เศษเสี้ยวของความฝัน

ผมคิดว่าผมเป็นคนที่มีความฝันเยอะมากถึงมากที่สุด อาจเยอะมากจนติดอันดับต้นๆของโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ...
ในความฝัน หกล้านแปดแสนเจ็ดหมื่นกว่าอย่างของผมนั้นมีหลายตัวเป็นจริงและกำลังโดดเด่น
มีหลายตัวที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง อีกหลายตัวที่เป็นไปไม่ได้ และ อีกหลายๆตัวที่เป็นแค่ฝัน

ถ้าไม่นับความฝันลมๆแล้งๆอย่างเช่น หวังว่าอยากถูกหวยเบอร์ใหญ่ อยากไปกินข้าวที่ดาวอังคาร ฯลฯ
มีอะไรในโลกที่เป็นไปไม่ได้ด้วยหรือ? ผมว่ามีครับแต่อาจจะแตกต่างกับสภาพแวดล้อมของแต่ละคน
เช่นผมฝันว่าอยากเป็นโคบาลหนุ่ม(หรือแก่) ผมจะขี่ม้าตัวโตๆไปรอบอาณาบริเวณหลายพันไร่ที่มี
ชมดูฝูงวัวอเมริกันบราห์มันแดงเลือดร้อย นับพันแม่ แทะเล็มหญ้าอย่างเอื่อยชา
ทำไมไม่ทำตามฝันล่ะ ... ถ้าเริ่มก็คงจะได้ที่ทางก็พอ ทุนก็พอหาได้
แต่ประเด็นคือ .... ครอบครัวผมไม่อยากให้เลี้ยงสัตว์ ฝันนี้จึงพับและเก็บเข้าลิ้นชักไป

นอกจากฝันลมๆแล้งๆและข้อจำกัดแล้ว ทุกอย่างมีความเป็นไปได้หมดทุกอย่าง
ขึ้นอยู่กับว่า เรากล้าพอที่จะล่าฝันหรือเปล่า??


วันนี้ฤกษ์งามยามดีผมจึงขออาศัยบทความนี้บอกเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านความฝันครับ


ผมเชื่อว่าทุกคนมีฝัน แต่ไม่รู้ทำไม มีคนจำนวนไม่มากที่กล้าก้าวออกเดินตามฝัน
...และท้ายที่สุดเหลือ คนเพียงหยิบมือเดียว ที่สำเร็จได้ตามฝัน


เพราะแน่นอนว่าความฝันของเรามักจะยิ่งใหญ่ เลิศหรู อลังการ ดูดีทุกอณู
ความยิ่งใหญ่มักจะตามมาด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อนงำ ยากคลี่คลาย
คนจำนวนมากจึง “จินตนาการความกลัวขึ้นมาเอง”
หวาดระแวงไปต่างๆนาๆ เดาอุปสรรคที่จะต้องเจอ เป็นจริง เป็นจัง เป็นเรื่องเป็นราว
คิดไปคิดมา ท่าจะยาก จะทำทำไม เลิกดีกว่า ....

ถ้าสิ่งที่เราฝันไว้มันยิ่งใหญ่และมหากาฬ ยากและท้าทาย ....
ผมแนะนำให้แบ่งย่อยความฝันใหญ่ๆ นั้นออกเป็นส่วนๆ และค่อยๆทำไขปัญหาทีละส่วน
หลังจากที่ผ่านส่วนนั้นไป หยุดมองดูความสำเร็จเล็กๆที่ผ่านมา
แล้วจะรู้สึกอิ่มเอมกับฝันให้เป็นจริงมากขึ้นทีละนิด
อีกทั้งเราจะรู้ว่าความฝันนั้นไม่มันใหญ่เกินไปที่จะทำ!!
เพราะเรากำลังเดินเข้าหามัน . . . ทีละน้อย . . . ทีละน้อย



ผมขอยกตัวอย่างการจัดการความฝันของผมที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับผมตัวหนึ่ง


การศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของชาติบ้านเมือง ประเทศชาติจะเดินหน้าต่อไปอย่างยั่งยืนมั่นคงได้
แต่ประเทศของเรา ยังมีเด็กหลายๆกลุ่มที่ไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอ
ดังนั้นผมจึงอยากที่จะช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสด้านการศึกษาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ความฝันกว้างมากและปลายเปิดเกินไป ต้องกระชับความฝันลงมาให้จับต้องได้สักนิด

จัดตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษา ส่งเสริมและสนับสนุน การเรียนแก่เด็กด้อยโอกาสและผู้ยากไร้

สร้างห้องสมุดตามโรงเรียนชายแดน และถิ่นทุรกันดานปีละ 10 โรงเรียน
อีกทั้งยังทำการส่งเสริมแบบต่อเนื่อง ปีก่อน สร้างห้องสมุด ปีนี้ลงห้องคอม ปีหน้า...
รวมทั้ง มอบทุนการศึกษาเด็กเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ทั้งแบบรายปีและส่งเรียนจนจบ
ทำการส่งเสริมแบบต่อเนื่อง และ ฯลฯ

โครงการนี้ ผมติดคร่าวๆว่ามีเงินทุนสนับสนุน ปีละ 10 ล้านบาท น่าจะกำลังสวย ดูดี หล่อ

ยิ่งใหญ่ มหากาฬมั้ยครับ ความฝันของผม!!!



ปีละ 10 ล้านบาท ... ไม่หมูแน่ๆ แต่ที่แน่ๆไม่ใช่เป็นไปไม่ได้


ผมเริ่มซอยแบ่งความฝันออกเป็นส่วนๆๆๆๆ ทั้งหมดหมื่นส่วน เยอะไปไหม 5555+
ผมเริ่มมาได้ประมาณสามส่วน ส่วนอื่นทำยังไงไม่รู้ ยังไม่มีแผน (อย่าไปกลัว) แต่ผมเริ่มดังนี้

ผมเริ่มจากทำเท่าที่ทำได้ ....


สองปีก่อน ... นู่นนิดนี่หน่อยยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าใด
หนึ่งปีก่อน ... เริ่มมอบทุนการศึกษา 10 ทุนเด็กเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในโรงเรียนแถวบ้าน
ปีนี้ ... ผมมอบทุนเช่นเดิมแต่เพิ่มมอบหนังสือเข้าห้องสมุดอีกจำนวนหนึ่ง
ปีหน้า ... ผมตั้งใจว่าจะมอบทุนและมอบหนังสือเข้าห้องสมุดเช่นเดิม แต่เพิ่มการฝากสมุดปากกาไปกับอีกกลุ่มที่เขาเดินทางขึ้นดอยไปมอบของ
ปีหน้านู้น ...

ถึงแม้วันนี้เงินทุนที่ผมใส่ลงไปในความฝันตัวนี้ จะเป็นเพียงหลักหมื่นต่อปี
เป็นเพียงเศษเสี้ยวฟันเฟืองของความฝันสิบล้านของผม
แต่เมื่อถึงวันมอบทุนการศึกษาและมอบหนังสือเข้าห้องสมุดทีไร
ผมจะรู้สึกประสบความสำเร็จ ... รู้สึกอิ่มเอิบใจ ... ชุ่มช่ำ ... และ
มีความสุขจากการที่ได้เดินตามฝันชิ้นนี้จริงๆ  



มาออกล่าฝันกันครับ!!


ขอให้บทความชิ้นนี้จงได้สร้างประโยชน์ให้แก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน

ขอให้ความร่ำรวยและความสุขสวัสดิ์จงมาสถิตแด่ท่าน

…[^_^]…


ปล. คุณพ่อผมเป็นตัวแทนในการมอบทุนในปีแรก




-ติดตามอ่านเรื่องราวงานเขียนของผมได้ในบล็อกนี้ครับ... http://goo.gl/6TKJz

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่