เป็นคำถามที่เคยถามผมในช่วงที่พันธมิตรฯกำลังชุมนุมขับไล่คุณทักษิณ พี่สาวผมก็เป็นคนหนึ่ง แม้จะไม่เคยใส่ใจเรื่องการเมือง แต่เพราะแถวบ้านมีคนรู้จักที่ค่อนข้างกว้างขวางเกลียดชังคุณทักษิณ เป็นพวกที่คิดว่ารู้ลึกกว่าคนอื่น รู้ทันคุณทักษิณมากกว่าคนอื่น ได้จัดรถขนคนไปร่วมชุมนุมด้วย ดังนั้นพี่สาวผมพลอยติดร่างแหไปด้วย แม้จะไม่ได้ไปเป็นประจำ แต่ก็ได้ข้อมูลเชิงลึกมามากมาย ดังนั้นคำถามนี้จึงได้เกิดขึ้น ทำไมเอ็งยังฝักใฝ่อยู่กับทักษิณ
เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันขายประเทศ
เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันโกงบ้านโกงเมือง
เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันไม่ยอมเสียภาษี ซึ่งแม้แต่แม่ค้ายังต้องเสียภาษีเลย
และเอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณจะทำให้ประเทศล่มจม
ผมก็เลยตอบพี่สาวไปว่า เรื่องขายประเทศจริงหรือเปล่าตอนนี้ (หมายถึงตอนนั้น) ผมไม่รู้
ผมก็เลยตอบพี่สาวไปว่า สำหรับเรื่องโกง ผมจะพูดอย่างไรพี่ก็คงไม่เชื่อผม
สำหรับเรื่องทำให้ประเทศล่มจม มันพิสูจน์ยาก เพราะเป็นเรื่องของอนาคต
แต่สำหรับเรื่องไม่เสียภาษี ผมพอจะตอบได้ ในตลาดหุ้นเขายกเว้นให้ ถ้าขายหุ้นในตลาด เพราะต้องการจูงใจนักลงทุน แต่สำหรับเรื่องแม่ค้ายังต้องเสียภาษีนั้น พี่น่าจะรู้ว่ามันจริงหรือเปล่า พี่เองก็ขายก๋วยเตี๋ยวมากี่สิบปี เคยเสียภาษีไปเท่าไหร่ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว พี่ก็พอจะรู้หรือยังว่า ข้อมูลเชิงลึกของพี่มันเป็นข้อมูลเท็จหรือไม่ พี่สาวผมอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วก็หัวเราะหึหึ ท่าจะจริงของเอ็ง
ผมได้ทีผมตอกซ้ำเข้าไปอีก แล้วพี่ลองคิดดูสิว่า ช่วงที่ผ่านมาตอนที่คุณทักษิณบริหาร
พี่รู้สึกว่าลำบากหรือดีขึ้นกว่าเดิมระหว่างรัฐบาลทักษิณกับรัฐบาลที่ผ่านมา
พี่เคยเห็นรัฐบาลไหนที่ผ่านมา ไม่เคยมีข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น
พี่ไม่แปลกใจหรือที่รัฐบาลที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง แต่กลับเป็นรัฐบาลแรกที่อยู่ครบสี่ปี
แล้วถ้ารัฐบาลทักษิณบริหารงานล้มเหลว ทำไมกลับได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากกว่าเดิม
เรื่องอย่างนี้พี่ไม่จำเป็นต้องไปหาข้อมูลจากแหล่งไหนทั้งสิ้น ลองใช้สติแล้วคิดตามสภาพความเป็นจริงก็พอ
