ตาดี เลือกได้ผู้ว่าฯ ตาร้าย เลือกได้ทักษิณ ... กวนน้ำให้ใส..สารสัม ...แนวหน้าออนไลน์
ช่วงโค้งสุดท้าย การต่อสู้แย่งชิงคะแนนเสียงในสนามเลือกตั้ง กทม.กำลังเข้มข้น
ทำให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ มีความหมายมากกว่าการเลือกผู้บริหาร
กรุงเทพฯ ธรรมดาโดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้าย คู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันอย่างสูสี
ดูจะเหลือแค่สองคน
1) การพนันปรากฏว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายณัฎฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษก
พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแจ้งเบาะแสว่า ขณะนี้มีการเปิดรับแทงพนันด้วยราคา
ต่อรองที่แปลกประหลาด เช่น ถ้าแทงว่าหมายเลข 9 ชนะ แทงร้อยจะจ่ายสูง
ถึง 500 เป็นต้นทั้งๆ ที่ โพลล์บอกว่าคะแนนนิยมสูสีกับเบอร์ 16 เพราะฉะนั้น
ราคาต่อรองก็ควรจะใกล้เคียงกันแต่การเปิดอัตราพนันเช่นนี้ เท่ากับเป็นการ
จูงใจให้คนแทงเบอร์ 9 แล้วลงคะแนนให้เบอร์ดังกล่าว เพราะตนเองมีผล
ประโยชน์ได้เสียร่วมไปกับชัยชนะนั้น
2) ทักษิณจะยึดอำนาจกรุงเทพฯ เบ็ดเสร็จประเด็น “เผาบ้านเผาเมือง” -
ต่อต้านระบอบทักษิณ” เริ่มกลับมาอยู่ในการพิจารณาของคนกรุงเทพฯ
ซึ่งที่ผ่านมาต้องตกเป็นเหยื่อของการทำสงครามการเมือง-สงครามกลาง
เมืองของระบอบทักษิณแม้ฝ่ายทักษิณพยายามจะตีกรรเชียงหนี โดยอ้าง
ว่า “มุกเก่า” – “คนไม่สนใจแล้ว” ฯลฯ แต่นั่นก็เป็นเพราะเรื่องดังกล่าว
เป็นความจริงที่ทักษิณไม่อยากจะให้คนไทยจดจำ อยากให้ลืม เพื่อว่า
การนิรโทษกรรม ลบล้างความผิดให้ทักษิณและพรรคพวกจะได้ง่ายขึ้น
จะว่าไปแล้ว คนที่เป็นฝ่ายแสดงออกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้
ไม่ใช่แค่เลือกตั้งผู้ว่าฯ ปกติ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการที่ทักษิณจะได้กลับ
ประเทศโดยไม่ต้องรับผิด ได้ลบล้างคดีหรือนิรโทษกรรมทั้งปวงนั้น
ไม่ใช่การใส่ร้ายหรือคิดเองเออเองของใครที่ไหน แต่เป็นเสียงประกาศ
มาจากทักษิณ ชินวัตรเองวันที่ 26 ม.ค.2556 เวลาประมาณ 21.55 น.
ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามาปราศรัยที่สนามหญ้าศาลากลางจังหวัด
หลังเก่า อ.เมืองอุบลราชธานี บนเวทีเวทีรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งได้รับ
การสนับสนุนงบจัดการจากนักการเมืองพรรคเพื่อไทย โดยทักษิณขอให้
คนเสื้อแดงที่มีญาติพี่น้องอยู่ในกรุงเทพฯ ช่วยบอกญาติให้เลือก
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พรรคจะได้ยึดครองกรุงเทพฯ ได้เบ็ดเสร็จ
เพื่อให้ตนเองได้มีโอกาสกลับบ้านด้วยสะท้อนว่า การยึดอำนาจกรุงเทพฯ
เบ็ดเสร็จ ผ่านการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ เป็นบันไดอีกขั้นหนึ่งใน
ยุทธศาสตร์เอาพี่กลับบ้าน หรือเอาทักษิณกลับบ้าน โดยไม่ต้องรับโทษ
ตามคำพิพากษาของศาล และลบล้างหรือนิรโทษกรรมคดีต่างๆ ด้วย
3) ขวัญชัยโมเดล คำถามว่า ทำไมทักษิณต้องการยึดอำนาจกรุงเทพฯ เบ็ดเสร็จ?
