ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ
เรื่องเริ่มต้นที่ เมื่อปี 50 ดิฉันรับราชการ น้องสาวของยายจะซื้อรถให้ลูกชาย แต่บริษัทต้องมีคนค้ำเป็นข้าราชการ 1 และคนค้ำอีก 1 คน
แล้วเขาก็มาขอร้องให้เรากะแม่ค้ำประกันให้ เพราะเขาหาคนค้ำไม่ได้ เราไม่อยากค้ำ แต่อยู่ในภาวะน้ำท่วมปาก บอกจะออกรถมาขายของตาม
ตลาดนัด สรุปเรากะแม่เราไปค้ำให้ แล้วเราก็ลาออกไปอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้รับรู้เรื่องอะไร รู้แต่ว่ารถโดนยึด แม่เราบอก ปีที่แล้วเรากลับมาจาก
ต่างประเทศ มาอยู่ไทยเลย แล้ววันที่ 20 ก.พ 56 ก็มีจดหมายจากทางบริษัทไฟแนนท์ส่งมาให้เราไปจ่ายค่าส่วนต่างจากการขายทอดตลาดรถที่
โดนยึดไป เป็นเงิน 340,000 บาท โอ้แม่เจ้า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอซะแล้ว
อยากถามเพื่อนๆว่าเราต้องทำอย่างไรดีค่ะ กลัวว่าเขาจะมาฟ้องร้องยึดบ้าน หรือทรัพย์สินของเราค่ะ
เราให้แม่ไปถามญาติคนนั้นเขาบอกไม่มีเงินจ่าย แล้วเขาเองก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ลูกชายก็เป็นบ้า คือเสพยาบ้า จนบ้า แกต้องเลี้ยงลูกชาย
เป็นบ้า ทั้งๆแก่แล้ว เงินก็ไม่มีบ้านก็ไม่มี แกบอกกูไม่มี กูไม่หนี แต่กูไม่จ่าย แล้วที่นี้ บริษัทคงจะมาไล่บี้กับ เรา เราต้องทำยังไงดีค่ะ คือ ตั้งแต่
เขาซื้อรถ ดิฉันก็ไม่เคยเห็นรถ ไม่เคยได้นั่งไม่ได้อะไรด้วยเลย เอกสารเขาก็เอามาให้เซ็นต์ที่สำนักงาน คือเราไม่อยากค้ำ ไม่ยอมไปค้ำให้ เขา
ก็เอาเอกสารมาให้ค้ำถึงที่ เลย
คำถามก็คือ ดิฉันควรทำยังไงต่อไปดีค่ะ ดิฉันไม่อยากจ่ายหนีที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แล้วตัวเองก็ยังมีหนีกองทุนยืมเรียนอีก 8 แสน ยังต้องผ่อนรถ
อีก แต่มีที่ดินมีบ้านเป็นของตัวเอง กลัวว่าถ้าเราเพิกเฉยไม่ทำอะไรกลัวเขาจะฟ้องเอาทรัพย์ที่เรามีค่ะ ขอคำแนะนำจากพี่ๆเพื่อนๆห้องนี้ด้วยค่ะ
นี่คือความร้อนใจ ลำบากใจ และทุกข์ใจ ของคนค้ำประกันค่ะ แถมคนค้ำ 2 คนก็คือดิฉันกับแม่ คนซื้อดันนิ่งเฉย ไม่รับผิดชอบ
แนะนำทีค่ะ ขอบคุณม๊าก มากค่ะ รู้ว่าเพื่อนห้องนี้ใจดีทุกคนค่ะ
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ เป็นคนค้ำประกันรถให้ญาติ แล้วโดนเรียกให้จ่ายส่วนต่างทำยังไงดีค่ะ
เรื่องเริ่มต้นที่ เมื่อปี 50 ดิฉันรับราชการ น้องสาวของยายจะซื้อรถให้ลูกชาย แต่บริษัทต้องมีคนค้ำเป็นข้าราชการ 1 และคนค้ำอีก 1 คน
แล้วเขาก็มาขอร้องให้เรากะแม่ค้ำประกันให้ เพราะเขาหาคนค้ำไม่ได้ เราไม่อยากค้ำ แต่อยู่ในภาวะน้ำท่วมปาก บอกจะออกรถมาขายของตาม
ตลาดนัด สรุปเรากะแม่เราไปค้ำให้ แล้วเราก็ลาออกไปอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้รับรู้เรื่องอะไร รู้แต่ว่ารถโดนยึด แม่เราบอก ปีที่แล้วเรากลับมาจาก
ต่างประเทศ มาอยู่ไทยเลย แล้ววันที่ 20 ก.พ 56 ก็มีจดหมายจากทางบริษัทไฟแนนท์ส่งมาให้เราไปจ่ายค่าส่วนต่างจากการขายทอดตลาดรถที่
โดนยึดไป เป็นเงิน 340,000 บาท โอ้แม่เจ้า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอซะแล้ว
อยากถามเพื่อนๆว่าเราต้องทำอย่างไรดีค่ะ กลัวว่าเขาจะมาฟ้องร้องยึดบ้าน หรือทรัพย์สินของเราค่ะ
เราให้แม่ไปถามญาติคนนั้นเขาบอกไม่มีเงินจ่าย แล้วเขาเองก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ลูกชายก็เป็นบ้า คือเสพยาบ้า จนบ้า แกต้องเลี้ยงลูกชาย
เป็นบ้า ทั้งๆแก่แล้ว เงินก็ไม่มีบ้านก็ไม่มี แกบอกกูไม่มี กูไม่หนี แต่กูไม่จ่าย แล้วที่นี้ บริษัทคงจะมาไล่บี้กับ เรา เราต้องทำยังไงดีค่ะ คือ ตั้งแต่
เขาซื้อรถ ดิฉันก็ไม่เคยเห็นรถ ไม่เคยได้นั่งไม่ได้อะไรด้วยเลย เอกสารเขาก็เอามาให้เซ็นต์ที่สำนักงาน คือเราไม่อยากค้ำ ไม่ยอมไปค้ำให้ เขา
ก็เอาเอกสารมาให้ค้ำถึงที่ เลย
คำถามก็คือ ดิฉันควรทำยังไงต่อไปดีค่ะ ดิฉันไม่อยากจ่ายหนีที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แล้วตัวเองก็ยังมีหนีกองทุนยืมเรียนอีก 8 แสน ยังต้องผ่อนรถ
อีก แต่มีที่ดินมีบ้านเป็นของตัวเอง กลัวว่าถ้าเราเพิกเฉยไม่ทำอะไรกลัวเขาจะฟ้องเอาทรัพย์ที่เรามีค่ะ ขอคำแนะนำจากพี่ๆเพื่อนๆห้องนี้ด้วยค่ะ
นี่คือความร้อนใจ ลำบากใจ และทุกข์ใจ ของคนค้ำประกันค่ะ แถมคนค้ำ 2 คนก็คือดิฉันกับแม่ คนซื้อดันนิ่งเฉย ไม่รับผิดชอบ
แนะนำทีค่ะ ขอบคุณม๊าก มากค่ะ รู้ว่าเพื่อนห้องนี้ใจดีทุกคนค่ะ