ผมแปลกใจหลายๆคน โดยเฉพาะคนในกรุงเทพ

เนื้อหากระทู้ (พร้อมโพสต์) ขอถามแบบเปิดใจเลยค่ะ ไม่ได้จะดราม่า แต่ช่วงนี้เจอเหตุการณ์ที่ทำให้คิดเยอะมาก เราเป็นคนที่พยายามทำดี ช่วยคนเต็มที่ ไม่เอาเปรียบใคร แต่ในที่ทำงาน สิ่งที่เห็นคือ… คนที่

ดูทีวี หรือเฟซบุ๊ค ช่วงนี้มีแต่ข่าวการหาเสียงของนักการเมือง ส่วนใหญ่ก็วิธีแนวทางเดิมๆ สกปรก สาดโคลน ใส่ร้ายกันต่างๆนา น่าสะอิดสะเอียน แถมยังมีนักวิชาการ ผู้สื่อข่าวผสมโรงเข้าไปอีก นโยบายก็มีแต่แจกๆๆๆ

ในเวลาที่ ฝ่ายหนึ่งใช้วิธีการสกปรกโสมม สาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีทำร้ายทำลายฝ่ายตรงข้าม กลับทำให้เห็นความสกปรกโสโครกของฝ่ายผู้กระทำมากขึ้นเรื่อยๆ ในทางตรงข้าม กลับเป็นการทำให้เห็นความบริสุทธิ์ของฝ่ายผู้ถูก

เห็นเหล่า สาวกแมงสาบ ออกมาแสดงอาการกะดี๊กะด๊า กับชัยชนะ เลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ที่ผ่านมา เห็นแล้ว อดนึกสังเวชใจไม่ได้จริงๆ ถ้า...ชัยชนะนั้น ได้มาแบบใสสะอาด ปราศจาก การยกเมฆ สาดโคลน ใส่ร้าย ป้ายสี ฝ่า

ส่วนตัวชื่นชมกับแนวคิด วิสัยทัศน์ การทำงานของพรรคอนาคตใหม่ แต่เมื่อเจอประเด็นเรื่องเครื่องแต่งกายที่กลายเป็นเสมือนวาระแห่งชาติในตอนนี้ ทำให้ต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้ง เด็กรุ่นใหม่พร้อมที่จะบริหารปร

สาเหตุที่คนเบื่อการเมือง ก็เพราะมีนักการเมืองแบบนายมาร์คนี่แหละ.. สมัยตัวเองเป็นรัฐบาล ก็เร่งรัด ก็ดำเนินการ ก็ทำในสิ่งที่ตอนนี้ไปโวยวายเขานั่นแหละ เหมือนเด็กๆที่ไม่รู้จักโตจริงๆ จินตนาการไปเรื่อยเป

ดีลตั้งรัฐบาลข้ามขั้วปีที่ผ่านมา มีพลังประชารัฐมาร่วมด้วย ซึ่งเหมือนบิ๊กป้อมแกไม่ค่อยเต็มใจ เพราะอาจจะโกรธทั้งตัว"นายใหญ่" และ"ผู้ใหญ่"ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล บางท่าน สุดท้ายก็ยกมือใ

ไม่มีฝ่ายใดถอยให้กัน ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าทำเพื่อประชาชน แต่ก็ไม่สามารจับมือกันได้ การทำเพื่อจุดหมายเดียวกันอย่างที่อ้าง เส้นทางมันจะต่างถึงขนาดเดินผ่านหน้าไม่ได้เลยเหรอ ยิ่งสาดโคลนโจมตีกันไปมา กองเช

สิ่งที่เป็นทฤษฎีจากลุงกำนันที่เรียกร้องให้ปฎิรูปประเทศเริ่มจากการเลือกตั้งกำลังกลับมาหลอกหลอน ประชาธิปไตยกันแล้วครับ เพิ่งเริ่มต้น หรือที่เรียกว่า กำลังไปแค่จุดสตาร์ท ก็เริ่มสาดโคลนกันแล้ว การเมืองน้

นิสัยพวกขี้แพ้ชวนตี ไม่มีน้ำใจนักกีฬา อยู่ดีไม่ว่าดีเรียกทหารเรียกรถถังเรียกตุลาการภิวัฒน์มาจัดการคนอื่น ทำอะไรก็ต้องแอบทำลับหลังคนอื่น เพราะสุ้กันซึ่งๆหน้าไม่ได้ จะเลือกตั้งผู้ว่ากทมทั้งที ยังต้องใช้