สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
จะว่ายังไงดี Pure Science เป็นศาสตร์ที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีทุกประเภทบนโลกใบนี้ค่ะ
สมมติเครื่องมือทางการแพทย์สักชิ้น จริงอยู่ว่าแพทย์หรือวิศวกรชีวการแพทย์ที่เป็นนักวิจัยอาจเป็นคนประดิษฐ์เครื่อง
แต่หลักการในการทำงานของตัวเครื่อง ล้วนมาจากฝีมือนักวิจัยสาย Pure ทั้งนั้นค่ะ
วิทยาศาสตร์สาย pure เกี่ยวข้องในทุกสิ่งรอบตัวเรา ตั้งแต่หลักการการกระจายแสงของทีวี ไปจนถึงเพิ่มคุณภาพน้ำมันชนิดต่างๆ
ถ้าไม่มีนักวิจัยสาย pure เราไม่มีทางที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยีทุกชนิดอย่างที่เป็นกันทุกวันนี้ค่ะ
อย่างจำได้ที่อาจารย์เคยเล่า ก็จะมีงานวิจัยสาย pure ที่บุกป่าไปสำรวจพืชชนิดต่างๆ ในไทย (ถ้าไม่ใช่สาย pure ด้าน botany ใครจะไปสำรวจ)
ทำงานวิจัยเพื่อรักษาโรคพืช ช่วยเกษตรกรในไทย ให้มีผลผลิตที่มีรายได้เพิ่มขึ้น
แล้วก็งานวิจัยของภาคเคมีที่เกี่ยวกับการพัฒนา test kit เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำ ดิน อากาศ
เพื่อไม่ให้ต้องเก็บตัวอย่างมาเข้าห้องแล็บ และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
ไหนจะมีเรื่องยารักษาโรค ทั้งโรคคน โรคสัตว์ ที่วิจัยเท่าไหร่ก็ไม่จบสิ้น เพราะเราก็คงอยากได้ยาดีที่มีราคาถูกลงเรื่อยๆ ใช่ไหมคะ
ถามว่าถ้าให้มหาวิทยาลัยเลิกสอน นักวิจัยสาย pure ตรงนี้หายไป
แล้วนักวิจัยสายประยุกต์อื่นๆ จะเอาหลักการที่ไหนไปประยุกต์ล่ะ
เราอาจจะยกตัวอย่างไม่เก่ง เพราะยังเรียนระดับปริญญาตรี ยังไม่ได้สัมผัสงานวิจัยจริงๆ
ต้องลองให้คนที่อยู่ในวงการวิจัยสาย pure มาเล่าเนอะ น่าจะเห็นภาพมากขึ้นว่ามันเกี่ยวข้องและจำเป็นกับประเทศเราอย่างไร
แต่ส่วนมากในอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยเห็นมาเล่านะคะ เสิร์ชกระทู้ไปก็เจอแต่เรียนยาก หางานยาก ตกงาน
สงสัยคนที่เขาอยากเป็นนักวิจัยจริงๆ หรือคนที่กำลังทำอาชีพนักวิจัยอยู่เขาคงขี้เกียจอธิบายเกี่ยวกับกระแสนี้แล้วมั้ง
อาจารย์ที่ทำงานด้านวิจัยยอมรับนะคะว่า เงินของนักวิจัยในประเทศไทยยังน้อย เมื่อเทียบกับอาชีพอื่นที่ต้องลงแรง เหนื่อยเท่ากัน
แต่ความรู้สึกที่ได้ค้นพบสิ่งที่เป็นประโยชน์ นำไปต่อยอดให้ประเทศชาติพัฒนาต่อไปได้เนี่ย มันคุ้มค่าค่ะ
สมมติเครื่องมือทางการแพทย์สักชิ้น จริงอยู่ว่าแพทย์หรือวิศวกรชีวการแพทย์ที่เป็นนักวิจัยอาจเป็นคนประดิษฐ์เครื่อง
แต่หลักการในการทำงานของตัวเครื่อง ล้วนมาจากฝีมือนักวิจัยสาย Pure ทั้งนั้นค่ะ
วิทยาศาสตร์สาย pure เกี่ยวข้องในทุกสิ่งรอบตัวเรา ตั้งแต่หลักการการกระจายแสงของทีวี ไปจนถึงเพิ่มคุณภาพน้ำมันชนิดต่างๆ
ถ้าไม่มีนักวิจัยสาย pure เราไม่มีทางที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยีทุกชนิดอย่างที่เป็นกันทุกวันนี้ค่ะ
อย่างจำได้ที่อาจารย์เคยเล่า ก็จะมีงานวิจัยสาย pure ที่บุกป่าไปสำรวจพืชชนิดต่างๆ ในไทย (ถ้าไม่ใช่สาย pure ด้าน botany ใครจะไปสำรวจ)
ทำงานวิจัยเพื่อรักษาโรคพืช ช่วยเกษตรกรในไทย ให้มีผลผลิตที่มีรายได้เพิ่มขึ้น
