ตามอ่านห้องแป้งมาได้ซักระยะ เกิดอาการอยากลองเล่าประสบการ์ณการเป็นสิวมันแสนยาวนานของตัวเองขึ้นมาบ้าง หวังว่าประสบการ์ณตรงนี้ อาจจะให้อะไรกับคนอ่านบ้างนะค่ะ
จำได้เลยว่า รู้จักคำว่าสิวครั้งแรกก็ตอน ม3 มีเพื่อนผู้ชายในห้องที่สนิทกันมาทักว่า "แก อะไรเป็นจุดบนหน้าอะ" แล้วสิวเจ้ากรรมก็เป็นใจขึ้นอย่างกับงูฉก เป็นสองจุดคู่ขนาน ไม่ได้ใส่ใจค่ะ ปล่อยผ่านเพราะบอกแม่ แม่บอกว่า "สิวสาวนะลูก" แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดค่ะ ดันต้องไปแต่งหน้า เพราะมีงานโรงเรียน ด้วยความเป็นเด็กคิดว่าคงล้างไม่สะอาดมากเท่าที่ควร เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นมาตกใจกับหนังหน้าตัวเองมาก เพราะเป็นสิวเม็ดใหญ่ๆ ขึ้นลายเต็มหน้า เหมือนใครเอาเมจิกมาป้ายเล่น รีบค่ะรีบ แม่รีบบึ่งตรงพาลูกสาวไปหมอหมอสิวคลีนิคชื่อดัง นามว่า รา...คลีนิค หมอไม่พูดไม่จา ฉีดๆๆๆๆๆ สั่งยามาเป็นกอง ไม่ถามแม้กระทั่งว่า ไปทำอะไรมาสาวน้อย 55
การหาหมอครั้งนี้เป็นกาหาหมอที่ผิดพลาดมากสุดในชีวิต เพราะทำให้หลังจากนั้นไม่สามารถขาด "หมอรักษาสิว" ได้อีกเลย หน้าต้องอยู่กับยาแพทย์ เท่านั้น เจ้าของกระทู้ขอบอกก่อนว่าไม่ได้จบแค่ ราช..นะค่ะ
ไปมาหมดค่ะ พร..
เพราะด้วยความที่อยู่เมืองไทยการซื้อยาหมอนั้นแสนจะง่าย เลยคิดเอาเองว่า ลองผิดลองถูกเอานะ มีการพักหน้า ไปนวดหน้าให้สิวขึ้น แล้วก็กดออก หารู้ไม่ว่าเป็นการทำร้ายผิวขั้นสยอง มีการไปเลเซอร์ให้ผิวบางเล่น โดยที่ไม่รู้วัตถุประสงค์ในการใช้เลเซอ์
ทุกอย่างค่ะ ทำมาหม้ดดดดด ผลคือ หน้าแห้งมาก จนคิดเอาเองว่า อ่อ ฉันเป็นคนหน้าแห้งนะ
ความมาแตกตอนที่ได้มาใช้ชีวิตเรียนที่เมืองนอกคร่าคุณ เมื่อยาหมอชุดแรกหมด สิ่งที่รอหารประทุ ได้เกิดขึ้นคร่า ณ เวลานั้น เหลือแต่ตา จริงๆค่ะ ที่ไม่มีสิว แก้ม เหนือปาก คาง หน้าผากไม่เหลือค่ะ นอนร้องไห้ซะน้ำตาจะหมดตัว ทั้งเจ็บสิว ทั้งอายที่เดินไปไหนมาไหน แต่ก็ไม่ได้ลดความพยายาม ก็อ่านตามเน้ทค่ะ อะไรว่าดีเอาหมด ครีมอะไรให้บอก กินยาคุมโดยสั่งด้วยตัวเองก็ทำมาแล้วค่ะ กินอยู่เกือบปี เอาซะตัวบวมลดไม่ลงไปอีก 2-3 ปี
ไม่เป็นผลแหะ ไม่หายกลับแย่ลงๆ จนเราถอดใจ ว่าหน้าคงต้องเป็นแบบนี้ไปตลอด แต่พอผ่านไปได้สัก 3 ปี เน้น 3 ปีนะค่ะ สิวหายไปค่ะ หายไปแบบไม่ได้ตั้งตัว แต่จะเหลือช่วงแถวคาง รอบปาก ให้ดูเป็นคนกินอาหารสกปรกซะงั้นแต่จากทั้งหน้า เหลือแค่นี้ เจ้าของกระทู้ก็ดีใจมากแล้วค่ะ
