เปิดด้วยการที่คุณอดิศักดิ์บอกว่าบริษัท JAS ASSET เตรียมเข้าตลาดปีหน้า
♦ JMART 23 ปี, JMT 18 ปี, JAS 15 ปี
♦ ปีนี้ตลาดรวมจะมียอดขาย 72,000 ล้านบาท JMART 10,000 ล้านบาทคิดเป็น Market Share 14%
♦ การมี Market Share มากๆ ไม่ใช่ Solution ที่ดีที่สุด คือขายราคาถูก เน้นเอาวอลุ่มแต่มาร์จิ้นจะน้อย
♦ ปี 55 ส่วนแบ่งตลาดโดยรวม ฟีเจอร์โฟน สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต 20% 63% 18% ตามลำดับ
♦ Average selling price ของ JMART 6,873 บาท ของ GFK 4,000 บาท ใน 4Q55
♦ Assassorie มีมาร์จิ้นดีเฉลี่ย 30% และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
♦ สาขาในต่างจังหวัด 52% สร้างยอดรายได้ 34% ใน กทม. 48% สร้างยอดรายได้ 66%
♦Inventory Turnover อยู่ที่ 39.60 วัน ในตลาด JMART ทำได้ดีที่สุด
โอกาสในปี 2013 - 2016
♦ AIS DTAC TRUE รวม 75 ล้านเบอร์
♦ 20% เป็น 3G แล้วมีอยู่ 15 ล้านเบอร์ ยังเหลืออีก 60 ล้านเบอร์ที่ต้องเปลี่ยนเป็น 3G
♦ โฆษณา "เมืองไทยผ่านมือถือ" ต้องการบอกว่า เราอยู่มานาน เราเป็นผู้นำในตลาด เราทำเรื่องผ่อนชำระเป็นรายแรก เราทำเรื่องส่งมือถือเป็นการแรก เราทำเรื่องมือถือสำรองระหว่างซ่อมเป็นรายแรก เรามีสาขามากที่สุด ไม่ใช่ Hard Sale สรุปคือ JMART เป็นแบรนด์ที่ไว้วางใจได้
♦ ร้าน BlackBerry ที่พารากอนจะเปลี่ยนเป็น Samsung เนื่องจากยอดขายน้อยมากเพียง 15-20% ของ Samsung Shop เท่านั้น
♦ Samsung Shop ที่ฟิวเจอร์ รังสิต เจ้าของพื้นที่ให้ JMART
พื้นที่เช่า JAS ASSET
♦ ปีนี้ได้พื้นที่เช่าเพิ่มอีก 10 แห่ง รวม 30 แห่ง ปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 40 แห่ง (BigC มี 100 กว่าสาขา แต่ทำได้ 60-70 แห่ง)
♦ ทำใน Lotus ไม่ได้ต้องเลือก ระหว่าง BigC กับ Lotus
♦ พื้นที่เช่ารวมปี55 10,282 ตารางเมตร ราคาค่าเช่า 1,969 บาทต่อตารางเมตร
♦ รายได้เพิ่มขึ้น 10% yoy
การเงิน
♦ เผื่อสต็อกไว้สำหรับจัดงาน Events ที่เห็นในงบสินค้าคงค้างเยอะๆ
♦ Property, Plant เพิ่มขึ้นที่ 731 ล้านบาท เนื่องจากสร้าง Office ใหม่ของเจมาร์ทที่สุขา3
♦ ที่ดินอสังหาริมทรัพย์ที่วังหิน 211 ล้านบาท
♦ ธุรกิจมือถือมาร์จิ้นอยู่ที่ 13% (เดิม 12%)
♦ ธุรกิจเช่าพื้นที่มาร์จิ้นอยู่ที่ 17% (เดิม 17%)
♦ D/E 0.75 น้อยมาก , ROE 29, ROA 13
ลิงค์บทความ