หลานชายผมซึ่งก็คือลูกชายของพี่สาว ทำงานแบงก์ แบงก์ไหนก็ช่างเหอะ แต่อยู่แถวสีลม ก็สอดขึ้นว่า กู๋ไม่รู้อะไร ที่ได้เพราะประชานิยมล้วนๆ หลอกได้แต่คนรากหญ้า เดี๋ยวอีกหน่อยเหอะ ประเทศล่มจมแล้วกู๋จะรู้สึก
ผมก็เลยตอบเขาไปว่า กู๋คงไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ เพราะไม่คิดว่าประเทศจะล่มจมอย่างที่เขากล่าวหา
แต่ประชานิยมอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค กู๋สนับสนุนนะ เพราะเป็นการช่วยเรื่องปัญหาสุขภาพของคนจนๆให้มีโอกาสเท่าเทียมกัน
แต่ประชานิยมอย่างกองทุนหมู่บ้าน กู๋ก็สนับสนุนนะ เพราะเป็นการสร้างโอกาสให้คนในหมู่บ้านได้เข้าถึงแหล่งทุนโดยง่าย
แต่ประชานิยมอย่างธนาคารประชาชน ก็เป็นการช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยกู้เงินเพื่อไปสร้างรายได้ให้กับตัวเอง
แต่ประชานิยมอย่างหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ก็เป็นการส่งเสริมการสร้างงานให้กับผู้ตกงานและเสริมรายได้ให้กับเหล่าเกษตรกร ทั้งยังเป็นการส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะ ซึ่งความจริงผลงานของคุณทักษิณมีมากกว่านี้มากมาย จนกู๋ไม่สามารถบรรยายได้หมดในช่วงเวลาของการสนทนาได้หรอก
หลานชายผมยังคงทำสีหน้าไม่เชื่อถือ แต่สำหรับพี่สาวผมเริ่มคล้อยตาม เออ จริงของเอ็งว่ะเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะเพื่อนเขาคนหนึ่งต้องผ่าตัดหัวใจด้วยเงินเพียง 30 บาท ถ้าไม่มีโครงการนี้มันคงตายแหงแก๋แน่เลย ส่วนอีกคนผ่าตัดไส้ติ่งก็ 30 บาท
แล้วพี่รู้หรือเปล่าว่า โครงการนี้น่ะ พรรคที่พี่กับครอบครัวเลือกเขาเอาไปติดไว้ตามขั้นบันไดพรรค เดินขึ้นเดินลงก็เหยียบย่ำตลอด แล้วบอกว่า เป็นโครงการ 30 บาทตายทุกโรคเลยนะ
สำหรับเรื่องนี้ผมพลาดไปถนัด พี่สาวผมเถียงคอเป็นเอ็น เอ็งอย่าไปใส่ร้ายเขาเลยหน่ะ มันจะเป็นไปได้อย่างไร พรรคนี้ออกจะเก่าแก่ ทุกคนเป็นคนดี ทำงานเพื่อประชาชนล้วนๆ จะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร ผมก็เลยต้องหุบปาก เพราะขืนพูดต่ออาจกลายเป็นวิวาทไปเสียก็ได้ เสียดายตอนนั้นผมยังไม่เก่งเรื่องอินเตอร์เนทสักเท่าไหร่ เลยไม่มีหลักฐานไปยืนยัน
แต่หลังจากคุยกันวันนั้น ก็เป็นผลให้พี่สาวผมกับครอบครัวเลิกจงเกลียดจงชังคุณทักษิณเหมือนแต่ก่อน เว้นแต่เจ้าหลานชายตัวแสบ จนกระทั่งเจ้าหลานชายได้มีโอกาสไปเรียนต่อยังต่างประเทศ มุมมองเริ่มเปลี่ยนไป พี่สาวผมก็มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อยขึ้น
