เรามีเพื่อนคนไทยอยู่ที่อเมริกาค่ะ รัฐ Minnesota เค้าจะย้ายกลับมาไทยถาวร เลยชวนเราไปเที่ยวส่งท้ายก่อนกลับ คือก็ไปช่วยเค้าขนของกลับมาด้วยนั่นแหละค่ะ (จริงๆแล้วก็รู้นะคะ ว่าช่วงนี้ไม่มีอะไรน่าเที่ยวเลย แต่เราอยากพักผ่อนค่ะ)
แต่เราไม่มีวีซ่าอเมริกา แล้วก็มีเงื่อนไขยุ่งเหยิงหน่อยค่ะ
- เราโสดค่ะ อายุ 28
- งานปัจจุบัน ทำมาได้ 10 เดือนแล้ว
- เรามีเงินเก็บประมาณ 2 แสน แต่เป็นชื่อคุณแม่ค่ะ (เพราะแม่ฝากเข้าสหกรณ์ได้ ได้ดอกเบี้ยดีกว่า)
- ถ้าจะไป เราเดินทางได้ช่วงสงกรานต์ค่ะ เพราะบริษัทเราหยุดยาว 10 วัน เลยถือเป็นโอกาสดี ที่จะได้เที่ยวแบบไม่ต้องลางาน
- ปี 2009 เราเคยไปเป็นออแพร์ที่นิวยอร์คค่ะ
- พอหมดโครงการ (ม.ค. 2010) เราทำเรื่องขอเปลี่ยนสถานะเพื่อเรียนภาษา แต่ย้ายไปเรียนที่รัฐมินเนโซต้าแทน เพราะมีเพื่อนที่สามารถแชร์บ้านด้วยได้อยู่ที่นั่น (ทำเรื่องเปลี่ยนสถานะก่อนหมดโครงการ คือทำ พ.ย.2009)
- ตอนนั้นเราสมัครเรียนภาษาแล้ว เป้นโรงเรียน ELS ที่ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้ค่ะ
- โรงเรียนอนุญาตให้เราเข้าเรียนได้ เพราะเราแสดงเอกสารยืนยันว่าการขอเปลี่ยนสถานะของเรา pending อยู่
- เราเรียนไปได้ 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย. 2010) ปรากฏว่าทำเรื่องเปลี่ยนสถานะของเราไม่ผ่านค่ะ เพราะลืมเซนต์ชื่อตัวเองในใบ i-20 (-*- )
- โรงเรียนบอกว่า ให้ยื่นเรื่องใหม่ เพราะเราสามารถยื่นคำร้องใหม่ได้ และขณะนั้นแสดงว่าเราอยู่แบบไม่ผิดกฏหมาย
- เราเรียนจบคอร์สเดือนที่ 4 (พ.ค. 2010) ก็ยังไม่รู้ผลการเปลี่ยนสถานะ โทรไปที่ Homeland security เค้าก็บอกว่าจะตามเรื่องให้
- เราตัดสินใจอยู่ที่นั่นก่อน เพราะอยากจะลงเรียน certificate ก่อนกลับบ้าน และเพราะคุยกับเพื่อนที่เป็นนักกฏหมาย เค้าบอกว่า ตราบใดที่ผลยังไม่ออก เรายังสามารถอยู่ได้อย่างถูกกฏหมาย
- ช่วงที่อยู่ เราไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันค่ะ เราเรียนไม่ได้ เพราะยังไม่มีวีซ่านักเรียน
- เราทำงานบ้างตามร้านอาหาร แต่ไม่ได้ประจำค่ะ เป็นลักษณะไปแทนเพื่อน ซึ่งนานๆก็ไปครั้งหนึ่ง เพราะเรายังถือว่าเราอยากได้วีซ่านักเรียน และอยากอยู่อย่างถูกกฏหมายจริงๆ เลยเลี่ยงเรื่องพวกนี้ถ้าไม่จำเป็นค่ะ