ช่วง Q&A จะมาเพิ่มให้อีกทีครับ
[สรุป] JMART : Opp day Feb 26, 2012
♦ JMART 23 ปี, JMT 18 ปี, JAS 15 ปี
♦ ปีนี้ตลาดรวมจะมียอดขาย 72,000 ล้านบาท JMART 10,000 ล้านบาทคิดเป็น Market Share 14%
♦ การมี Market Share มากๆ ไม่ใช่ Solution ที่ดีที่สุด คือขายราคาถูก เน้นเอาวอลุ่มแต่มาร์จิ้นจะน้อย
♦ ปี 55 ส่วนแบ่งตลาดโดยรวม ฟีเจอร์โฟน สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต 20% 63% 18% ตามลำดับ
♦ Average selling price ของ JMART 6,873 บาท ของ GFK 4,000 บาท ใน 4Q55
♦ Assassorie มีมาร์จิ้นดีเฉลี่ย 30% และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
♦ สาขาในต่างจังหวัด 52% สร้างยอดรายได้ 34% ใน กทม. 48% สร้างยอดรายได้ 66%
♦Inventory Turnover อยู่ที่ 39.60 วัน ในตลาด JMART ทำได้ดีที่สุด
โอกาสในปี 2013 - 2016
♦ AIS DTAC TRUE รวม 75 ล้านเบอร์
♦ 20% เป็น 3G แล้วมีอยู่ 15 ล้านเบอร์ ยังเหลืออีก 60 ล้านเบอร์ที่ต้องเปลี่ยนเป็น 3G
♦ โฆษณา "เมืองไทยผ่านมือถือ" ต้องการบอกว่า เราอยู่มานาน เราเป็นผู้นำในตลาด เราทำเรื่องผ่อนชำระเป็นรายแรก เราทำเรื่องส่งมือถือเป็นการแรก เราทำเรื่องมือถือสำรองระหว่างซ่อมเป็นรายแรก เรามีสาขามากที่สุด ไม่ใช่ Hard Sale สรุปคือ JMART เป็นแบรนด์ที่ไว้วางใจได้
♦ ร้าน BlackBerry ที่พารากอนจะเปลี่ยนเป็น Samsung เนื่องจากยอดขายน้อยมากเพียง 15-20% ของ Samsung Shop เท่านั้น
♦ Samsung Shop ที่ฟิวเจอร์ รังสิต เจ้าของพื้นที่ให้ JMART
พื้นที่เช่า JAS ASSET
♦ ปีนี้ได้พื้นที่เช่าเพิ่มอีก 10 แห่ง รวม 30 แห่ง ปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 40 แห่ง (BigC มี 100 กว่าสาขา แต่ทำได้ 60-70 แห่ง)
♦ ทำใน Lotus ไม่ได้ต้องเลือก ระหว่าง BigC กับ Lotus
♦ พื้นที่เช่ารวมปี55 10,282 ตารางเมตร ราคาค่าเช่า 1,969 บาทต่อตารางเมตร
♦ รายได้เพิ่มขึ้น 10% yoy
การเงิน
♦ เผื่อสต็อกไว้สำหรับจัดงาน Events ที่เห็นในงบสินค้าคงค้างเยอะๆ
♦ Property, Plant เพิ่มขึ้นที่ 731 ล้านบาท เนื่องจากสร้าง Office ใหม่ของเจมาร์ทที่สุขา3
♦ ที่ดินอสังหาริมทรัพย์ที่วังหิน 211 ล้านบาท
♦ ธุรกิจมือถือมาร์จิ้นอยู่ที่ 13% (เดิม 12%)
♦ ธุรกิจเช่าพื้นที่มาร์จิ้นอยู่ที่ 17% (เดิม 17%)
♦ D/E 0.75 น้อยมาก , ROE 29, ROA 13
ลิงค์บทความ
ช่วง Q&A จะมาเพิ่มให้อีกทีครับ