ที่หายได้เพราะ ตอนกลับไปเมืองไทยเราตัดสินใจไปหาหมอที่เป็นหมอผิวหนังค่ะ เพราะจริงๆ เหลือแค่รอยดำๆ อยากเอาออก คุณหมอที่ i-sky เลยให้ทำ v-beam เพราะหมอบอกว่าเป็นรอยแดงไม่ใช่ดำ ถามว่าได้ผลไหม? ไม่ได้ค่ะ แล้วก็หน้าเห่อมาก ผื่นแดงขึ้นแสบหน้า แต่เราไม่เปลี่ยนหมอ กลับไปหาหมอคนเดิมที่เดิมค่ะ แล้วเอาให้หมอดู เลยถึงบางอ้อว่า อ่อ เราเป็น seb derm คุณหมอก็อธิบายว่า ถ้าเราเครียด นอนไม่พอ อาจจะทำให้เกิดขึ้น มิน่า รังแคมาตลอดตอนสอบ แล้วคุณหมอก็อธิบายความเป็นมาของโรคนี้
ตอนนี้ถามว่าสิวหายสนิทไหม? ไม่ค่ะก็ยังคงเหลือแถวรอบปากบ้าง ขึ้นเวลาเครียด หรือ ตอนประจำเดือนกำลังจะมา เลยอยากมาแชร์กับทุกคนว่า ที่ดีขึ้นได้ อย่างแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมเราเป็นสิว หาครีมที่เข้ากับหน้าเรา อย่าใช้เพราะคนอื่นบอกให้ลองเองเลย ไม่ดีทิ้งอย่าเสียดาย
นี่เป็นการตั้งกระทู้ยาวครั้งแรกในชีวิต ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังคร่า 55
ขอเม้าท์ประสบการ์ณ การเป็นสิว ตั้งแต่ ม 3 ถึงจนอายุ 30 ค่ะ
จำได้เลยว่า รู้จักคำว่าสิวครั้งแรกก็ตอน ม3 มีเพื่อนผู้ชายในห้องที่สนิทกันมาทักว่า "แก อะไรเป็นจุดบนหน้าอะ" แล้วสิวเจ้ากรรมก็เป็นใจขึ้นอย่างกับงูฉก เป็นสองจุดคู่ขนาน ไม่ได้ใส่ใจค่ะ ปล่อยผ่านเพราะบอกแม่ แม่บอกว่า "สิวสาวนะลูก" แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดค่ะ ดันต้องไปแต่งหน้า เพราะมีงานโรงเรียน ด้วยความเป็นเด็กคิดว่าคงล้างไม่สะอาดมากเท่าที่ควร เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นมาตกใจกับหนังหน้าตัวเองมาก เพราะเป็นสิวเม็ดใหญ่ๆ ขึ้นลายเต็มหน้า เหมือนใครเอาเมจิกมาป้ายเล่น รีบค่ะรีบ แม่รีบบึ่งตรงพาลูกสาวไปหมอหมอสิวคลีนิคชื่อดัง นามว่า รา...คลีนิค หมอไม่พูดไม่จา ฉีดๆๆๆๆๆ สั่งยามาเป็นกอง ไม่ถามแม้กระทั่งว่า ไปทำอะไรมาสาวน้อย 55
การหาหมอครั้งนี้เป็นกาหาหมอที่ผิดพลาดมากสุดในชีวิต เพราะทำให้หลังจากนั้นไม่สามารถขาด "หมอรักษาสิว" ได้อีกเลย หน้าต้องอยู่กับยาแพทย์ เท่านั้น เจ้าของกระทู้ขอบอกก่อนว่าไม่ได้จบแค่ ราช..นะค่ะ
ไปมาหมดค่ะ พร..