- จนเดือนกันยา 2010 เราตัดสินใจกลับบ้าน เพราะผลวีซ่าก็ยังไม่ได้
- เราบินออกจากมินเนโซต้า - ชิคาโก - ญี่ปุ่น (คือเป็น domestic ก่อนค่ะ) ก็เลยไม่มีเจ้าหน้าดึงใบ i-94 ไป (ปกติพอออกนอกประเทศ เค้าต้องเอาคืนไปใช่มั้ยคะ) ตอนนี้เราเลยยังมีใบนั้นอยู่ในพาสปอร์ตอยู่เลย
- ถามว่า 5 เดือนที่เหลือ เราทำอะไรบ้าง เราดูแลบ้านให้เพื่อนค่ะ รับแปลงานจากไทยบ้าง เที่ยวบ้าง แต่เป้นแบบทริป เพื่อนเค้าไปกัน เราก็ไปด้วย เราใช้เงินเก็บจากช่วงที่เป็นออแพร์ (เราได้เยอะค่ะ เพราะทำงานเกินเวลาเยอะมาก และโฮสต์ยอมจ่ายเต็มที่ถ้าเราทำงานเกินเวลา) กับค่าขนมเล็กๆน้อยๆที่ได้จากไปทำงานแทนเพื่อน + บางครั้งให้แม่โอนเงินมาให้บ้าง
- (ก.พ. 2011) เราซึ่งกลับไทยแล้ว และเริ่มทำงาน เพื่อนโทรมาบอกว่า ผลวีซ่านักเรียนออกแล้ว และเราผ่านด้วย (-*- )
ซึ่งก็ผ่านจริงๆค่ะ เพื่อนสแกนมาให้ดูด้วย
เงื่อนไขยุ่งเหยิงหน่อย ^ ^"
เรากำลังชั่งใจค่ะ ว่าเราจะสมัครวีซ่าดีมั้ย
เพราะใจนึงก็อยากไปเที่ยว เพราะเป้นช่วงที่ได้หยุดยาว ไม่งั้นอีกทีก็ปลายปีโน่น บวกกับได้ช่วยเพื่อนขนของกลับ และเที่ยวนิดหน่อยด้วย
อีกใจก็คิดว่า ถ้าความเป็นไปได้ที่จะผ่าน มันมีน้อย เราก็ควรจะรอไปก่อน (รออะไร ^^")
วีซ่าอเมริกา กรณีแบบนี้ เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนคะ
แต่เราไม่มีวีซ่าอเมริกา แล้วก็มีเงื่อนไขยุ่งเหยิงหน่อยค่ะ
- เราโสดค่ะ อายุ 28
- งานปัจจุบัน ทำมาได้ 10 เดือนแล้ว
- เรามีเงินเก็บประมาณ 2 แสน แต่เป็นชื่อคุณแม่ค่ะ (เพราะแม่ฝากเข้าสหกรณ์ได้ ได้ดอกเบี้ยดีกว่า)
- ถ้าจะไป เราเดินทางได้ช่วงสงกรานต์ค่ะ เพราะบริษัทเราหยุดยาว 10 วัน เลยถือเป็นโอกาสดี ที่จะได้เที่ยวแบบไม่ต้องลางาน
- ปี 2009 เราเคยไปเป็นออแพร์ที่นิวยอร์คค่ะ
- พอหมดโครงการ (ม.ค. 2010) เราทำเรื่องขอเปลี่ยนสถานะเพื่อเรียนภาษา แต่ย้ายไปเรียนที่รัฐมินเนโซต้าแทน เพราะมีเพื่อนที่สามารถแชร์บ้านด้วยได้อยู่ที่นั่น (ทำเรื่องเปลี่ยนสถานะก่อนหมดโครงการ คือทำ พ.ย.2009)
- ตอนนั้นเราสมัครเรียนภาษาแล้ว เป้นโรงเรียน ELS ที่ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้ค่ะ
- โรงเรียนอนุญาตให้เราเข้าเรียนได้ เพราะเราแสดงเอกสารยืนยันว่าการขอเปลี่ยนสถานะของเรา pending อยู่
