย่างกรณีเพื่อนเราอีกกรณี
เพื่อนเรามีอาการปกติ คือ ประจำเดือนมาเดือนนึงสองครั้ง ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วก็มีตกขาวบางทีมีสีคล้ำๆแต่มาเยอะ ต้องเปลี่ยนแผ่นอนามัยบ่อย ( บอกแล้ว่าอย่าใส่อีนี่นิ) พอดีเธอๆปตรวจสุขภาพประจำปี ( ยังดีที่ไป) แล้วทีนี้ประกันที่ทำไว้มีรวมการตรวจ pap smear เข้าไปด้วย เธอเลย เออ ตรวจก็ได้วะ ก็ไปตรวจ ปรากฎว่า เจอเลยค่ะ จังๆ เธอมีเชื้อที่สามารถทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ทีนี้ก็งานเข้า ต้องไปรักษา สอดยา แล้วก็ต้องไปตรวจดูว่าเชื้อมันหายไปรึยัง ต้องไปตรวจบ่อยๆ เนี่ยค่ะ เพราะเพื่อนไม่เคยคิดไปตรวจเลย พอเจออะไรผิดปกติก็คิดว่ามันคงไม่เป็นไร ลองคิดดูนะคะถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้แล้วเชื้อมันลาม จะเป็นยังไง
ทั้งหมดที่เล่ามา จุดประสงค์คือ อยากให้ทุกคนได้ไปตรวจเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง ถ้าหากมีอะไรผิดปกติจะได้แก้ไขได้ทัน มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องตรวจทุกเดือน แต่แบบ ปีล่ะครั้ง หรือ สองปีครั้ง แค่นั้นเอง ยังไงก็ฝากไว้ให้คิดนะคะ
ขอบคุณทุกคนมากที่สละเวลามาอ่านค่ะ