คำตอบสะท้อนชัดผ่านถ้อยแถลงของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแดงอุดร
หนึ่งในบริวารผู้รับใช้ทักษิณ ชินวัตร อย่างออกหน้าออกตาที่สุดคนหนึ่ง
นายขวัญชัยได้ “ลากไส้” การแสวงหาผลประโยชน์จากการใช้อำนาจรัฐ ใช้ตำรวจ
ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเครื่องมือในทางการเมืองของตนเอง รวมทั้งการแสวงหา
ผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง ผ่านการบริภาษประธาน นปช. และหมอเหวง
ผู้เป็นสามีของนางธิดา“หมอเหวงไม่ใช่เลือดแท้อยู่แล้ว อย่าให้พูด พวกมึ..นั่นแหละ
จะพัง กูไม่พังหรอก เพราะมีแต่ประโยชน์ ไอ้ตำแหน่งการเมือง 30 ตำแหน่ง รับมา
แจกจ่ายกันยังไม่พออีกหรือ kuไม่เคยสนใจตำแหน่งพวกนั้น ยอมรับว่ามีปัญหากับ
ยัยธิดาคนเดียว คนอื่นไม่รู้พวกจะ

ออกมาทำไม ทั้งไอ้ตู่ ไอ้นิสิตออกมาพูด
แล้วเป็นไง สุดท้ายก็ออกมาขอโทษ จตุพรไปเวที จ.หนองบัวลำภู ไปพูดกับแกนนำ
เสื้อแดงบอกกับพี่ขวัญชัยไม่มีอะไร แค่แหย่กันเล่น อ้าวไอ้ha ไม่ได้ มึ0อายุ 40 กว่า ku
60 กว่าแล้ว มีอะไรทำไมไม่ยกหูหา......อีกอย่าง ขอเตือนในฐานะคนรักกัน คนรอบข้าง
ไอ้ตู่ เชียร์มันจัง ดันมันจังให้เป็นรัฐมนตรี โดยไม่รู้เลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ถูกหมาย
หัวเอาไว้ 2 คน คือจตุพรและ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ห้ามเป็นรัฐมนตรีเด็ดขาด เพราะ
คำปราศรัย ดังนั้น อย่าไปเชียร์กันมากเลย ต่อให้หมดอายุรัฐบาลนี้ก็ไม่มีทางได้เป็น
แล้วไอ้นิสิต (สินธุไพร ผอ.นปช.แดงทั้งแผ่นดิน) พูดได้อย่างไรว่าkuหาประโยชน์
มึ0นั่นแหละ อย่าให้kuพูดบ้าง ไปรับงานรัฐบาลมากี่โครงการแล้ว อำมาตย์เยอะกันเหลือ
เกินนะในเสื้อแดง โอ้โห!”ก่อนหน้านี้ ได้ปรากฏข่าวว่า นายขวัญชัยเคยป่าวประกาศ
ถึงอำนาจและความสำคัญของตนเองที่มีต่อทักษิณ โดย บอกว่า เคยให้การช่วยเหลือ
นายตำรวจทั้งยศผู้กำกับ ผู้การหลายคนในหลายจังหวัดภาคอีสาน ช่วยเซ็นต์รับรอง
ให้บินไปพบดูไบ เพื่อวิ่งเต้นขอย้าย บางจังหวัดจะย้ายผู้ว่าฯ คนดูไบก็จะต้องถามตนเองก่อน
แถมยังได้รับเงินจากข้าราชการตำรวจและปกครองเพื่อนำมาหล่อเลี้ยงขบวนการเสื้อแดง
สะท้อนให้เห็นว่า ในพื้นที่จังหวัดที่ผู้ว่าฯ ได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลน้องสาวของทักษิณนั้น
ระบอบทักษิณสามารถจะยึดครองอำนาจเบ็ดเสร็จ ปล่อยให้บริวารกัดแทะ แสวงหา
ผลประโยชน์ รวมทั้งได้มีการใช้อำนาจรัฐบาลตอบแทนบริวารเป็นตำแหน่ง
และผลประโยชน์ในโครงการของรัฐทั้งหลายอย่างประเจิดประเจ้อขนาดไหน
ยิ่งทำให้คนกรุงเทพฯ คิดหนักว่า หากทักษิณส่งเสาๆไฟฟ้าชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ
