เมื่อผมขอสละสิทธิ์การเรียนห้องกิฟท์เต๊ท ม.4 ของโรงเรียนดัง แล้วไปรอสอบวันที่ 28 มีนาคม เพื่อเรียนห้องธรรมดา

กระทู้คำถาม
ผมพึ่งจะสละสิทธิ์การเรียนห้องกิฟท์เต็ท ม.4ของโรงเรียนดังเเห่งหนึ่ง ที่มีการเเข่งขันสูงมากครับ ไปเมื่อวานนี้ครับ โดยไม่ไปรายงานตัว หลังจากสอบติด 1 ใน 30 คน
ผมเรียนห้องกิฟท์เต็ทมาตั้งแต่ ม.1 ครับ โดยในห้องเรียนนั้นมี นร.เเค่ 30 คน ท่ามกลางการเเข่งขันสูง ไม่ว่าจะการสอบ การเรียน การกวดวิชา
พอจะขึ้น ม.4 ก็มีการสอบเเข่งขันเรียนอีกครั้ง มีนักเรียนมาสมัครทั้งจาก รร.เดิม และ รร.อื่น นับพันคนครับ
แต่ รร.รับแค่ 30 คน  ปรากฎว่าห้องกิฟท์เต็ทเดิมที่เรียนมาตั้งแต่ ม.1 สอบติด ม.4 ประมาณ 15 คน ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือผมด้วย  โดยมีเด้กจาก รร.อื่นมาติดอีกประมาณ 15 คน
ผมคิดใคร่ครวญมานานแสนนาน ผมอยากเรียนหนังสือแบบห้องธรรมดา อยากเรียนหนังสือเหมือนเด็กนักเรียนทั่วไป เลิกเรียนอยากไปเดินห้างบ้าง ไม่อยากกวดวิชาแบบตอนเรียน ม.1-ม.3  ไม่อยากกดดันเหมือนตอนเรียน ม.3 ที่ต้องถูกครูกดดดัน เพื่อนรอบข้างกดดดัน ถ้าไม่ยอมอ่านหนังสือ ผมไม่อยากทำโครงงานที่เต็มไปด้วยงานเยอะเเยะเมื่อกลับบ้าน ผมอยากใช้ชีวิตเหมือนเด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง
ผมตัดสินใจไม่ขอเรียนห้องกิฟท์เต็ทต่อ โดยไม่ไปรายงานตัว  ท่ามกลางเสียงไม่พอใจของญาติพี่น้อง เสียงไม่พอใจของครูบางท่าน และที่สำคัญเพื่อนผมบอกว่าผมโง่ที่ไม่ไปรายงานตัว  โดยจะรอสอบเรียนห้องธรรมดาเหมือนนักเรียนทั่วไป โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะอยู่ห้องเรียนไหน ทับอะไร
  ยังโชคดีที่พ่อและเเม่ผมเข้าใจว่าแล้วแต่ตัวผม  เพียงแต่อย่าให้เสียการเรียนมากนัก
    เพื่อนเพื่อนคิดว่าผมทำถุกหรือผิดครับ ที่ผมทำโดยยังไม่รู้อนาคตในการสอบ ม.4 ที่จะถึงเลย

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ตอบในฐานะที่ผมเคยเรียนห้องกิฟมา..
    ผมเคยเรียนให้ห้องกิฟครับ แต่จขกท.ลองเปลี่ยนมุมมองความคิด"ของตัวเอง"ดูสิครับ
ผมเรียน แรกๆผมกดดันนะเพราะว่า ผมไม่ไม่เรียนพิเศษเนื่องจากขี้เกียจ - -* แต่เพื่อนๆเกือบทั้งห้องเรียนกัน
อยู่ห้องกิฟ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนกวดวิชาอะไรหรอกครับ แค่ความพยามตั้งใจของเราก็พอ ไม่ต้องไปสนว่าคนรอบข้างเราเค้าจะเก่งกว่าเราแค่ไหน

      จขกท.บอกว่าไม่อยากกิฟ เพราะ
- อยากเรียนแบบเด็กธรรมดาๆ
      อันนี้เข้าใจครับ บางคนอาจจะรู้สึกเครียดเกินไปที่อยู่ในห้องแบบนี้ ตอนนี้ขึ้นม.5 ผมไม่ได้อยู่ห้องกิ๊ฟแล้ว เพราะมปลาย ไม่มี
มาอยู่ห้องธรรมดา มันก็ให้ความรู้สึกอีกแบบนึง ซึ่งจขกท อาจจะไม่เคยคิดมาก่อน ก็คือ เด็กบางๆคน อาจารสอนๆอยู่ ก็คุยกัน เล่นโทรศัพท์ แบบไม่เกรงใจอาจาร เอาอาหารมากินบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในห้องกิฟ

- เลิกเรียนอยากไปเดินห้างบ้าง
       ผมไม่เข้าใจครับ เลิกเรียนทำไมต้องไปเดินห้าง?? มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะครับ ถ้าบอกว่า ไม่อยากเรียนหนัก เพราะจะเอาเวลาไป "เที่ยว"  ตัวผมนั้นไม่เรียนพิเศษ เลิกเรียนผมเอาเวลาไป "ออกกำลังกาย" และทำการบ้าน เดินห้าง มันไม่ค่อยจะมีประโยชน์อะไรเลยนะครับ
เสียเวลา เสียเงิน โดยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย  แน่ใจแล้วหรอครับว่าไม่อยากอยู่ห้องกิฟ เพราะ เลิกเรียนอยากเดินห้างน่ะ??

