เรื่องมีอยู่ว่า ราวกลางปีก่อน มีลูกน้องที่คล่องงาน ทำงานกับองค์กรของดิฉันและสามีมานานหลายปี ตั้งแต่เป็นเด็กจบใหม่ๆ(ยังไม่ได้รับปริญญาบัตรเลยด้วยซ้ำ)
จนรู้เรื่องต่างๆในบริษัททุกอย่าง ต่อมาเด็กคนนี้ได้ขอลาออกเพื่อไปเติบโตเพิ่มพูนประสบการณ์ที่บริษัทใหม่
ดิฉันเสียดายเด็กคนนี้มากกว่าจะปั้นใครสักคนให้รู้งานและไว้ใจได้เหมือนเป็นญาติ ยังปรึกษากับสามีว่าจะพูดจาเหนี่ยวรั้ง หรือเพิ่มค่าจ้างอย่างไรดี
สามีก็บอกว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาที่จะคุยกับเด็กเองดีกว่า ดิฉันอย่าไปยุ่งเลย
หลังจากนั้น สามีมักจะมาพูดทีเล่นทีจริงว่าจะหาน้องสาวให้ ประมาณว่าขอให้เป็นเจ๊ใหญ่ที่เมตตาน้องๆ จะได้มาช่วยกันทำงานฯลฯ
ฟังดูก็ทะ
ๆ เป็นนัยๅว่าจะมีเมียน้อยนั่นแหละ
และในที่สุดวันหนึ่งสามีก็เดินมาบอกว่า จะว่าอะไรไหมหากเขาจะมีไปพูดจายื่นข้อเสนอให้เด็กคนที่จะลาออกนั้น เป็นภรรยาของเขาอีกคน
สามีให้เหตุผลกับดิฉันว่า ให้เป็นภรรยาซะจะได้ไม่ไปไหน อยู่ช่วยทำงานให้ต่อไป
ดิฉันอึ้งและชาไปทั้งตัวเมื่อได้ยินคำพูดนี้จากปากสามี ดิฉันโกรธและไม่เข้าสำนักงานอีกหากไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ ปล่อยให้พวกเขาทำงานกันไป
ระหว่างนั้นเขาก็พาเด็กคนนั้นออกไปทำงาน ไปพบลูกค้ากันเกือบทุกวัน ทั้งยังกลับมาชื่นชมให้ดิฉันฟังตลอด
บางเรื่องที่ดิฉันและเด็กคนนั้น เสนอความเห็นเหมือนกันเขากลับดุว่าดิฉันว่ามีความคิดที่แย่ แต่พอเป็นเด็กคนนั้นเสนอ(ซึ่งเหมือนกับของดิฉัน) เขากลับชมว่าเป็นความคิดที่ดี
แต่สุดท้่ายเด็กคนนั้นก็ไม่รับข้อเสนอของสามีดิฉัน (เขาเพียรพยายาพูดจากึ่งๆหวาน เช่น ทำงานด้วยพี่ก็รู้สึกดีกับ...นะ)
และก็ออกไปเริ่มงานที่ใหม่ตามกำหนดที่แจ้งลาออกไว้ และไม่ได้ติดต่อกับสามีดิฉันอีก
รายละเอียดนั้นเด็กคนนี้ได้มีการเล่าให้ดิฉันฟังหลังจากออกไปแล้ว
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ดิฉันยอมรับว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่เหมือนเดิม
ดิฉันไม่สามารถปรับใจปรับความรู้สึกได้
และสามีเองก็ยังคงชอบแหย่ เรื่องจะมีกิ๊กมีเด็ก ให้ดิฉันเสียอารณ์อยู่เสมอๆ
จนต่อมาสามีเริ่มมาชื่นชม เด็กทำงานคนใหม่(แต่คนละตำแหน่งกับคนเดิมที่ลาออกไป)
นอกจากนี้ยังชอบพูดจา ชงเรื่องเช่น "อ่านข้อความในโทรศัพท์ของเขาหรือยัง". หรือ "ไปอ่านเฟสบุ๊คของเขามารึยัง"
ซึ่งดิฉันไม่เคยทำเลยค่ะ
ได้แต่งง ว่าทำไมชอบมาพูดชงเรื่องแบบนี้ ทั้งที่มักจะบอกเสมอว่า ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว
จนสุดท้ายหลังจากสามีพูดแนวนี้มาหลายเดือนดิฉันจึงเปิดมือถือเขาดูจริงๆ
และก็พบว่า เขาได้ส่งข้อความให้เด็กทำงานคนใหม่นี้ เป็นสิบข้อความ
ดิฉันโกรธมาก(อีกครั้ง) มันแค้นใจเหมือนโดนหลอก
ถามก็บ่ายเบี่ยง แล้วก็ต่อว่าที่ดิฉันไปเปิดข้อความมือถือของเขาดู (อ้าวก็ตัวเอง พูดจาชงเรื่องอยู่ตลอดเป็นเวลาเกือบครึ่งค่อนปี)
หลายครั้งดิฉันว่าเขาเหมือนมีปัญหาขาดความรัก อยากให้ผู้หญิงมารุมรักและชอบพูดถึงเรื่องเก่าๆสมัยเป็นวัยรุ่นมีแฟนทีละหลายๆคน
พอมีปัญหาก็ปล่อยให้ทะเลาะเคลียร์กันเอง ส่วนตัวเขาก็บอกว่าชิ่งไปหาคนใหม่