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ เมื่อมีการรวมญาติกันอีกครั้งหนึ่ง คุยกันสัพเพเหระ คุยไปคุยมา ก็มาคุยกันถึงเรื่องการเดินทาง พี่สาวผมก็เลยพูดขึ้นเองว่า เออ ถ้าทักษิณไม่สร้างสนามบินสุวรรณภูมิในตอนนั้น ไม่รู้ว่า เราจะมีสนามบินรองรับนักท่องเที่ยวมากมายขนาดนี้ได้อย่างไรเนาะ
ผมได้ทีขี่แพะไล่ทันที นี่แหละเขาเรียกว่า วิสัยทัศน์ล่ะ มองเห็นการณ์ไกลไง ถ้าอยากได้นักท่องเที่ยวเพิ่ม มันต้องมีสนามบินรองรับ ไม่งั้นใครเขาจะมาเที่ยว ตอนนี้ขนาดใช้สนามบินดอนเมืองอีกสนาม ยังทำท่าจะไม่เพียงพอแล้วนะรู้ไหม เห็นหรือยังว่า ผู้นำเก่งทำงานกับผู้นำเก่งการพูด มันแตกต่างกันยังไง
แล้วพี่ยังจำที่เคยถามผมหรือเปล่าเรื่อง คุณทักษิณขายชาติหรือทำให้ประเทศล่มจม ตอนนี้ได้คำตอบแล้วหรือยังล่ะว่า ใครกันแน่ที่จะทำให้ประเทศล่มจม ยังจะเชื่อหรือเปล่าเรื่องเลือกตั้งผู้ว่าฯจะเป็นการยึดครองประเทศของทักษิณ การเสียเมืองหลวงจะเป็นการเสียประเทศไทยเหอ พี่สาวผมบอกว่า รู้แล้วน่ะ
ถ้ารู้แล้ว วันที่ 3 พี่จะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯหรือ
พี่สาวผมบอก “พวกอั๊วเลือกยิ่งลักษณ์กันทั้งบ้านแล้วเฟ้ย”
ผมหันไปสบตากับเจ้าหลานชายตัวดี ยังไม่ทันได้ถาม เขารีบตอบ “เบอร์ 9 ครับกู๋ แถมให้อีกหนึ่งเสียงด้วย” แล้วหันไปเหล่ที่ภรรเมียด้วยความหวาดระแวง
ผมเลยหันไปมองที่หลานสะใภ้ หลานสะใภ้ก็เลยพูดขึ้นว่า “ถ้าไม่เบอร์ 9 ก็ไม่ต้องเข้าห้องนะ บอกก่อน”
ผมเลยไม่รู้ว่า ตกลงแล้วหลานชายผมเขาตาสว่างแล้วหรือกลัวคำขู่จากเบื้องบนกันแน่ งงอ่ะ
พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ
เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันขายประเทศ
เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันโกงบ้านโกงเมือง
เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันไม่ยอมเสียภาษี ซึ่งแม้แต่แม่ค้ายังต้องเสียภาษีเลย
และเอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณจะทำให้ประเทศล่มจม
ผมก็เลยตอบพี่สาวไปว่า เรื่องขายประเทศจริงหรือเปล่าตอนนี้ (หมายถึงตอนนั้น) ผมไม่รู้
ผมก็เลยตอบพี่สาวไปว่า สำหรับเรื่องโกง ผมจะพูดอย่างไรพี่ก็คงไม่เชื่อผม
สำหรับเรื่องทำให้ประเทศล่มจม มันพิสูจน์ยาก เพราะเป็นเรื่องของอนาคต
แต่สำหรับเรื่องไม่เสียภาษี ผมพอจะตอบได้ ในตลาดหุ้นเขายกเว้นให้ ถ้าขายหุ้นในตลาด เพราะต้องการจูงใจนักลงทุน แต่สำหรับเรื่องแม่ค้ายังต้องเสียภาษีนั้น พี่น่าจะรู้ว่ามันจริงหรือเปล่า พี่เองก็ขายก๋วยเตี๋ยวมากี่สิบปี เคยเสียภาษีไปเท่าไหร่ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว พี่ก็พอจะรู้หรือยังว่า ข้อมูลเชิงลึกของพี่มันเป็นข้อมูลเท็จหรือไม่ พี่สาวผมอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วก็หัวเราะหึหึ ท่าจะจริงของเอ็ง