กทม.เข้าจริงๆ สภาพการบริหารของกรุงเทพฯ ก็คงไม่ต่างจากจังหวัดอื่นๆ
ที่ระบอบทักษิณตั้งผู้ว่า และมีเหลือบเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์แบบไร้รอยต่อ
กันอย่างไรตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. หรือตำแหน่งบริหารอื่นๆ ก็อาจจะได้เห็น
การปูนบำเหน็จ ตอบแทนเป็นรางวัลแด่คนที่รับใช้ทักษิณ โดยไม่สนใจความ
เหมาะสมหรือความรู้สึกของคนกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับที่นายขวัญชัยแฉว่ามีการใช้
ตำแหน่งตบรางวัลให้กันไม่น้อยกว่า 30 ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ กทม. จะทำหน้าที่ตรง
ไปตรงมาลำบาก เพราะต้องมีนายหลายคน ซึ่งก็คือบรรดาแกนนำเสื้อแดง
ทั้งหลาย ถ้าเป็นไปตาม “ขวัญชัยโมเดล” ก็จะต้องพาเหรดกันเข้าไปแสวงหา
ผลประโยชน์จาก กทม. แทนที่องค์กรปกครองท้องถิ่นอย่าง กทม.จะทำงาน
รับใช้คนกรุงเทพฯ ก็จะต้องทำงานรับใช้ทักษิณ!
4) การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ คนกรุงเทพฯ จึงต้องตัดสินใจอย่างชาญฉลาด
ทันเกมของฝ่ายทักษิณเลือกตั้งผู้ว่าฯ ปี 2552 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 934,602 คะแนนในขณะที่นายยุรนันท์ ภมรมนตรี
พรรคเพื่อไทย 611,669 คะแนน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครอิสระ 334,846 คะแนน
และนายแก้วสรร อติโพธิ 144,779 คะแนนหากคะแนนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์
เกิดถูกแซะกระจายออกไปเลือกผู้ที่มีคะแนนนิยมอันดับ 3 หรือ 4 มากขึ้น
ผู้สมัครของทักษิณก็สามารถจะชนะเลือกตั้งได้ทันที
ในรูปการนี้ สำหรับคนที่ไม่เอาทักษิณอยู่แล้ว การลงคะแนนให้ผู้ที่มีคะแนนนิยม
อันดับที่ 3 หรือ 4 ก็เสมือนช่วยให้ฝ่ายทักษิณประสบความสำเร็จในทางอ้อม
ยังไม่ต้องเอ่ยถึงกลวิธีต่างๆ ที่อิงแอบอำนาจรัฐบาล ทยอยถูกงัดออกมาใช้
ทั้งเงินกองทุนประชานิยมชุมชนเมือง ทั้งนโยบายประชานิยมที่อาศัยอำนาจ
รัฐบาลช่วยหาเสียง ทั้งอิทธิพลอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐและสื่อในเครือข่าย
ทักษิณ ฯลฯ ซึ่งอาจจะช่วยเพิ่มคะแนนให้กับคนของทักษิณ
เพราะฉะนั้น เลือกตั้งครั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้... คนกรุงเทพฯ ถ้าตาดีได้ผู้ว่าฯ
แต่ถ้าตาร้าย เกิดตัดสินใจผิด แม้จะเลือกคนที่ตนเองชอบก็ตาม ก็อาจจะได้
(kika)ทักษิณมาแทน จะเป็นการช่วยเอากรุงเทพฯ เข้าไปเป็นบันไดอีกขั้นหนึ่ง
รองตีนให้ทักษิณยึดประเทศไทยแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริง
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/5536
หึ หึ...no comment นะคะ เพื่อนๆตัดสินใจเอง...