ดิฉันก็แค่มาระบายค่ะ ต้องขออภัยหากมันยาวเกินไป
แค้นใจ เหมือนเป็นจิ้งหรีดโดนปั่นหัวเล่น
จนรู้เรื่องต่างๆในบริษัททุกอย่าง ต่อมาเด็กคนนี้ได้ขอลาออกเพื่อไปเติบโตเพิ่มพูนประสบการณ์ที่บริษัทใหม่
ดิฉันเสียดายเด็กคนนี้มากกว่าจะปั้นใครสักคนให้รู้งานและไว้ใจได้เหมือนเป็นญาติ ยังปรึกษากับสามีว่าจะพูดจาเหนี่ยวรั้ง หรือเพิ่มค่าจ้างอย่างไรดี
สามีก็บอกว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาที่จะคุยกับเด็กเองดีกว่า ดิฉันอย่าไปยุ่งเลย
หลังจากนั้น สามีมักจะมาพูดทีเล่นทีจริงว่าจะหาน้องสาวให้ ประมาณว่าขอให้เป็นเจ๊ใหญ่ที่เมตตาน้องๆ จะได้มาช่วยกันทำงานฯลฯ
ฟังดูก็ทะ
และในที่สุดวันหนึ่งสามีก็เดินมาบอกว่า จะว่าอะไรไหมหากเขาจะมีไปพูดจายื่นข้อเสนอให้เด็กคนที่จะลาออกนั้น เป็นภรรยาของเขาอีกคน
สามีให้เหตุผลกับดิฉันว่า ให้เป็นภรรยาซะจะได้ไม่ไปไหน อยู่ช่วยทำงานให้ต่อไป
ดิฉันอึ้งและชาไปทั้งตัวเมื่อได้ยินคำพูดนี้จากปากสามี ดิฉันโกรธและไม่เข้าสำนักงานอีกหากไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ ปล่อยให้พวกเขาทำงานกันไป
ระหว่างนั้นเขาก็พาเด็กคนนั้นออกไปทำงาน ไปพบลูกค้ากันเกือบทุกวัน ทั้งยังกลับมาชื่นชมให้ดิฉันฟังตลอด
บางเรื่องที่ดิฉันและเด็กคนนั้น เสนอความเห็นเหมือนกันเขากลับดุว่าดิฉันว่ามีความคิดที่แย่ แต่พอเป็นเด็กคนนั้นเสนอ(ซึ่งเหมือนกับของดิฉัน) เขากลับชมว่าเป็นความคิดที่ดี
แต่สุดท้่ายเด็กคนนั้นก็ไม่รับข้อเสนอของสามีดิฉัน (เขาเพียรพยายาพูดจากึ่งๆหวาน เช่น ทำงานด้วยพี่ก็รู้สึกดีกับ...นะ)
และก็ออกไปเริ่มงานที่ใหม่ตามกำหนดที่แจ้งลาออกไว้ และไม่ได้ติดต่อกับสามีดิฉันอีก
รายละเอียดนั้นเด็กคนนี้ได้มีการเล่าให้ดิฉันฟังหลังจากออกไปแล้ว
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ดิฉันยอมรับว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่เหมือนเดิม
ดิฉันไม่สามารถปรับใจปรับความรู้สึกได้
และสามีเองก็ยังคงชอบแหย่ เรื่องจะมีกิ๊กมีเด็ก ให้ดิฉันเสียอารณ์อยู่เสมอๆ
จนต่อมาสามีเริ่มมาชื่นชม เด็กทำงานคนใหม่(แต่คนละตำแหน่งกับคนเดิมที่ลาออกไป)
นอกจากนี้ยังชอบพูดจา ชงเรื่องเช่น "อ่านข้อความในโทรศัพท์ของเขาหรือยัง". หรือ "ไปอ่านเฟสบุ๊คของเขามารึยัง"
ซึ่งดิฉันไม่เคยทำเลยค่ะ
ได้แต่งง ว่าทำไมชอบมาพูดชงเรื่องแบบนี้ ทั้งที่มักจะบอกเสมอว่า ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว
จนสุดท้ายหลังจากสามีพูดแนวนี้มาหลายเดือนดิฉันจึงเปิดมือถือเขาดูจริงๆ
และก็พบว่า เขาได้ส่งข้อความให้เด็กทำงานคนใหม่นี้ เป็นสิบข้อความ
ดิฉันโกรธมาก(อีกครั้ง) มันแค้นใจเหมือนโดนหลอก
ถามก็บ่ายเบี่ยง แล้วก็ต่อว่าที่ดิฉันไปเปิดข้อความมือถือของเขาดู (อ้าวก็ตัวเอง พูดจาชงเรื่องอยู่ตลอดเป็นเวลาเกือบครึ่งค่อนปี)
หลายครั้งดิฉันว่าเขาเหมือนมีปัญหาขาดความรัก อยากให้ผู้หญิงมารุมรักและชอบพูดถึงเรื่องเก่าๆสมัยเป็นวัยรุ่นมีแฟนทีละหลายๆคน
พอมีปัญหาก็ปล่อยให้ทะเลาะเคลียร์กันเอง ส่วนตัวเขาก็บอกว่าชิ่งไปหาคนใหม่
ดิฉันก็แค่มาระบายค่ะ ต้องขออภัยหากมันยาวเกินไป