ผมได้ทีผมตอกซ้ำเข้าไปอีก แล้วพี่ลองคิดดูสิว่า ช่วงที่ผ่านมาตอนที่คุณทักษิณบริหาร
พี่รู้สึกว่าลำบากหรือดีขึ้นกว่าเดิมระหว่างรัฐบาลทักษิณกับรัฐบาลที่ผ่านมา
พี่เคยเห็นรัฐบาลไหนที่ผ่านมา ไม่เคยมีข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น
พี่ไม่แปลกใจหรือที่รัฐบาลที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง แต่กลับเป็นรัฐบาลแรกที่อยู่ครบสี่ปี
แล้วถ้ารัฐบาลทักษิณบริหารงานล้มเหลว ทำไมกลับได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากกว่าเดิม
เรื่องอย่างนี้พี่ไม่จำเป็นต้องไปหาข้อมูลจากแหล่งไหนทั้งสิ้น ลองใช้สติแล้วคิดตามสภาพความเป็นจริงก็พอ
หลานชายผมซึ่งก็คือลูกชายของพี่สาว ทำงานแบงก์ แบงก์ไหนก็ช่างเหอะ แต่อยู่แถวสีลม ก็สอดขึ้นว่า กู๋ไม่รู้อะไร ที่ได้เพราะประชานิยมล้วนๆ หลอกได้แต่คนรากหญ้า เดี๋ยวอีกหน่อยเหอะ ประเทศล่มจมแล้วกู๋จะรู้สึก
ผมก็เลยตอบเขาไปว่า กู๋คงไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ เพราะไม่คิดว่าประเทศจะล่มจมอย่างที่เขากล่าวหา
แต่ประชานิยมอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค กู๋สนับสนุนนะ เพราะเป็นการช่วยเรื่องปัญหาสุขภาพของคนจนๆให้มีโอกาสเท่าเทียมกัน
แต่ประชานิยมอย่างกองทุนหมู่บ้าน กู๋ก็สนับสนุนนะ เพราะเป็นการสร้างโอกาสให้คนในหมู่บ้านได้เข้าถึงแหล่งทุนโดยง่าย
แต่ประชานิยมอย่างธนาคารประชาชน ก็เป็นการช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยกู้เงินเพื่อไปสร้างรายได้ให้กับตัวเอง
แต่ประชานิยมอย่างหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ก็เป็นการส่งเสริมการสร้างงานให้กับผู้ตกงานและเสริมรายได้ให้กับเหล่าเกษตรกร ทั้งยังเป็นการส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะ ซึ่งความจริงผลงานของคุณทักษิณมีมากกว่านี้มากมาย จนกู๋ไม่สามารถบรรยายได้หมดในช่วงเวลาของการสนทนาได้หรอก
หลานชายผมยังคงทำสีหน้าไม่เชื่อถือ แต่สำหรับพี่สาวผมเริ่มคล้อยตาม เออ จริงของเอ็งว่ะเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะเพื่อนเขาคนหนึ่งต้องผ่าตัดหัวใจด้วยเงินเพียง 30 บาท ถ้าไม่มีโครงการนี้มันคงตายแหงแก๋แน่เลย ส่วนอีกคนผ่าตัดไส้ติ่งก็ 30 บาท