- ไม่อยากทำโครงงานเยอะแยะ
        ขอนี้ผมเคยเจอเลยครับ อาจารย์เวลาสั่งงานกันนี่ ไม่คิดจะนัดกันสักหน่อยเลย สั่งที3โครงงาน แล้วต้องนำเสนอในเวลาใกล้ๆกัน
ผมก็ได้แต่ "อดทน" ครับ ทำไปเถอะครับพวกนี้ มันมีประโยชน์กับเรา สอนให้เราทำงานเป็น สอนให้เรามีความรับผิดชอบ สอนให้เรากล้าคิดกล้าทำ สอนให้เรารุ้จักวางแผน รู้จักแก้ปัญหา ลองคิดมุมกลับสิครับ ถ้าเราไม่เคยทำอะไรพวกนี้เลย มันจะเป็นอย่างไร

- อยากใช้ชีวิตเหมือนเด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง
         ตอนผมอยู่ห้องกิฟ ผมก็ใช้ชีวิตเหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป มีเวลาให้สิ่งที่ตัวเองสนใจ คือ การออกกำลังกาย จริงอยู่เรียนพิเศษมันดี
แต่ จริงๆแล้ว ถ้าตั้งใจเรียนในห้อง เราก็เข้าใจทุกบทเรียนแล้ว จะไปเรียนเพิ่มให้มันเหนื่อยทำไม นี่คือสิ่งที่ผมคิดครับ


เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียนะครับ
ห้องกิ๊ฟ
ข้อดี
- โอกาสน้อยที่เราจะหลุดออกนอกกรอบ(เกเร)
- บรรยากาศในการเรียนดี มีสมาธิเรียน เข้าใจบทเรียน
- จากประสบการณ์+ความคิดผม
  เด็กที่มาจากห้องดีๆ มักจะมีความคิดที่มีเหตุผลมากกว่า ผมไม่ได้ดูถูกนะครับ แต่เป็นส่วนใหญ่
ข้อเสีย
- งานเยอะ
- กดดัน
  จริงๆ เราอยู่ห้องนี้แบบไม่กดดัน มันก็ทำได้ อยู่ที่เรา เลือกจะทำรึเปล่าครับ
- ต้องเรียนพิเศษ ??
ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ไม่ต้องเรียนก็ได้ เพื่อนผมหลายคน เรียนพิเศษกันจนไม่เวลาให้ตัว เค้ามีความรู้ เทคนิคพิเศษต่างๆ เยอะกว่าผม
แต่... ถ้าเราเรียนให้เข้าใจจริงๆ และพยามทบทวนด้วยตัวเอง ทำไมเราต้องเอาตัวเองไปเหนื่อยอีกรอบด้วย??


ห้องธรรมดา
บอกก่อนว่า จขกท. ต้องมองดูด้วยว่าห้องธรรมดา มีอะไรที่ต่างจากห้องกิ๊ฟ แล้วจขกท. ชอบหรือไม่
ข้อดี
- เฮฮาปาตี้ รักเพื่อน
- ไม่เครียด ไม่กดดัน

ข้อเสีย
- บรรยากาศในการเรียน ยากที่จะตั้งสมาธิในการเรียน เพราะ มักจะคุยกัน ต่างจากห้องกิฟ
- ห้องทั่วไป มักได้อาจารย์แย่ๆมาสอน ผมเจอมากับตัวเลยครับ เคมี ม.4 อาจารเปิดหนังสืออ่านสอนลูกเดียว "ย้ำครับ" เปิดหนังสืออ่านสอน...
- โอกาสที่จะหลุดออกนอกกรอบมีสูงกว่าห้องกิฟ "แค่สูงกว่า"ครับ ไม่ได้แปลว่า อยู่ห้องธรรมดา แล้วจะเกเร


     ผมอยู่มาทั้งสองแบบ ก็สรุปว่า เฉยๆกับทั้งสองแบบล่ะครับ ดีเสียต่างกันไป แต่ชอบเรื่องความเป็นกันเอง รักเพื่อน ของห้องธรรมดามากกว่าครับ
เพราะห้องกิฟ ส่วนใหญ๋จะยึดการเรียนมากเกินไป ที่เคยเจอมาก็ เสาอาทิตมาทำงาน"กลุ่ม"ไม่ได้เพราะติดเรียนพิเศษ(มันเลือกเรียนพิเศษว่ะ มันไม่เลือกงานที่ รร. - -*)

นี่เป็นสิ่งที่ผมเจอมานะครับ ไม่ได้แปล่วาจะต้องเหมือนกันหมด เพียงแค่เล่าสิ่งที่ผมเจอครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ในฐานะพี่เป็นเเม่ลูกสอง พีี่เห็นด้วยที่จะให้เรียนห้องธรรมดา เนื่องจากความกดดัน

เเต่น้องก้อต้อง balance ชีวิตด้วยนะ ไม่ใช่เรียนห้องธรรมดา เเละไม่สนใจกาคเรียน เเต่พี่คิดว่าน้องไม่เปนงัั้นค่ะ

ปล. เด็กที่โชคดีเเบบน้องที่มีพ่อเเม่เข้าใจมีไม่เยอะหรอกนะ ดังนั้น อย่าทำให้ท่านผิดหวังนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่