เพราะด้วยความที่อยู่เมืองไทยการซื้อยาหมอนั้นแสนจะง่าย เลยคิดเอาเองว่า ลองผิดลองถูกเอานะ มีการพักหน้า ไปนวดหน้าให้สิวขึ้น แล้วก็กดออก หารู้ไม่ว่าเป็นการทำร้ายผิวขั้นสยอง มีการไปเลเซอร์ให้ผิวบางเล่น โดยที่ไม่รู้วัตถุประสงค์ในการใช้เลเซอ์
ทุกอย่างค่ะ ทำมาหม้ดดดดด ผลคือ หน้าแห้งมาก จนคิดเอาเองว่า อ่อ ฉันเป็นคนหน้าแห้งนะ
ความมาแตกตอนที่ได้มาใช้ชีวิตเรียนที่เมืองนอกคร่าคุณ เมื่อยาหมอชุดแรกหมด สิ่งที่รอหารประทุ ได้เกิดขึ้นคร่า ณ เวลานั้น เหลือแต่ตา จริงๆค่ะ ที่ไม่มีสิว แก้ม เหนือปาก คาง หน้าผากไม่เหลือค่ะ นอนร้องไห้ซะน้ำตาจะหมดตัว ทั้งเจ็บสิว ทั้งอายที่เดินไปไหนมาไหน แต่ก็ไม่ได้ลดความพยายาม ก็อ่านตามเน้ทค่ะ อะไรว่าดีเอาหมด ครีมอะไรให้บอก กินยาคุมโดยสั่งด้วยตัวเองก็ทำมาแล้วค่ะ กินอยู่เกือบปี เอาซะตัวบวมลดไม่ลงไปอีก 2-3 ปี
ไม่เป็นผลแหะ ไม่หายกลับแย่ลงๆ จนเราถอดใจ ว่าหน้าคงต้องเป็นแบบนี้ไปตลอด แต่พอผ่านไปได้สัก 3 ปี เน้น 3 ปีนะค่ะ สิวหายไปค่ะ หายไปแบบไม่ได้ตั้งตัว แต่จะเหลือช่วงแถวคาง รอบปาก ให้ดูเป็นคนกินอาหารสกปรกซะงั้นแต่จากทั้งหน้า เหลือแค่นี้ เจ้าของกระทู้ก็ดีใจมากแล้วค่ะ
ที่หายได้เพราะ ตอนกลับไปเมืองไทยเราตัดสินใจไปหาหมอที่เป็นหมอผิวหนังค่ะ เพราะจริงๆ เหลือแค่รอยดำๆ อยากเอาออก คุณหมอที่ i-sky เลยให้ทำ v-beam เพราะหมอบอกว่าเป็นรอยแดงไม่ใช่ดำ ถามว่าได้ผลไหม? ไม่ได้ค่ะ แล้วก็หน้าเห่อมาก ผื่นแดงขึ้นแสบหน้า แต่เราไม่เปลี่ยนหมอ กลับไปหาหมอคนเดิมที่เดิมค่ะ แล้วเอาให้หมอดู เลยถึงบางอ้อว่า อ่อ เราเป็น seb derm คุณหมอก็อธิบายว่า ถ้าเราเครียด นอนไม่พอ อาจจะทำให้เกิดขึ้น มิน่า รังแคมาตลอดตอนสอบ แล้วคุณหมอก็อธิบายความเป็นมาของโรคนี้
ตอนนี้ถามว่าสิวหายสนิทไหม? ไม่ค่ะก็ยังคงเหลือแถวรอบปากบ้าง ขึ้นเวลาเครียด หรือ ตอนประจำเดือนกำลังจะมา เลยอยากมาแชร์กับทุกคนว่า ที่ดีขึ้นได้ อย่างแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมเราเป็นสิว หาครีมที่เข้ากับหน้าเรา อย่าใช้เพราะคนอื่นบอกให้ลองเองเลย ไม่ดีทิ้งอย่าเสียดาย
นี่เป็นการตั้งกระทู้ยาวครั้งแรกในชีวิต ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังคร่า 55