แล้วก็งานวิจัยของภาคเคมีที่เกี่ยวกับการพัฒนา test kit เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำ ดิน อากาศ
เพื่อไม่ให้ต้องเก็บตัวอย่างมาเข้าห้องแล็บ และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
ไหนจะมีเรื่องยารักษาโรค ทั้งโรคคน โรคสัตว์ ที่วิจัยเท่าไหร่ก็ไม่จบสิ้น เพราะเราก็คงอยากได้ยาดีที่มีราคาถูกลงเรื่อยๆ ใช่ไหมคะ
ถามว่าถ้าให้มหาวิทยาลัยเลิกสอน นักวิจัยสาย pure ตรงนี้หายไป
แล้วนักวิจัยสายประยุกต์อื่นๆ จะเอาหลักการที่ไหนไปประยุกต์ล่ะ
เราอาจจะยกตัวอย่างไม่เก่ง เพราะยังเรียนระดับปริญญาตรี ยังไม่ได้สัมผัสงานวิจัยจริงๆ
ต้องลองให้คนที่อยู่ในวงการวิจัยสาย pure มาเล่าเนอะ น่าจะเห็นภาพมากขึ้นว่ามันเกี่ยวข้องและจำเป็นกับประเทศเราอย่างไร
แต่ส่วนมากในอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยเห็นมาเล่านะคะ เสิร์ชกระทู้ไปก็เจอแต่เรียนยาก หางานยาก ตกงาน
สงสัยคนที่เขาอยากเป็นนักวิจัยจริงๆ หรือคนที่กำลังทำอาชีพนักวิจัยอยู่เขาคงขี้เกียจอธิบายเกี่ยวกับกระแสนี้แล้วมั้ง
อาจารย์ที่ทำงานด้านวิจัยยอมรับนะคะว่า เงินของนักวิจัยในประเทศไทยยังน้อย เมื่อเทียบกับอาชีพอื่นที่ต้องลงแรง เหนื่อยเท่ากัน
แต่ความรู้สึกที่ได้ค้นพบสิ่งที่เป็นประโยชน์ นำไปต่อยอดให้ประเทศชาติพัฒนาต่อไปได้เนี่ย มันคุ้มค่าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 3
ปัจจุบันบ้านเราก็แทบจะใช้เทคโนโลยีจากเมืองนอกเกือบจะทั้งหมดอยู่แล้ว ถ้าไม่มี pure science สงสัยคงต้องรอให้ประเทศอื่นๆป้อนเทคโนโลยีให้อย่างเดียว ประเทศที่เป็นเจ้าของเทคโนส่วนใหญ่ ก็ยังต้องการนักวิทย์ฯเพื่อพัฒนาประเทศเค้าให้เจริญยิ่งขึ้น แล้วประเทศไทยเราล่ะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนค่านิยมจากรับมา เป็นคิดค้นและผลิตใช้เองซักที
ความคิดเห็นที่ 11
ผมจบชีววิทยา สาขาที่หลายคนบอกว่าเน้นท่อง ต้องพวกชอบจำ
แต่ความจริงถ้าคนที่ได้เข้ามาเรียนสาขานี้ก็บอกได้ไม่ต่างจากสาขาอื่น
คือต้องเข้าใจและรู้ว่าหลักการคืออะไร อะไรต้องรู้ ไม่ใช่ท่องดะ
ไม่มีวิชาอะไรที่สักแต่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ทุกวิชาต้องอาศัยความเข้าใจ
และนี่คือคำตอบที่ผมได้รับมาจากตอนเรียนสาขานี้ในมหาวิทยาลัย
ซึ่งมันแตกต่างกับสมัยที่ผมเรียนชีวะตอนมัธยมอย่างสิ้นเชิง
อ้อแล้ววิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่คุณเรียนตอนปีหนึ่ง
อาจารย์ที่สอนก็มาจากคณะวิทย์ทั้งนั้นแหละ
อ้อแล้วรากฐานของเทคโนโลยีก็คือวิทยาศาสตร์
ปล. เด็กชีวะรุ่นผม 40 คน ปัจจุบันมีทั้งที่ทำงานสายตรง เปลี่ยนสาย
และส่วนหนึ่งได้ทุนไปต่อมหาวิทยาลัยดังๆ ในอเมริกา
แล้วรู้อะไรไหมครับ ในอเมริกาเพื่อนผมได้เงินวิจัยเพิ่ม
แถมอาจารย์ที่นั่นยังอยากจะให้อยู่ทำงานต่อที่โน่นเลย
โดยให้เงินเดือนที่ไม่น้อยเลย แต่เพื่อนผมก็ทำไม่ได้เพราะติดว่าต้องกลับมาใช้ทุน
น่าจะพอเห็นนะครับว่าต่างประเทศให้ความสำคัญกับด้านนี้แค่ไหน
ถึงแม้จะอยู่ในมุมมืด แต่ไม่เคยเสียใจที่เลือกสาขานี้นะ