แล้วพี่รู้หรือเปล่าว่า โครงการนี้น่ะ พรรคที่พี่กับครอบครัวเลือกเขาเอาไปติดไว้ตามขั้นบันไดพรรค เดินขึ้นเดินลงก็เหยียบย่ำตลอด แล้วบอกว่า เป็นโครงการ 30 บาทตายทุกโรคเลยนะ
สำหรับเรื่องนี้ผมพลาดไปถนัด พี่สาวผมเถียงคอเป็นเอ็น เอ็งอย่าไปใส่ร้ายเขาเลยหน่ะ มันจะเป็นไปได้อย่างไร พรรคนี้ออกจะเก่าแก่ ทุกคนเป็นคนดี ทำงานเพื่อประชาชนล้วนๆ จะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร ผมก็เลยต้องหุบปาก เพราะขืนพูดต่ออาจกลายเป็นวิวาทไปเสียก็ได้ เสียดายตอนนั้นผมยังไม่เก่งเรื่องอินเตอร์เนทสักเท่าไหร่ เลยไม่มีหลักฐานไปยืนยัน
แต่หลังจากคุยกันวันนั้น ก็เป็นผลให้พี่สาวผมกับครอบครัวเลิกจงเกลียดจงชังคุณทักษิณเหมือนแต่ก่อน เว้นแต่เจ้าหลานชายตัวแสบ จนกระทั่งเจ้าหลานชายได้มีโอกาสไปเรียนต่อยังต่างประเทศ มุมมองเริ่มเปลี่ยนไป พี่สาวผมก็มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อยขึ้น
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ เมื่อมีการรวมญาติกันอีกครั้งหนึ่ง คุยกันสัพเพเหระ คุยไปคุยมา ก็มาคุยกันถึงเรื่องการเดินทาง พี่สาวผมก็เลยพูดขึ้นเองว่า เออ ถ้าทักษิณไม่สร้างสนามบินสุวรรณภูมิในตอนนั้น ไม่รู้ว่า เราจะมีสนามบินรองรับนักท่องเที่ยวมากมายขนาดนี้ได้อย่างไรเนาะ
ผมได้ทีขี่แพะไล่ทันที นี่แหละเขาเรียกว่า วิสัยทัศน์ล่ะ มองเห็นการณ์ไกลไง ถ้าอยากได้นักท่องเที่ยวเพิ่ม มันต้องมีสนามบินรองรับ ไม่งั้นใครเขาจะมาเที่ยว ตอนนี้ขนาดใช้สนามบินดอนเมืองอีกสนาม ยังทำท่าจะไม่เพียงพอแล้วนะรู้ไหม เห็นหรือยังว่า ผู้นำเก่งทำงานกับผู้นำเก่งการพูด มันแตกต่างกันยังไง
แล้วพี่ยังจำที่เคยถามผมหรือเปล่าเรื่อง คุณทักษิณขายชาติหรือทำให้ประเทศล่มจม ตอนนี้ได้คำตอบแล้วหรือยังล่ะว่า ใครกันแน่ที่จะทำให้ประเทศล่มจม ยังจะเชื่อหรือเปล่าเรื่องเลือกตั้งผู้ว่าฯจะเป็นการยึดครองประเทศของทักษิณ การเสียเมืองหลวงจะเป็นการเสียประเทศไทยเหอ พี่สาวผมบอกว่า รู้แล้วน่ะ
ถ้ารู้แล้ว วันที่ 3 พี่จะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯหรือ
พี่สาวผมบอก “พวกอั๊วเลือกยิ่งลักษณ์กันทั้งบ้านแล้วเฟ้ย”
ผมหันไปสบตากับเจ้าหลานชายตัวดี ยังไม่ทันได้ถาม เขารีบตอบ “เบอร์ 9 ครับกู๋ แถมให้อีกหนึ่งเสียงด้วย” แล้วหันไปเหล่ที่ภรรเมียด้วยความหวาดระแวง
ผมเลยหันไปมองที่หลานสะใภ้ หลานสะใภ้ก็เลยพูดขึ้นว่า “ถ้าไม่เบอร์ 9 ก็ไม่ต้องเข้าห้องนะ บอกก่อน”
ผมเลยไม่รู้ว่า ตกลงแล้วหลานชายผมเขาตาสว่างแล้วหรือกลัวคำขู่จากเบื้องบนกันแน่ งงอ่ะ