อ้อ คุณร้อนหนาว จะว่าไง ... บอก no comment แบบนี้
โค้งสุดท้าย ...ต้องอ่าน "แนวหน้า" เปิดกะโหลก "เสื้อแดง" อย่างมงาย
ช่วงโค้งสุดท้าย การต่อสู้แย่งชิงคะแนนเสียงในสนามเลือกตั้ง กทม.กำลังเข้มข้น
ทำให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ มีความหมายมากกว่าการเลือกผู้บริหาร
กรุงเทพฯ ธรรมดาโดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้าย คู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันอย่างสูสี
ดูจะเหลือแค่สองคน
1) การพนันปรากฏว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายณัฎฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษก
พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแจ้งเบาะแสว่า ขณะนี้มีการเปิดรับแทงพนันด้วยราคา
ต่อรองที่แปลกประหลาด เช่น ถ้าแทงว่าหมายเลข 9 ชนะ แทงร้อยจะจ่ายสูง
ถึง 500 เป็นต้นทั้งๆ ที่ โพลล์บอกว่าคะแนนนิยมสูสีกับเบอร์ 16 เพราะฉะนั้น
ราคาต่อรองก็ควรจะใกล้เคียงกันแต่การเปิดอัตราพนันเช่นนี้ เท่ากับเป็นการ
จูงใจให้คนแทงเบอร์ 9 แล้วลงคะแนนให้เบอร์ดังกล่าว เพราะตนเองมีผล
ประโยชน์ได้เสียร่วมไปกับชัยชนะนั้น
2) ทักษิณจะยึดอำนาจกรุงเทพฯ เบ็ดเสร็จประเด็น “เผาบ้านเผาเมือง” -
ต่อต้านระบอบทักษิณ” เริ่มกลับมาอยู่ในการพิจารณาของคนกรุงเทพฯ
ซึ่งที่ผ่านมาต้องตกเป็นเหยื่อของการทำสงครามการเมือง-สงครามกลาง
เมืองของระบอบทักษิณแม้ฝ่ายทักษิณพยายามจะตีกรรเชียงหนี โดยอ้าง
ว่า “มุกเก่า” – “คนไม่สนใจแล้ว” ฯลฯ แต่นั่นก็เป็นเพราะเรื่องดังกล่าว
เป็นความจริงที่ทักษิณไม่อยากจะให้คนไทยจดจำ อยากให้ลืม เพื่อว่า
การนิรโทษกรรม ลบล้างความผิดให้ทักษิณและพรรคพวกจะได้ง่ายขึ้น
จะว่าไปแล้ว คนที่เป็นฝ่ายแสดงออกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้
ไม่ใช่แค่เลือกตั้งผู้ว่าฯ ปกติ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการที่ทักษิณจะได้กลับ
ประเทศโดยไม่ต้องรับผิด ได้ลบล้างคดีหรือนิรโทษกรรมทั้งปวงนั้น
ไม่ใช่การใส่ร้ายหรือคิดเองเออเองของใครที่ไหน แต่เป็นเสียงประกาศ
มาจากทักษิณ ชินวัตรเองวันที่ 26 ม.ค.2556 เวลาประมาณ 21.55 น.
ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามาปราศรัยที่สนามหญ้าศาลากลางจังหวัด
หลังเก่า อ.เมืองอุบลราชธานี บนเวทีเวทีรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งได้รับ
การสนับสนุนงบจัดการจากนักการเมืองพรรคเพื่อไทย โดยทักษิณขอให้
คนเสื้อแดงที่มีญาติพี่น้องอยู่ในกรุงเทพฯ ช่วยบอกญาติให้เลือก
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พรรคจะได้ยึดครองกรุงเทพฯ ได้เบ็ดเสร็จ
เพื่อให้ตนเองได้มีโอกาสกลับบ้านด้วยสะท้อนว่า การยึดอำนาจกรุงเทพฯ
เบ็ดเสร็จ ผ่านการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ เป็นบันไดอีกขั้นหนึ่งใน
ยุทธศาสตร์เอาพี่กลับบ้าน หรือเอาทักษิณกลับบ้าน โดยไม่ต้องรับโทษ
ตามคำพิพากษาของศาล และลบล้างหรือนิรโทษกรรมคดีต่างๆ ด้วย
3) ขวัญชัยโมเดล คำถามว่า ทำไมทักษิณต้องการยึดอำนาจกรุงเทพฯ เบ็ดเสร็จ?