เพราะอย่างน้อยผมได้วิธีคิดมาใช้ทำงานที่ทำอยู่ปัจจุบันได้ดีทีเดียว
แต่ความจริงถ้าคนที่ได้เข้ามาเรียนสาขานี้ก็บอกได้ไม่ต่างจากสาขาอื่น
คือต้องเข้าใจและรู้ว่าหลักการคืออะไร อะไรต้องรู้ ไม่ใช่ท่องดะ
ไม่มีวิชาอะไรที่สักแต่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ทุกวิชาต้องอาศัยความเข้าใจ
และนี่คือคำตอบที่ผมได้รับมาจากตอนเรียนสาขานี้ในมหาวิทยาลัย
ซึ่งมันแตกต่างกับสมัยที่ผมเรียนชีวะตอนมัธยมอย่างสิ้นเชิง
อ้อแล้ววิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่คุณเรียนตอนปีหนึ่ง
อาจารย์ที่สอนก็มาจากคณะวิทย์ทั้งนั้นแหละ
อ้อแล้วรากฐานของเทคโนโลยีก็คือวิทยาศาสตร์
ปล. เด็กชีวะรุ่นผม 40 คน ปัจจุบันมีทั้งที่ทำงานสายตรง เปลี่ยนสาย
และส่วนหนึ่งได้ทุนไปต่อมหาวิทยาลัยดังๆ ในอเมริกา
แล้วรู้อะไรไหมครับ ในอเมริกาเพื่อนผมได้เงินวิจัยเพิ่ม
แถมอาจารย์ที่นั่นยังอยากจะให้อยู่ทำงานต่อที่โน่นเลย
โดยให้เงินเดือนที่ไม่น้อยเลย แต่เพื่อนผมก็ทำไม่ได้เพราะติดว่าต้องกลับมาใช้ทุน
น่าจะพอเห็นนะครับว่าต่างประเทศให้ความสำคัญกับด้านนี้แค่ไหน
ถึงแม้จะอยู่ในมุมมืด แต่ไม่เคยเสียใจที่เลือกสาขานี้นะ
เพราะอย่างน้อยผมได้วิธีคิดมาใช้ทำงานที่ทำอยู่ปัจจุบันได้ดีทีเดียว
ความคิดเห็นที่ 29
จำเป็นต้องมี Pure science อย่างยิ่งครับ แต่อาจจะต้องปรับรูปแบบ โครงสร้างและเป้าหมายการผลิตบัณฑิตบ้างครับ
เช่น ให้เป็นคณะพิเศษ ที่มีจำนวนรับน้อยลง ให้ทุนการศึกษาร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อดึงดูดคนเก่งจริง ๆ สนับสนุนให้เรียนถึงระดับปริญญาเอกทั้งในและต่างประเทศ เปิดช่องทางให้เรียนต่อในสายวิทยาศาสตร์ประยุกต์หรือวิศวกรรมได้
โดยธรรมชาติของสายวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ค่อนข้างเสียเปรียบในตลาดแรงงานหากสำเร็จเพียงระดับปริญญาตรี แต่จะเหมาะสมและคุ้มค่ากว่าที่จะเรียนถึงปริญญาเอกกว่าสายอื่น
เช่น ให้เป็นคณะพิเศษ ที่มีจำนวนรับน้อยลง ให้ทุนการศึกษาร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อดึงดูดคนเก่งจริง ๆ สนับสนุนให้เรียนถึงระดับปริญญาเอกทั้งในและต่างประเทศ เปิดช่องทางให้เรียนต่อในสายวิทยาศาสตร์ประยุกต์หรือวิศวกรรมได้
โดยธรรมชาติของสายวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ค่อนข้างเสียเปรียบในตลาดแรงงานหากสำเร็จเพียงระดับปริญญาตรี แต่จะเหมาะสมและคุ้มค่ากว่าที่จะเรียนถึงปริญญาเอกกว่าสายอื่น
แสดงความคิดเห็น
เอาจริงๆแล้ว ประเทศเรา จำเป็นต้องมี การเรียนการสอนด้าน pure science หรือไม่
เลยเกิดคำถามว่า
1) ถ้าไม่มีการเรียนการสอนด้านนี้เลย จะมีอะไรเสียหาย ครับ
ผมว่าคนส่วนใหญ่ ไม่ได้สนใจเรื่อง pure science เท่าไรอยู่แล้วนะ
มหาลัยจะฝืนกระแสสังคมไปเพื่อ ?
2) จำเป็นหรือที่ว่า ต้องใช่ผู้จบวิทยาศาสตรในการทำวิจัย
งานประเภท ดัดแปลงต่อยอด เทคโนโลยี ก็ใช้ช่าง วิศวกร หมอ เภสัช ทำแทนได้ (มั้ง)
ปกติ คณะวิชาพวกนี้ เค้าก็มีการทำวิจัย อยู่โดยที่ไม่ได้ใช้ผู้จบวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำไป
สงสัยครับ