ลุงหมีมุ่ยไปเยี่ยมหลานที่ กทม.มีโอกาสได้พูดคุยกับลูกหลาน
(คนที่สนใจการเมือง)เขามานั่งล้อมวงคุยกันเรื่องการเลือก ผู้ว่า กทม.
ผู้ว่าของพวกเขา พวกเขาถามว่าใครจะได้เป็น ผู้ว่า จึงได้วิเคราะห์ให้ฟัง
ดูจากอาการ ของผู้หาเสียง
ความรุกรี้รุกรน ต่างกัน ใครหล่ะรุกรี้รุกรนกว่าเพื่อน
ถึงขนาดหาเสียงไม่ตรงประเด็น
เช่น หากไม่เลือกจะเสียบ้านเสียเมือง
หากไม่เลือกเขา จะเสียปราการด่านสุดท้าย
หากไม่เลือกเขา ทักษิณจะได้นิรโทษกรรม
จะเอาคนเผาบ้านเผาเมืองมาเป็นผู้ว่าหรือ?
นี่คือ คนละประเด็นของการเลือกผู้ว่า กทม.
เพราะประเด็นการเลือกผู้ว่า กทม.คือ "เพื่อให้ได้ตัวแทนคน กทม.ที่มีความรู้ความสามารถ
มาพัฒนา และแก้ไขปัญหาให้คน กทม. " ไม่ใช่เลือกผู้ว่ามาทำศึกสงคราม
ใครรุกรี้รุกรนออกอาการให้เห็น จนขนาดหาเสียงไม่ตรงประเด็น นั่นย่อมแสดงว่า
กำลังเพลี่ยงพล้ำทางยุทธศาสตร์ ยากที่จะชนะ(ซุนวู ว่าไว้ในบทที่ 36)
ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายหนึ่ง เขานิ่ง และลึก
ขนาดจับคนเอาสติ๊กเกอร์ใส่ร้ายเขาได้เขายังยิ้มและบอกไม่เอาเรื่อง
ตั้งหน้าตั้งตาเสนอนโยบาย โดยไม่โจมตีฝ่ายตรงข้ามทั้งที่ฝ่ายตรงข้าม
มีช่องโหว่มากมาย ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่างยังจะตะบี้ตะบันอย่างหน้าด้าน
จะทำต่อไป เขาก็ไม่ไปเยาะเย้ยถากถาง เขากลับเดินหน้าให้กำลังใจ และเสนอนโยบาย
ที่จะเป็นการปิดช่องโหว่เติมเต็มในส่วนที่ ผู้ว่าคนเก่าทำไว้(อย่างไม่สำเร็จ)
เขาคิดโครงการแบบประสานรอบทิศ ก้าวหน้าเพื่อรับประชาคมอาเซียน
มองความปลอดภัยของคน กทม.อย่างเป็นรูปธรรม
ก้าวข้ามอดีตไปไกลกว่าคู่แข่ง อย่างเห็นชัด..นี่แหละคือการหาเสียงแบบสร้างสรรค์
ดูจากความฉลาดของคนกรุงเทพ
เมื่อก่อนเราอาจฟันธงได้เลยว่า หม่อมชนะแน่ เพราะอยู่ ปชป.
วันนี้ไม่ใช่อย่างนั้นเสียแล้ว
วันนี้ คน กทม.ไม่หลงประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาระสำคัญ
ของการเลือก ผู้ว่า กทม. มันคือ อะไร
การเอาทักษิณ มาสร้างกระแสความเกลียดชัง จึงไม่ได้ผล
ไม่ได้ผลแล้วกลับเป็นผลลบเสียด้วย คน กทม.ฉลาดและตาสว่างขึ้นกว่าเก่า
เเต่..ไม่ควร..ไม่ลืมพวกที่เกลียดทักษิณ และรัก ปชป.ยังไงๆก็โยกคลอนจิตใจเขาไม่ได้
ไม่ว่า ปชป.จะพูดอะไรเขาพร้อมจะเชื่อ เขาพร้อมจะหลง แต่...ถามว่าคนลุ่มหลง
งมงายแบบนี้ใน กทม.มีอยู่สักกี่คนหล่ะ?
คนอย่างหลาน ที่เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนมีการศึกษา เป็นคนที่มีความคิด(โยนคำถาม)
จะหลงคารมไปกับเขาไหม?หล่ะว่า ทักษิณ จะครอง จะยึดกรุงเทพ จะเป็นประธานาธิบดี
จะรู้สึกว่าจะเสียบ้านเสียเมือง ..หลานๆซึ่งมีอยู่ 4-5 คนล้วนส่ายหน้า
คนแบบหลานๆของลุงในกรุงเทพ ที่คิดเป็น ลุงว่ามันน่าจะมีมากกว่า คงที่หลงงมงายไม่มีเหตุผล
หรือหลงประเด็น ไปกับการหาเสียงแบบเก่าของพรรคการเมืองเก่าๆ สไตน์เก่าๆที่ไม่สร้างสรรค์
วันนี้ โลกไปไกล คนไทยไปโลด แล้ว ลุงหมีมุ่ยจึงฟันธงว่า คนกทม.ก้าวหน้า มีจำนวนมากกว่า
คนอนุรักษ์นิยมแบบ ปชป. พงศพัศจึงน่าจะชนะเลือกตั้ง "ฟันธง" อย่างน้อยในนี้ก็ห้าเสียงแล้ว
เจ้าหลานชายคนโต บอกว่า"ไม่ใช่ลุง บวกพวกผมอีก 20 ครับ" เห็นมั้ยว่า คน กทม.เขาฉลาดแล้วจริงๆ
วิเคราะห์โค้งสุดท้ายตามประสาคนแก่
(คนที่สนใจการเมือง)เขามานั่งล้อมวงคุยกันเรื่องการเลือก ผู้ว่า กทม.