- เราเรียนไปได้ 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย. 2010) ปรากฏว่าทำเรื่องเปลี่ยนสถานะของเราไม่ผ่านค่ะ เพราะลืมเซนต์ชื่อตัวเองในใบ i-20 (-*- )
- โรงเรียนบอกว่า ให้ยื่นเรื่องใหม่ เพราะเราสามารถยื่นคำร้องใหม่ได้ และขณะนั้นแสดงว่าเราอยู่แบบไม่ผิดกฏหมาย
- เราเรียนจบคอร์สเดือนที่ 4 (พ.ค. 2010) ก็ยังไม่รู้ผลการเปลี่ยนสถานะ โทรไปที่ Homeland security เค้าก็บอกว่าจะตามเรื่องให้
- เราตัดสินใจอยู่ที่นั่นก่อน เพราะอยากจะลงเรียน certificate ก่อนกลับบ้าน และเพราะคุยกับเพื่อนที่เป็นนักกฏหมาย เค้าบอกว่า ตราบใดที่ผลยังไม่ออก เรายังสามารถอยู่ได้อย่างถูกกฏหมาย
- ช่วงที่อยู่ เราไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันค่ะ เราเรียนไม่ได้ เพราะยังไม่มีวีซ่านักเรียน
- เราทำงานบ้างตามร้านอาหาร แต่ไม่ได้ประจำค่ะ เป็นลักษณะไปแทนเพื่อน ซึ่งนานๆก็ไปครั้งหนึ่ง เพราะเรายังถือว่าเราอยากได้วีซ่านักเรียน และอยากอยู่อย่างถูกกฏหมายจริงๆ เลยเลี่ยงเรื่องพวกนี้ถ้าไม่จำเป็นค่ะ
- จนเดือนกันยา 2010 เราตัดสินใจกลับบ้าน เพราะผลวีซ่าก็ยังไม่ได้
- เราบินออกจากมินเนโซต้า - ชิคาโก - ญี่ปุ่น (คือเป็น domestic ก่อนค่ะ) ก็เลยไม่มีเจ้าหน้าดึงใบ i-94 ไป (ปกติพอออกนอกประเทศ เค้าต้องเอาคืนไปใช่มั้ยคะ) ตอนนี้เราเลยยังมีใบนั้นอยู่ในพาสปอร์ตอยู่เลย
- ถามว่า 5 เดือนที่เหลือ เราทำอะไรบ้าง เราดูแลบ้านให้เพื่อนค่ะ รับแปลงานจากไทยบ้าง เที่ยวบ้าง แต่เป้นแบบทริป เพื่อนเค้าไปกัน เราก็ไปด้วย เราใช้เงินเก็บจากช่วงที่เป็นออแพร์ (เราได้เยอะค่ะ เพราะทำงานเกินเวลาเยอะมาก และโฮสต์ยอมจ่ายเต็มที่ถ้าเราทำงานเกินเวลา) กับค่าขนมเล็กๆน้อยๆที่ได้จากไปทำงานแทนเพื่อน + บางครั้งให้แม่โอนเงินมาให้บ้าง
- (ก.พ. 2011) เราซึ่งกลับไทยแล้ว และเริ่มทำงาน เพื่อนโทรมาบอกว่า ผลวีซ่านักเรียนออกแล้ว และเราผ่านด้วย (-*- )
ซึ่งก็ผ่านจริงๆค่ะ เพื่อนสแกนมาให้ดูด้วย
เงื่อนไขยุ่งเหยิงหน่อย ^ ^"
เรากำลังชั่งใจค่ะ ว่าเราจะสมัครวีซ่าดีมั้ย
เพราะใจนึงก็อยากไปเที่ยว เพราะเป้นช่วงที่ได้หยุดยาว ไม่งั้นอีกทีก็ปลายปีโน่น บวกกับได้ช่วยเพื่อนขนของกลับ และเที่ยวนิดหน่อยด้วย
อีกใจก็คิดว่า ถ้าความเป็นไปได้ที่จะผ่าน มันมีน้อย เราก็ควรจะรอไปก่อน (รออะไร ^^")