คำตอบสะท้อนชัดผ่านถ้อยแถลงของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแดงอุดร
หนึ่งในบริวารผู้รับใช้ทักษิณ ชินวัตร อย่างออกหน้าออกตาที่สุดคนหนึ่ง
นายขวัญชัยได้ “ลากไส้” การแสวงหาผลประโยชน์จากการใช้อำนาจรัฐ ใช้ตำรวจ
ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเครื่องมือในทางการเมืองของตนเอง รวมทั้งการแสวงหา
ผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง ผ่านการบริภาษประธาน นปช. และหมอเหวง
ผู้เป็นสามีของนางธิดา“หมอเหวงไม่ใช่เลือดแท้อยู่แล้ว อย่าให้พูด พวกมึ..นั่นแหละ
จะพัง กูไม่พังหรอก เพราะมีแต่ประโยชน์ ไอ้ตำแหน่งการเมือง 30 ตำแหน่ง รับมา
แจกจ่ายกันยังไม่พออีกหรือ kuไม่เคยสนใจตำแหน่งพวกนั้น ยอมรับว่ามีปัญหากับ
ยัยธิดาคนเดียว คนอื่นไม่รู้พวกจะ
แล้วเป็นไง สุดท้ายก็ออกมาขอโทษ จตุพรไปเวที จ.หนองบัวลำภู ไปพูดกับแกนนำ
เสื้อแดงบอกกับพี่ขวัญชัยไม่มีอะไร แค่แหย่กันเล่น อ้าวไอ้ha ไม่ได้ มึ0อายุ 40 กว่า ku
60 กว่าแล้ว มีอะไรทำไมไม่ยกหูหา......อีกอย่าง ขอเตือนในฐานะคนรักกัน คนรอบข้าง
ไอ้ตู่ เชียร์มันจัง ดันมันจังให้เป็นรัฐมนตรี โดยไม่รู้เลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ถูกหมาย
หัวเอาไว้ 2 คน คือจตุพรและ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ห้ามเป็นรัฐมนตรีเด็ดขาด เพราะ
คำปราศรัย ดังนั้น อย่าไปเชียร์กันมากเลย ต่อให้หมดอายุรัฐบาลนี้ก็ไม่มีทางได้เป็น
แล้วไอ้นิสิต (สินธุไพร ผอ.นปช.แดงทั้งแผ่นดิน) พูดได้อย่างไรว่าkuหาประโยชน์
มึ0นั่นแหละ อย่าให้kuพูดบ้าง ไปรับงานรัฐบาลมากี่โครงการแล้ว อำมาตย์เยอะกันเหลือ
เกินนะในเสื้อแดง โอ้โห!”ก่อนหน้านี้ ได้ปรากฏข่าวว่า นายขวัญชัยเคยป่าวประกาศ
ถึงอำนาจและความสำคัญของตนเองที่มีต่อทักษิณ โดย บอกว่า เคยให้การช่วยเหลือ
นายตำรวจทั้งยศผู้กำกับ ผู้การหลายคนในหลายจังหวัดภาคอีสาน ช่วยเซ็นต์รับรอง
ให้บินไปพบดูไบ เพื่อวิ่งเต้นขอย้าย บางจังหวัดจะย้ายผู้ว่าฯ คนดูไบก็จะต้องถามตนเองก่อน
แถมยังได้รับเงินจากข้าราชการตำรวจและปกครองเพื่อนำมาหล่อเลี้ยงขบวนการเสื้อแดง
สะท้อนให้เห็นว่า ในพื้นที่จังหวัดที่ผู้ว่าฯ ได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลน้องสาวของทักษิณนั้น
ระบอบทักษิณสามารถจะยึดครองอำนาจเบ็ดเสร็จ ปล่อยให้บริวารกัดแทะ แสวงหา
ผลประโยชน์ รวมทั้งได้มีการใช้อำนาจรัฐบาลตอบแทนบริวารเป็นตำแหน่ง
และผลประโยชน์ในโครงการของรัฐทั้งหลายอย่างประเจิดประเจ้อขนาดไหน
ยิ่งทำให้คนกรุงเทพฯ คิดหนักว่า หากทักษิณส่งเสาๆไฟฟ้าชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ
กทม.เข้าจริงๆ สภาพการบริหารของกรุงเทพฯ ก็คงไม่ต่างจากจังหวัดอื่นๆ