ผู้ว่าของพวกเขา พวกเขาถามว่าใครจะได้เป็น ผู้ว่า จึงได้วิเคราะห์ให้ฟัง
ดูจากอาการ ของผู้หาเสียง
ความรุกรี้รุกรน ต่างกัน ใครหล่ะรุกรี้รุกรนกว่าเพื่อน
ถึงขนาดหาเสียงไม่ตรงประเด็น
เช่น หากไม่เลือกจะเสียบ้านเสียเมือง
หากไม่เลือกเขา จะเสียปราการด่านสุดท้าย
หากไม่เลือกเขา ทักษิณจะได้นิรโทษกรรม
จะเอาคนเผาบ้านเผาเมืองมาเป็นผู้ว่าหรือ?
นี่คือ คนละประเด็นของการเลือกผู้ว่า กทม.
เพราะประเด็นการเลือกผู้ว่า กทม.คือ "เพื่อให้ได้ตัวแทนคน กทม.ที่มีความรู้ความสามารถ
มาพัฒนา และแก้ไขปัญหาให้คน กทม. " ไม่ใช่เลือกผู้ว่ามาทำศึกสงคราม
ใครรุกรี้รุกรนออกอาการให้เห็น จนขนาดหาเสียงไม่ตรงประเด็น นั่นย่อมแสดงว่า
กำลังเพลี่ยงพล้ำทางยุทธศาสตร์ ยากที่จะชนะ(ซุนวู ว่าไว้ในบทที่ 36)
ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายหนึ่ง เขานิ่ง และลึก
ขนาดจับคนเอาสติ๊กเกอร์ใส่ร้ายเขาได้เขายังยิ้มและบอกไม่เอาเรื่อง
ตั้งหน้าตั้งตาเสนอนโยบาย โดยไม่โจมตีฝ่ายตรงข้ามทั้งที่ฝ่ายตรงข้าม
มีช่องโหว่มากมาย ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่างยังจะตะบี้ตะบันอย่างหน้าด้าน
จะทำต่อไป เขาก็ไม่ไปเยาะเย้ยถากถาง เขากลับเดินหน้าให้กำลังใจ และเสนอนโยบาย
ที่จะเป็นการปิดช่องโหว่เติมเต็มในส่วนที่ ผู้ว่าคนเก่าทำไว้(อย่างไม่สำเร็จ)
เขาคิดโครงการแบบประสานรอบทิศ ก้าวหน้าเพื่อรับประชาคมอาเซียน
มองความปลอดภัยของคน กทม.อย่างเป็นรูปธรรม
ก้าวข้ามอดีตไปไกลกว่าคู่แข่ง อย่างเห็นชัด..นี่แหละคือการหาเสียงแบบสร้างสรรค์
ดูจากความฉลาดของคนกรุงเทพ
เมื่อก่อนเราอาจฟันธงได้เลยว่า หม่อมชนะแน่ เพราะอยู่ ปชป.
วันนี้ไม่ใช่อย่างนั้นเสียแล้ว
วันนี้ คน กทม.ไม่หลงประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาระสำคัญ
ของการเลือก ผู้ว่า กทม. มันคือ อะไร
การเอาทักษิณ มาสร้างกระแสความเกลียดชัง จึงไม่ได้ผล
ไม่ได้ผลแล้วกลับเป็นผลลบเสียด้วย คน กทม.ฉลาดและตาสว่างขึ้นกว่าเก่า
เเต่..ไม่ควร..ไม่ลืมพวกที่เกลียดทักษิณ และรัก ปชป.ยังไงๆก็โยกคลอนจิตใจเขาไม่ได้
ไม่ว่า ปชป.จะพูดอะไรเขาพร้อมจะเชื่อ เขาพร้อมจะหลง แต่...ถามว่าคนลุ่มหลง
งมงายแบบนี้ใน กทม.มีอยู่สักกี่คนหล่ะ?
คนอย่างหลาน ที่เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนมีการศึกษา เป็นคนที่มีความคิด(โยนคำถาม)
จะหลงคารมไปกับเขาไหม?หล่ะว่า ทักษิณ จะครอง จะยึดกรุงเทพ จะเป็นประธานาธิบดี
จะรู้สึกว่าจะเสียบ้านเสียเมือง ..หลานๆซึ่งมีอยู่ 4-5 คนล้วนส่ายหน้า
คนแบบหลานๆของลุงในกรุงเทพ ที่คิดเป็น ลุงว่ามันน่าจะมีมากกว่า คงที่หลงงมงายไม่มีเหตุผล
หรือหลงประเด็น ไปกับการหาเสียงแบบเก่าของพรรคการเมืองเก่าๆ สไตน์เก่าๆที่ไม่สร้างสรรค์
วันนี้ โลกไปไกล คนไทยไปโลด แล้ว ลุงหมีมุ่ยจึงฟันธงว่า คนกทม.ก้าวหน้า มีจำนวนมากกว่า
คนอนุรักษ์นิยมแบบ ปชป. พงศพัศจึงน่าจะชนะเลือกตั้ง "ฟันธง" อย่างน้อยในนี้ก็ห้าเสียงแล้ว
เจ้าหลานชายคนโต บอกว่า"ไม่ใช่ลุง บวกพวกผมอีก 20 ครับ" เห็นมั้ยว่า คน กทม.เขาฉลาดแล้วจริงๆ