ที่ระบอบทักษิณตั้งผู้ว่า และมีเหลือบเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์แบบไร้รอยต่อ
กันอย่างไรตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. หรือตำแหน่งบริหารอื่นๆ ก็อาจจะได้เห็น
การปูนบำเหน็จ ตอบแทนเป็นรางวัลแด่คนที่รับใช้ทักษิณ โดยไม่สนใจความ
เหมาะสมหรือความรู้สึกของคนกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับที่นายขวัญชัยแฉว่ามีการใช้
ตำแหน่งตบรางวัลให้กันไม่น้อยกว่า 30 ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ กทม. จะทำหน้าที่ตรง
ไปตรงมาลำบาก เพราะต้องมีนายหลายคน ซึ่งก็คือบรรดาแกนนำเสื้อแดง
ทั้งหลาย ถ้าเป็นไปตาม “ขวัญชัยโมเดล” ก็จะต้องพาเหรดกันเข้าไปแสวงหา
ผลประโยชน์จาก กทม. แทนที่องค์กรปกครองท้องถิ่นอย่าง กทม.จะทำงาน
รับใช้คนกรุงเทพฯ ก็จะต้องทำงานรับใช้ทักษิณ!
4) การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ คนกรุงเทพฯ จึงต้องตัดสินใจอย่างชาญฉลาด
ทันเกมของฝ่ายทักษิณเลือกตั้งผู้ว่าฯ ปี 2552 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 934,602 คะแนนในขณะที่นายยุรนันท์ ภมรมนตรี
พรรคเพื่อไทย 611,669 คะแนน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครอิสระ 334,846 คะแนน
และนายแก้วสรร อติโพธิ 144,779 คะแนนหากคะแนนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์
เกิดถูกแซะกระจายออกไปเลือกผู้ที่มีคะแนนนิยมอันดับ 3 หรือ 4 มากขึ้น
ผู้สมัครของทักษิณก็สามารถจะชนะเลือกตั้งได้ทันที
ในรูปการนี้ สำหรับคนที่ไม่เอาทักษิณอยู่แล้ว การลงคะแนนให้ผู้ที่มีคะแนนนิยม
อันดับที่ 3 หรือ 4 ก็เสมือนช่วยให้ฝ่ายทักษิณประสบความสำเร็จในทางอ้อม
ยังไม่ต้องเอ่ยถึงกลวิธีต่างๆ ที่อิงแอบอำนาจรัฐบาล ทยอยถูกงัดออกมาใช้
ทั้งเงินกองทุนประชานิยมชุมชนเมือง ทั้งนโยบายประชานิยมที่อาศัยอำนาจ
รัฐบาลช่วยหาเสียง ทั้งอิทธิพลอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐและสื่อในเครือข่าย
ทักษิณ ฯลฯ ซึ่งอาจจะช่วยเพิ่มคะแนนให้กับคนของทักษิณ
เพราะฉะนั้น เลือกตั้งครั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้... คนกรุงเทพฯ ถ้าตาดีได้ผู้ว่าฯ
แต่ถ้าตาร้าย เกิดตัดสินใจผิด แม้จะเลือกคนที่ตนเองชอบก็ตาม ก็อาจจะได้
(kika)ทักษิณมาแทน จะเป็นการช่วยเอากรุงเทพฯ เข้าไปเป็นบันไดอีกขั้นหนึ่ง
รองตีนให้ทักษิณยึดประเทศไทยแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริง
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/5536
หึ หึ...no comment นะคะ เพื่อนๆตัดสินใจเอง...
อ้อ คุณร้อนหนาว จะว่าไง ... บอก no comment แบบนี้